ตรัง - คนร้ายยิงถล่มเจ้าหน้าที่สำนักงานชลประทานตรัง ขณะกำลังถอนขนไก่เตรียมทำแกงไปวัด ตำรวจมุ่งประเด็นลูกชายถูกแทงตายเมื่อเร็วๆ นี้ ส่วนปัญหาความขัดแย้งอื่นไม่ปรากฎพบ
เมื่อเวลา 00.30 น. วันนี้ (26 มิ.ย.) พ.ต.ท.มานิตย์ บุญรักษ์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ย่านตาขาว จังหวัดตรัง รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่บริเวณชายคา หลังบ้านเลขที่ 19/3 หมู่ที่ 2 บ้านพรุกำหวาน ต.หนองบ่อ อ.ย่านตาขาว จึงรายงานผู้บังคับบัญชา แล้วรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพย์พงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.บุญยงค์ ภู่จิรเกษม ผกก.สภ.ย่านตาขาว แพทย์เวรโรงพยาบาลย่านตาขาว และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ พบร่างของ นายสมพงษ์ พลประสิทธิ์ หรือเป็ด อายุ 45 ปี เจ้าของบ้าน มีตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานชลประทานตรัง นอนหงายเสียชีวิตในสภาพนุ่งกางเกงในสีขาวเพียงตัวเดียว มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด .45 เข้าที่บริเวณไหล่ซ้าย เนินอกซ้าย ชายโครงซ้าย เนินอกขวา แขนขวา ขาขวา โคนขาขวา สะโพกขวา รวมจำนวน 16 แผล ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน ขนาด .45 จำนวน 3 ปลอก และหัวกระสุนขนาดเดียว จำนวน 3 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานประกอบคดี
นางวัลนา พลประสิทธิ์ อายุ 43 ปี ภรรยาผู้ตาย ซึ่งทำงานเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานชลประทานตรัง เช่นกันให้การว่า ขณะเกิดเหตุ สามีกำลังนั่งถอนขนไก่ที่เพิ่งจะฆ่า เพื่อเตรียมปรุงอาหารนำไปวัดในวันพระ ได้มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด และมีเสียงสามีร้องด้วยความเจ็บปวด ตนจึงวิ่งจากหน้าบ้านออกมาดู แต่ยังมีเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด ตนจึงหมอบอยู่ภายในบ้านพักหนึ่ง ก่อนจะเปิดประตูออกมาดู ก็พบร่างของสามีนอนจมกองเลือดสิ้นใจตายแล้ว ส่วนสาเหตุนั้นตนไม่ทราบ เพราะทางครอบครัวไม่เคยมีปัญหากับใคร
ทั้งนี้ จากการสืบสวนของทางเจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ย่านตาขาว พบว่า เมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา นายกิตติศักดิ์ พลประสิทธิ์ อายุ 19 ปี ลูกชายผู้ตาย ก็เพิ่งจะถูกแทงด้วยอาวุธมีดจนเสียชีวิต ก่อนที่จะจับกุมคนร้ายได้ในเวลาต่อมา พร้อมกับมีพิธีเผาศพ นายกิตติศักดิ์ ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งนายสมพงษ์ เองก็ไม่ได้อาฆาตแค้นอะไรกับอีกฝ่ายหนึ่ง โดยปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย แต่อีกฝ่ายหนึ่งอาจจะยังติดใจปัญหาค้างเก่าเรื่องลูกชายของผู้ตาย และเป็นที่มาของการสังหารโหดดังกล่าวก็เป็นได้
สำหรับปัญหาเรื่องการทำงานที่สำนักงานชลประทานตรัง หรือปัญหาเรื่องความขัดแย้งอื่นกับผู้คนในหมู่บ้านเดียวกันนั้นไม่ปรากฎพบ เนื่องจาก นายสมพงษ์ ผู้ตาย มีความประพฤติเรียบร้อย และเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนหารายละเอียดที่ชัดเจนต่อไป รวมทั้งติดตามตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่า น่าจะไม่ใช่มือปืนรับจ้าง และมีเพียงคนเดียว โดยใช้วิธีเดินเท้ามาจากทางสวนยางพาราหลังบ้าน แล้วลงมือลั่นไก ก่อนจะเดินย้อนกลับยังเส้นทางเดิมหลบหนีไป
