ลำปาง - พี่ชายภรรยาของ “ดาชัย - แดงตัวเอ้” ผู้สมัครนายก อบจ.ลำปาง 1 ในผู้ต้องหาตามหมายจับศาลฯคดีฉ้อโกงประชาชน ทุจริตสอบตำรวจชั้นประทวน เข้ามอบตัวตำรวจลำปาง หลังถูกศาลฯออกหมายจับร่วมโกงสอบตำรวจ
เมื่อเวลา 10.20 น.วันนี้ (21 มิ.ย.55) ที่ห้องประชุมชั้น 2 สถานีตำรวจภูธรเมืองลำปาง พ.ต.ต.พรชัย พักตร์ผ่องศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนที่ตั้งขึ้นเฉพาะกิจในการติดตามจับกุมผู้ที่มีส่วนร่วมในขบวนการทุจริตสอบนายสิบตำรวจ ของตำรวจภูธรภาค 5 ได้ทำการสอบปากคำนายประพัฒน์ เมืองมูล อายุ 44 ปีที่อยู่ปัจจุบันคือ 25/3 ม.2 ต.นาแก อ.งาว จ.ลำปาง หลังถูกศาลจังหวัดลำปางออกหมายจับเลขที่ 110/2555 ในคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
โดยนายประพัฒน์ ได้เดินทางมาพร้อมกับทนายความและเข้ามอบตัวตามหมายจับซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้ควบคุมตัวเพื่อทำการสอบสวนขยายผล ภายใน 48 ชั่วโมงก่อน ที่จะขออำนาจศาลฝากขังต่อไป
ทั้งนี้ นายประพัฒน์ เป็นพี่ชายของภรรยาของนายดาชัย อุชุโกศลการ ผู้สมัครนายก อบจ.ลำปาง ซึ่งตำรวจภูธรภาค 3 ได้ขอให้ศาลจังหวัดนครราชสีมา ออกหมายจับไปก่อนหน้านี้ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน หลังถูกนางเตือนใจ พงษ์พันธ์ ผู้ต้องหาในการทุจริตสอบนายสิบตำรวจ ซัดทอดว่า จะนำเงินดังกล่าวมาส่งให้นายดาชัย ซึ่งนายดาชัย ได้ให้การปฏิเสธพร้อมใช้เงินประกันตัว 140,000 บาท
หลังจากนั้นนายดาชัย ก็ได้เข้าแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปางว่าตนเองพร้อมจะมาให้สอบปากคำทุกเมื่อหากต้องการ แต่ขณะนี้ตนต้องตระเวนหาเสียงเนื่องจากอยู่ระหว่างการสมัครนายก อบจ.ลำปาง ซึ่งจะมีการเลือกตั้งในเดือนกรกฎาคม 55 นี้
โดยเบื้องต้นนายประพัฒน์ ให้การปฏิเสธ โดยบอกว่า ตนไม่ได้ร่วมในขบวนการนี้ ปัจจุบันตนเองทำธุรกิจเปิดร้านอาหารอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนนายดาชัย ตนรู้จัก เนื่องจากเป็นสามีของน้องสาว แต่ตนเองไม่ค่อยได้ยุ่งเกี่ยวกับนายดาชัย และไม่เคยทำธุรกิจร่วมกัน เนื่องจากตนกับนายดาชัย ไม่กินเส้นกันจึงต่างคนต่างอยู่ไม่ข้องแวะกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้รวม 6 รายได้ซัดทอดถึงนายประพัฒน์ ว่า มีส่วนในขบวนการดังกล่าว และจากการสืบย้อนหลังไปเมื่อปี 2548 นายประพัฒน์ ได้ถูกจับพร้อมด้วยโทรศัพท์รวม 40 เครื่องภายในบริเวณสนามสอบแห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลย้อนหลังเพื่อสอบหาความเชื่อโยงต่อไป
ส่วนความคืบหน้าของการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายศาลในคดีดังกล่าวของตำรวจภูธรภาค 5 ขณะนี้ยังคงมีเท่าเดิมคือ จำนวน 7 รายโดยจะมีการแถลงข่าวความคืบหน้าอย่างเป็นทางการอีกครั้งเย็นวันเดียวกันนี้