ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 มั่นใจพยานหลักฐานที่มีอยู่จะสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่โกงสอบนายสิบที่ จ.สงขลาทั้ง 13 คนได้ แม้ผู้ต้องหาจะยังให้การปฏิเสธ
วันนี้ (30 มิ.ย.) พล.ต.ต.ประเสริฐ จันทร์สว่าง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีโกงสอบนายสิบตำรวจที่ จ.สงขลา ซึ่งใช้วิธีปลอมบัตรประชาชนให้ผู้สมัครสอบ แล้วส่งคนเข้าสอบแทนผู้สมัครตัวจริง หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 13 คนว่า เจ้าหน้าที่มั่นใจว่า คดีนี้จะสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ทุกคน เนื่องจากเป็นการรวบรวมพยานหลักฐานตามพยานเอกสาร พยานวัตถุ และคำให้การของผู้ที่ปลอมตัวเข้าสอบ แม้ผู้ต้องหาทั้ง 13 คนที่ถูกจับกุม และเข้ามอบตัวจะยังให้การปฏิเสธก็ตาม
ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 3 คน ประกอบด้วย นายพนิต ศรีนวลอินทร์ นายลภัส โฆษสิทธิเกษม และนายกฤษฎ์ กิตติกรชัยชาญ คาดว่าจะเข้ามอบตัวในวันจันทร์ที่ 2 ก.ค.นี้ ขณะที่ตัวการใหญ่คือ นายพีรเชษฐ์ หรือเก็ต ปิ่นแก้ว ได้เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่นหนาก่อนออกหมายจับ
ด้าน พล.ต.ต.สุวิทย์ เชิญศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา กล่าวว่า คดีนี้ทางตำรวจ จ.สงขลาได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นผู้จัดการสอบโดยใช้สถานที่สอบใน จ.สงขลา จนสามารถทลายเครือข่ายโกงสอบนายสิบได้ทั้งหมด ซึ่งการสอบนายสิบตำรวจที่ จ.สงขลานั้น จะเป็นกลุ่มที่จะบรรจุลงไปทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
“ที่สำคัญ การคลี่คลายคดีนี้เป็นผลมาจากคณะทำงานของตำรวจภูธร จ.สงขลาทุกฝ่าย ทั้งชุดสอบสวน และชุดสืบสวนที่ได้กดดันติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งที่กรุงเทพฯ และภูมิลำเนาตามจังหวัดต่างๆ หลังถูกออกหมายจับ กระทั่งบางส่วนได้ยอมเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่” พล.ต.ต.สุวิทย์กล่าว