เมื่อเวลา 00.30 น. วันนี้ (26 มิ.ย.) พ.ต.ท.มานิตย์ บุญรักษ์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ย่านตาขาว จังหวัดตรัง รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่บริเวณชายคา หลังบ้านเลขที่ 19/3 หมู่ที่ 2 บ้านพรุกำหวาน ต.หนองบ่อ อ.ย่านตาขาว จึงรายงานผู้บังคับบัญชา แล้วรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพย์พงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.บุญยงค์ ภู่จิรเกษม ผกก.สภ.ย่านตาขาว แพทย์เวรโรงพยาบาลย่านตาขาว และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ พบร่างของ นายสมพงษ์ พลประสิทธิ์ หรือเป็ด อายุ 45 ปี เจ้าของบ้าน มีตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานชลประทานตรัง นอนหงายเสียชีวิตในสภาพนุ่งกางเกงในสีขาวเพียงตัวเดียว มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด .45 เข้าที่บริเวณไหล่ซ้าย เนินอกซ้าย ชายโครงซ้าย เนินอกขวา แขนขวา ขาขวา โคนขาขวา สะโพกขวา รวมจำนวน 16 แผล ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน ขนาด .45 จำนวน 3 ปลอก และหัวกระสุนขนาดเดียว จำนวน 3 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานประกอบคดี
นางวัลนา พลประสิทธิ์ อายุ 43 ปี ภรรยาผู้ตาย ซึ่งทำงานเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานชลประทานตรัง เช่นกันให้การว่า ขณะเกิดเหตุ สามีกำลังนั่งถอนขนไก่ที่เพิ่งจะฆ่า เพื่อเตรียมปรุงอาหารนำไปวัดในวันพระ ได้มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด และมีเสียงสามีร้องด้วยความเจ็บปวด ตนจึงวิ่งจากหน้าบ้านออกมาดู แต่ยังมีเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด ตนจึงหมอบอยู่ภายในบ้านพักหนึ่ง ก่อนจะเปิดประตูออกมาดู ก็พบร่างของสามีนอนจมกองเลือดสิ้นใจตายแล้ว ส่วนสาเหตุนั้นตนไม่ทราบ เพราะทางครอบครัวไม่เคยมีปัญหากับใคร
ทั้งนี้ จากการสืบสวนของทางเจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ย่านตาขาว พบว่า เมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา นายกิตติศักดิ์ พลประสิทธิ์ อายุ 19 ปี ลูกชายผู้ตาย ก็เพิ่งจะถูกแทงด้วยอาวุธมีดจนเสียชีวิต ก่อนที่จะจับกุมคนร้ายได้ในเวลาต่อมา พร้อมกับมีพิธีเผาศพ นายกิตติศักดิ์ ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งนายสมพงษ์ เองก็ไม่ได้อาฆาตแค้นอะไรกับอีกฝ่ายหนึ่ง โดยปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย แต่อีกฝ่ายหนึ่งอาจจะยังติดใจปัญหาค้างเก่าเรื่องลูกชายของผู้ตาย และเป็นที่มาของการสังหารโหดดังกล่าวก็เป็นได้
สำหรับปัญหาเรื่องการทำงานที่สำนักงานชลประทานตรัง หรือปัญหาเรื่องความขัดแย้งอื่นกับผู้คนในหมู่บ้านเดียวกันนั้นไม่ปรากฎพบ เนื่องจาก นายสมพงษ์ ผู้ตาย มีความประพฤติเรียบร้อย และเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนหารายละเอียดที่ชัดเจนต่อไป รวมทั้งติดตามตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่า น่าจะไม่ใช่มือปืนรับจ้าง และมีเพียงคนเดียว โดยใช้วิธีเดินเท้ามาจากทางสวนยางพาราหลังบ้าน แล้วลงมือลั่นไก ก่อนจะเดินย้อนกลับยังเส้นทางเดิมหลบหนีไป