ยะลา - อัยการยะลาแฉ พบขบวนการปลอมแปลงเอกสารอาวุธปืนแฝงสถานการณ์ใต้ หลอกขายประชาชนในพื้นที่ มีผู้เสียหายถูกหลอกแล้วกว่า 50 ราย
วันนี้ (27 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยข้อมูลของขบวนการปลอมแปลงเอกสาร และหลอกขายอาวุธปืนให้แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดยะลา จากนายธวัชชัย อินสะโร อัยการผู้ช่วยสำนักงานอัยการจังหวัดยะลาว่า ได้มีการตรวจสอบ และพบความผิดปกติของการขึ้นทะเบียนอาวุธปืนของชาวบ้านรายหนึ่งใน อ.ธารโต จ.ยะลา โดยมีการติดต่อสั่งซื้ออาวุธปืน ขนาด 9 มม. ผ่านทางอินเทอร์เนต และมีการจ่ายเงิน ส่งเอกสารทะเบียนอาวุธปืน ทะเบียนการโอนอาวุธปืนผ่านไปรษณีย์
เมื่อผู้สั่งซื้อ นำอาวุธปืน และเอกสารประกอบทะเบียนอาวุธปืนที่ได้รับ ไปให้เจ้าหน้าที่ทะเบียนประจำอำเภอ ทำการขึ้นทะเบียนอาวุธปืน และตรวจสอบ เพื่อโอนกรรมสิทธิ์อาวุธให้แก่ตนเอง ก็พบว่า อาวุธปืนดังกล่าวที่ได้สั่งซื้อมาในราคา 40,000 บาท มีการปลอมแปลงเอกสาร ตราราชการ และลายเซ็นของนายอำเภอ นายทะเบียนผู้ออกทะเบียนควบคุมอาวุธปืน เจ้าหน้าที่จึงได้สั่งสอบสวนดำเนินการทางคดี
นายธวัชชัย อินสะโร อัยการผู้ช่วย สำนักงานอัยการจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2550 ซึ่งมีการตรวจสอบย้อนหลังกลับไป ก็พบผู้ถูกหลอกเป็นชาวบ้านในพื้นที่ อ.บันนังสตา อ.ธารโต จ.ยะลา รวมกว่า 50 ราย ซึ่งบางรายถูกหลอกขายอาวุธปืนที่ไม่มีทะเบียน หรือปืนเถื่อน บางรายก็ถูกปลอมแปลงเอกสารทางราชการ เพื่อนำไปอ้างกับทางอำเภอ แต่ก็มีการตรวจสอบพบ และจากการติดตามสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พบผู้เกี่ยวข้อง และสามารถจับกุมได้แล้ว 1 ราย เป็นผู้หญิง เจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งตรวจสอบภายในรถยนต์ ก็พบเอกสารต้นขั้วใบ ป.4 จำนวนหลายร้อยใบ ที่มีการปลอมแปลง ตราราชการ และลายเซ็นนายทะเบียน โดยขณะนี้ ก็ได้ถูกศาลตัดสินจำคุกแล้ว
นายธวัชชัย อินสะโร อัยการผู้ช่วย สำนักงานอัยการจังหวัดยะลา ระบุว่า ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ก็ยังพบประชาชน ชาวบ้านที่ถูกขบวนการดังกล่าว หลอกขายอาวุธปืน โดยแอบแฝงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ช่วงที่ประชาชนเกิดความเดือดร้อน ต้องการอาวุธปืนไว้ป้องกันตนเอง มาหลอกขายผ่านทางอินเทอร์เน็ต หรือนายหน้า จึงอยากฝากเตือนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หากต้องการจะซื้ออาวุธปืน ก็ให้ซื้อได้ที่ร้านค้าที่จำหน่ายอาวุธปืนที่เปิดถูกต้องตามกฎหมาย หรือหากซื้อในลักษณะของการซื้อมือต่อมือ ก็ให้นำผู้ขายพร้อมเอกสาร และอาวุธปืนไปตรวจสอบกับนายทะเบียนประจำอำเภอ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการถูกขบวนการดังกล่าวหลอกขาย