ตรัง - หนุ่มใหญ่ชาวตรังซิ่ง 6 ล้อ ขนรถจักรยานยนต์จากโกดัง ไปส่งบริษัทรถชื่อดังที่สำนักงานใหญ่ ขับขี่ผ่านรางรถไฟไม่มองให้ดี ถูกม้าเหล็กพุ่งชนท้ายก่อนหมุนตลบ โชคดีรอดตายหวุดหวิด
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (25 มิ.ย.) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถไฟขบวนรถเร็วที่ 167 กรุงเทพฯ-กันตัง พุ่งชนด้านข้างรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 80-6715 ตรัง ของบริษัท ตั้งใจยนตการ จำกัด ซึ่งบรรทุกรถจักรยานยนต์มาเต็มคันรถ ในสภาพรถทั้ง 2 คัน เบียดชิดติดกันกลางถนน โดยหันหัวไปคนละทาง ส่วนที่ล้อหลังของรถบรรทุก 6 ล้อ ได้ไปเบียดชนเข้ากับแท่งปูนขนาดใหญ่ที่วางกั้นข้างทาง จนไม่สามารถเคลื่อนย้าย หรือขยับรถได้ เจ้าหน้าที่ต้องนำเชือกมาผูกกับแท่งปูน แล้วใช้รถยนต์โฟร์วีลลากออกมา จึงขับเคลื่อนย้ายรถออกมาจากรถไฟได้อย่างปลอดภัย โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ส่งผลให้รถทั้ง 2 ฝั่งติดขัดยาวเหยียด จนการจราจรเป็นอัมพาตนานนับชั่วโมง ท่ามกลางไทยมุงนับ 100 คน
จากการสอบถาม นายธวัชชัย สุขยิ่ง อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นพนักงานขับรถบรรทุก 6 ล้อ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ไปรับรถจัรยานยนต์ จำนวน 22 คัน มาจากโกดังที่บ้านนาป้อ ต.ควนปริง อ.เมืองตรัง เพื่อนำมาส่งให้แก่บริษัท ตั้งใจยนตการ สำนักงานใหญ่ ในตัวเมืองตรัง แต่ระหว่างทางเมื่อมาถึงจุดตัดรางรถไฟ ก็ได้หันไปมองรถทางขวา เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้ว จึงได้ขับรถข้ามผ่าน แต่ส่วนท้ายยังไม่พ้น และเมื่อหันกลับมาอีกทีก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นรถไฟวิ่งพุ่งมาชนท้ายรถอย่างจัง เป็นเหตุให้รถหมุนตลบไปฟาดกับหัวรถจักร ก่อนที่รถไฟจะลากรถบรรทุกที่ตนขับอยู่ไปไกลประมาณ 5 เมตร ซึ่งระหว่างนั้น แม้จะตกใจแต่ตนก็พยายามควบคุมสติ พร้อมกับเหยียบเบรกรถไว้ เพื่อไม่ให้รถไหลตกลงไปข้างล่าง ซึ่งเป็นทางต่างระดับลึกประมาณ 1 เมตร ก่อนที่ล้อรถด้านหลังจะไปชน และเบียดแท่งปูนทั้ง 3 แท่งที่กั้นตามแนวถนน จนเป็นเหตุให้รถหยุดสนิทนิ่งกับที่
ขณะที่ นายอุดมพร ผาสุข พนักงานขับรถไฟขบวนรถเร็วที่ 167 กรุงเทพฯ-กันตัง ให้การว่า ได้ขับรถไฟขบวนดังกล่าวมาจากกรุงเทพฯ เมื่อมาถึงชานชาลา ก็ได้หยุดรับส่งผู้โดยสาร จากนั้น ได้มุ่งหน้าจะไปยังอำเภอกันตัง ซึ่งเป็นสถานีปลายทาง ระหว่างทางก็ได้เห็นรถบรรทุก 6 ล้อ กำลังขับผ่านรางรถไฟ จึงได้เปิดหวูดส่งสัญญาณเตือนเป็นระยะ และได้ลดความเร็วลง แต่รถคันดังกล่าวก็ยังขับข้ามผ่านรางรถไฟไม่พ้น และแม้ว่าตนจะพยายามเหยียบเบรกแล้ว แต่ก็ไม่สามารถควบคุมได้ เนื่องจากสายลมเบรกขาด ทำให้พุ่งเข้าชนรถบรรทุก 6 ล้อคันดังกล่าว แต่เคราะห์ดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตแต่อย่างใด
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใคร เพราะต้องรอเรียกพนักงานขับรถไฟมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม สำหรับจุดตัดรางรถไฟเลียบถนนคลองน้ำเจ็ดนั้น ที่ผ่านมา มักจะเกิดอุบัติเหตุรถไฟชนกับรถต่างๆ มาแล้วหลายครั้ง แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่ได้หามาตรการป้องกันอย่างเป็นรูปธรรม กระทั่งมาเกิดอุบัติเหตุชนกับรถบรรทุก 6 ล้อดังกล่าวซ้ำอีก