ชุมพร -ปส.4 ชุมพร รวบขบวนการค้ายาเสพติดได้พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 4 พันเม็ด ซุกใต้เบาะนั่ง อ้างเป็นม้าวิ่งรับจ้างเพียง 2 พันบาท
เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.ของวันที่ 4 ก.ค. พ.ต.ท.วัชรินทร์ ป้านสุวรรณ รอง ผกก.2 บก.ปส.4 ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า จะมีขบวนค้ายาเสพติดลักลอบขนยาบ้าจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปส่งลูกค้ายัง จ.ระนอง จึงได้สั่งการให้ทาง พ.ต.ท.พิทยา สองเมือง สว.ปส.4 หัวหน้าด่านตรวจยานพาหนะ จ.ชุมพร สนธิกำลัง ตชด.414 ชุมพร ตำรวจ สภ.สลุย และ สภ.ท่าแซะ ตั้งจุดตรวจบนถนนเพชรเกษม หลัก กม.466 หมู่ 2 ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เพื่อสกัดจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดดังกล่าว
จนกระทั่งพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิตอนครึ่ง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เป็นรถเป้าหมายวิ่งมาด้วยความเร็ว เจ้าหน้าที่ด่านจึงได้ให้ไฟสัญญาณเพื่อเรียกจอด ซึ่งปรากฎว่า คนขับได้จอดรถกลางถนนก่อนจะเปิดประตูทิ้งรถวิ่งหนีลงไปในน้ำริมถนน เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามและสามารถจับกุมตัวได้ ทราบชื่อ นายภาณุพงศ์ ชูกลิ่น อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 8 ต.น้ำจืด อ.กระบุรี จ.ระนอง เจ้าหน้าที่จึงนำตัวพร้อมรถยนต์มาตรวจสอบภายในที่ทำการด่านตรวจยานพาหนะ
จากการตรวจค้นภายในรถยนต์คันดังกล่าว พบแผ่นป้ายทะเบียน ถฐ 2214 กรุงเทพมหานคร วางอยู่บนพื้นวางเท้าเบาะด้ายซ้าย จำนวน 2 แผ่น นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบห่อกระดาษสีน้ำตาลหุ้มด้วยพลาสติกอย่างดี ซุกอยู่ใต้เบาะด้านคนขับ จำนวน 2 มัด จึงได้นำมาแกะดูเพื่อตรวจสอบพบภายในห่อดังกล่าวเป็นถุงพลาสติกสีฟ้า จำนวน 20 ถุง บรรจุยาบ้าอยู่ถุงละ 200 เม็ด รวมยาบ้าทั้งหมด 4,000 เม็ด จึงยึดไว้เป็นของกลาง
จากการสอบสวน นายภาณุพงศ์ ชูกลิ่น ให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นเพียงคนรับจ้างวิ่งของหรือเรียกว่า “ม้าวิ่ง” ให้แก่นายวุธไม่ทราบชื่อ และนามสกุลจริง อายุราว 30 ปีเศษ จำนวน 2,000 บาท พร้อมให้เสพยาบ้าฟรีจำนวนหนึ่ง โดยยาบ้าทั้งหมดไปเอาที่บริเวณหลักกิโลเมตรเลนขาขึ้น กทม. ก่อนถึง อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยจะมีคนมาวางไว้ด้านหลังของหลักกิโลเมตรดังกล่าว เมื่อได้ยาบ้า ก็จะนำขึ้นรถยนต์ขับกลับไปส่งให้แก่นายวุธ ซึ่งเปิดร้านกาแฟ และร้านคาราโอเกะบังหน้า ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม บริเวณจุดท่องเที่ยวคอคอดกระ อ.กระบุรี จ.ระนอง ซึ่งเพิ่งจะรับทำเพียงครั้งแรกก็มาถูกจับกุมได้ในที่สุด
พ.ต.ท.พิทยา สองเมือง สว.ปส.4 หัวหน้าด่านตรวจยานพาหนะ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ทำเป็นครั้งแรกนั้นเป็นสิทธิที่จะอ้างในชั้นการสอบสวน แต่ทั้งนี้ รถยนต์ที่ผู้ต้องหารายนี้ใช้ลักลอบขนยาเสพติด เป็นรถเป้าหมายที่ทางผู้บังคับบัญชาได้รับรายงานมานานแล้ว และก่อนหน้านี้ รถยนต์คันดังกล่าวสามารถขับหลบหนีเจ้าหน้าที่ที่ตั้งด่านสกัดจับไปได้ถึง 2 ครั้ง โดยเลี่ยงไปใช้เส้นทางในหมู่บ้าน แต่มาครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดชุดเฝ้าสังเกตไว้ก่อนถึงด่านประมาณ 2 กม. เมื่อพบว่า รถยนต์เป้าหมายได้ขับผ่านมา จึงได้นำกำลังออกตั้งด่านตรวจสกัด และสามารถจับกุมได้ในที่สุด จึงได้แจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย นำตัวส่งเจ้าพนักงาน สภ.สลุย อ.ท่าแซะ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป