กระบี่ - ชาวประมง จ.กระบี่ สุดทนหลังพบมีน้ำมันเตารั่วไหลลงทะเล ทำลายระบบนิเวศ สิ่งแวดล้อมพื้นที่ป่าชายเลนหลายพันไร่ ยังไม่มีหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าตรวจสอบแต่อย่างใด
เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น. วันนี้ (30 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ที่ 8 บ้านแหลมกรวด ตำบลคลองขนาน อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ว่า มีคราบน้ำมันสีดำจำนวนมากลอยมากับน้ำทะเล ไปติดอยู่ตามป่าชายเลน บริเวณบ้านแหลมกรวด ต.คลองขนาด จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่า ตลอดแนวชายฝั่งป่าชายเลนบ้านแหลมกรวดที่น้ำทะเลขึ้นถึงได้พัดเอาคราบน้ำมันสีดำคล้ำมาเกาะอยู่ตามต้นโกงกางจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังพบว่าหลังจากที่น้ำทะเลลดลงแล้วพื้นดินบริเวณดังกล่าวก็ยังมีคราบน้ำมันติดอยู่ ซึ่งชาวบ้านเกรงว่าคราบน้ำมันดังกล่าวจะส่งผลทำให้สัตว์น้ำทุกชนิด ทั้งกุ้ง หอย ปลา ปู ที่มีอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ในบริเวณดังกล่าวตายได้
นายเหลบ ชลธี อายุ 49 ปี ชาวบ้านแหลมกรวด เปิดเผยว่า สำหรับคราบน้ำมันที่พบอยู่ตามป่าชายเลน น่าจะเป็นคราบน้ำมันเตา เนื่องจากมีลักษณะเป็นสีดำคล้ายยางมะตอย เกาะติดอยู่ตามรากต้นโกงกาง ต้นไม้ และพื้นดินตามแนวชายหาด ตลอดแนวบริเวณป่าชายเลนกว่า 10 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ หมู่ที่ 8, 9 ต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ รวมพื้นที่ป่าชายเลนนับพันไร่ คาดว่าทำให้สัตว์น้ำ กุ้ง หอย ปู ปลา ที่อาศัยตามแนวป่าชายเลน ตายเป็นจำนวนมาก สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่มีอาชีพประมงชายฝั่งและ ผู้ที่เลี้ยงปลาในกระชัง นากุ้ง ได้รับความเสียหาย ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ และทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างหนัก แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าตรวจสอบ แต่อย่างใด จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยด่วน
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังโรงไฟฟ้าภาคใต้ จังหวัดกระบี่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ถึงคราบนำมันที่ลอยมาติดอยู่ตมป่าชายเลนบ้านแหลมกรวด ทราบรายละเอียด จาก นายพยงค์ ตันตาปกุล หัวหน้าแผนกบริหารท่าเรือโรงไฟฟ้ากระบี่ ว่า เหตุน้ำมันรั่วลอยไปติดอยู่ตามป่าโกงกางนั้นไม่ใช่เป็นของโรงไฟฟ้าฯ แต่เป็นของเอกชนรายหนึ่งที่เกิดจากเรือบรรทุกน้ำมันชนโขดหิน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยในเบื้องต้น ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองขนานว่า มีน้ำมันลักษณะคล้ายน้ำมันเตารั่วไหลลงในทะเล บริเวณท่าเรือบ้านแหลมกรวด
ทางแผนกบริหารท่าเรือได้จัดเจ้าหน้าที่ พร้อมอุปกรณ์กำจัดคราบน้ำมันไปยังจุดเกิดเหตุ พบเรือประมงดัดแปลงเป็นเรือขนส่งน้ำมัน ชื่อ อ.สมศักดิ์ กำลังทำการสูบถ่ายน้ำมันจากเรือ นับหมื่นลิตรใส่รถบรรทุกน้ำมัน และพบว่า มีน้ำมันหกรั่วไหลลงสู่ทะเลจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ทำการล้อมทุ่นกักน้ำมัน และขจัดคราบน้ำมันตามชายหาดป่าชายเลน โดยเรือบรรทุกน้ำมันดังกล่าว ได้บรรทุกน้ำมันเตาที่ใช้แล้ว ไม่ทราบแหล่งที่มาที่ชัดเจน เดินทางมาส่งน้ำมันให้แก่รถบรรทุกน้ำมันซึ่งจอดรออยู่แล้ว ที่บริเวณท่าเรือขนส่งสินค้าบ้านแหลมกรวด แต่เรือได้ชนกับโขดหินใต้น้ำ ทำให้น้ำมันได้รั่วไหลลงสู่ทะเลจำนวนมาก
ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองขนาน ได้ทำการจับกุมกัปตันเรือและแจ้งเจ้าหน้าที่สรรพสามิตมาทำการสอบสวนพร้อมทั้งเปรียบเทียบปรับในเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว และให้ทางเรือบรรทุกน้ำมันรีบดำเนินการสูบถ่ายน้ำมันให้เสร็จโดยเร็ว และทำการซ่อมแซมรอยรั่วของเรือ เพื่อลดการรั่วไหลของน้ำมันให้น้อยที่สุดก่อนปล่อยเรือลำดังกล่าวออกไปจากท่าเรือ
แหล่งข่าวรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ได้เปรียบเทียบปรับ เป็นเงินประมาณ 1 แสนบาท และจากการตรวจสอบคุณภาพน้ำมันที่รั่วไหลออกมาของเจ้าหน้าที่โรงไฟฟ้ากระบี่ ซึ่งใช้น้ำมันเตาเป็นเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้า พบว่าเป็นน้ำมันเตาใหม่ผสมกับน้ำมันที่ใช้แล้ว สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงโรงงานอุตสาหกรรม ส่วนจะเป็นน้ำมันเถื่อนหรือไม่ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบที่มาที่ไปอีกครั้ง
เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น. วันนี้ (30 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ที่ 8 บ้านแหลมกรวด ตำบลคลองขนาน อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ว่า มีคราบน้ำมันสีดำจำนวนมากลอยมากับน้ำทะเล ไปติดอยู่ตามป่าชายเลน บริเวณบ้านแหลมกรวด ต.คลองขนาด จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่า ตลอดแนวชายฝั่งป่าชายเลนบ้านแหลมกรวดที่น้ำทะเลขึ้นถึงได้พัดเอาคราบน้ำมันสีดำคล้ำมาเกาะอยู่ตามต้นโกงกางจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังพบว่าหลังจากที่น้ำทะเลลดลงแล้วพื้นดินบริเวณดังกล่าวก็ยังมีคราบน้ำมันติดอยู่ ซึ่งชาวบ้านเกรงว่าคราบน้ำมันดังกล่าวจะส่งผลทำให้สัตว์น้ำทุกชนิด ทั้งกุ้ง หอย ปลา ปู ที่มีอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ในบริเวณดังกล่าวตายได้
นายเหลบ ชลธี อายุ 49 ปี ชาวบ้านแหลมกรวด เปิดเผยว่า สำหรับคราบน้ำมันที่พบอยู่ตามป่าชายเลน น่าจะเป็นคราบน้ำมันเตา เนื่องจากมีลักษณะเป็นสีดำคล้ายยางมะตอย เกาะติดอยู่ตามรากต้นโกงกาง ต้นไม้ และพื้นดินตามแนวชายหาด ตลอดแนวบริเวณป่าชายเลนกว่า 10 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ หมู่ที่ 8, 9 ต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ รวมพื้นที่ป่าชายเลนนับพันไร่ คาดว่าทำให้สัตว์น้ำ กุ้ง หอย ปู ปลา ที่อาศัยตามแนวป่าชายเลน ตายเป็นจำนวนมาก สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่มีอาชีพประมงชายฝั่งและ ผู้ที่เลี้ยงปลาในกระชัง นากุ้ง ได้รับความเสียหาย ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ และทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างหนัก แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าตรวจสอบ แต่อย่างใด จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยด่วน
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังโรงไฟฟ้าภาคใต้ จังหวัดกระบี่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ถึงคราบนำมันที่ลอยมาติดอยู่ตมป่าชายเลนบ้านแหลมกรวด ทราบรายละเอียด จาก นายพยงค์ ตันตาปกุล หัวหน้าแผนกบริหารท่าเรือโรงไฟฟ้ากระบี่ ว่า เหตุน้ำมันรั่วลอยไปติดอยู่ตามป่าโกงกางนั้นไม่ใช่เป็นของโรงไฟฟ้าฯ แต่เป็นของเอกชนรายหนึ่งที่เกิดจากเรือบรรทุกน้ำมันชนโขดหิน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยในเบื้องต้น ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองขนานว่า มีน้ำมันลักษณะคล้ายน้ำมันเตารั่วไหลลงในทะเล บริเวณท่าเรือบ้านแหลมกรวด
ทางแผนกบริหารท่าเรือได้จัดเจ้าหน้าที่ พร้อมอุปกรณ์กำจัดคราบน้ำมันไปยังจุดเกิดเหตุ พบเรือประมงดัดแปลงเป็นเรือขนส่งน้ำมัน ชื่อ อ.สมศักดิ์ กำลังทำการสูบถ่ายน้ำมันจากเรือ นับหมื่นลิตรใส่รถบรรทุกน้ำมัน และพบว่า มีน้ำมันหกรั่วไหลลงสู่ทะเลจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ทำการล้อมทุ่นกักน้ำมัน และขจัดคราบน้ำมันตามชายหาดป่าชายเลน โดยเรือบรรทุกน้ำมันดังกล่าว ได้บรรทุกน้ำมันเตาที่ใช้แล้ว ไม่ทราบแหล่งที่มาที่ชัดเจน เดินทางมาส่งน้ำมันให้แก่รถบรรทุกน้ำมันซึ่งจอดรออยู่แล้ว ที่บริเวณท่าเรือขนส่งสินค้าบ้านแหลมกรวด แต่เรือได้ชนกับโขดหินใต้น้ำ ทำให้น้ำมันได้รั่วไหลลงสู่ทะเลจำนวนมาก
ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองขนาน ได้ทำการจับกุมกัปตันเรือและแจ้งเจ้าหน้าที่สรรพสามิตมาทำการสอบสวนพร้อมทั้งเปรียบเทียบปรับในเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว และให้ทางเรือบรรทุกน้ำมันรีบดำเนินการสูบถ่ายน้ำมันให้เสร็จโดยเร็ว และทำการซ่อมแซมรอยรั่วของเรือ เพื่อลดการรั่วไหลของน้ำมันให้น้อยที่สุดก่อนปล่อยเรือลำดังกล่าวออกไปจากท่าเรือ
แหล่งข่าวรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ได้เปรียบเทียบปรับ เป็นเงินประมาณ 1 แสนบาท และจากการตรวจสอบคุณภาพน้ำมันที่รั่วไหลออกมาของเจ้าหน้าที่โรงไฟฟ้ากระบี่ ซึ่งใช้น้ำมันเตาเป็นเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้า พบว่าเป็นน้ำมันเตาใหม่ผสมกับน้ำมันที่ใช้แล้ว สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงโรงงานอุตสาหกรรม ส่วนจะเป็นน้ำมันเถื่อนหรือไม่ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบที่มาที่ไปอีกครั้ง
