อดีต ผอ.ร.ร.ตรังดวงแข็ง ถูกรถไฟชนแต่รอดตายปาฎิหาริย์

ตรัง - อดีต ผอ.ร.ร.ดัง ขับรถไปรับ นศ.วัย 19 กลับจาก ร.ร.สอนขับรถ ดวงซวยถูกม้าเหล็กขยี้ แต่รอดตายปาฎิหาริย์ ส่วน นศ.สาวเจ็บปางตาย

วันนี้ (26 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ร.ต.อ.พิเชษฐ์ ซูซัน ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองตรัง รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถไฟชนกับรถกระบะและมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณถนนตัดผ่านทางรถไฟ บ้านต้นปริง เขตเทศบาลนครตรัง ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟ จ.ตรัง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง

โดยพบรถไฟขบวนที่ 167กรุงเทพฯ-กันตัง จอดอยู่ ห่างออกไปประมาณ 60 เมตร มีรถกระบะ อีซูซุ สีน้ำเงิน ตอนเดียว ทะเบียน บจ 7691 ตรัง จอดขวางรางรถไฟอยู่ โดยที่ประตูด้านคนนั่งข้างถูกอัดก๊อปปี้จนพังยับเยิน ส่วนกระจกประตูรถแตกละเอียด ล้อหน้าขวาบิดเบี้ยวเกือบหลุด และยางแบน พร้อมทั้งพบพระเครื่องหลวงพ่อทวดตกหล่นอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย 1 องค์ ส่วนผู้บาดเจ็บทราบว่า มี 2 คน ได้ถูกนำส่งโรงพยาบาลตรังแล้ว และ 1 ในนั้นอาการสาหัส คือ น.ส.เบญจพร ศรีเพชร อายุ 19 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง มีบาดแผลที่ศีรษะเลือดไหลอาบ จากเศษกระจกรถที่แตกบาด ส่วนนายปรัชญา นวลนิ่ม อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ที่12 ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง ซึ่งเป็นอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดังได้รับบาดเจ็บแขนทั้ง 2 ข้างถลอกเล็กน้อย

จากการสอบสวน นายปรัชญา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถยนต์คันดังกล่าว ไปรับ น.ส.เบญจพร ที่โรงเรียนสอนขับรถยนต์ท่ากลางเพื่อไปส่งที่บ้าน ระหว่างทางเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้ชะลอความเร็วของรถลง จากนั้นได้มองซ้ายมองขวา จนแน่ใจว่าปลอดภัยจึงได้ขับรถข้ามผ่านรางรถไฟ แต่เมื่อหันกลับมามองอีกครั้ง ก็เห็นรถไฟพุ่งเข้าชนอย่างแรง โดยไม่ทันตั้งตัว ส่งผลให้แรงกระแทกจากรถไฟ ได้อัดก๊อปปี้เข้ากับประตูด้านข้าง ทำให้ น.ส.เบญจพร ได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว

ขณะที่ นายถาวร บุญเมือง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 285 ถ.รถไฟ ต.ปากแพรก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพนักงานขับรถไฟขบวนดังกล่าว เล่าว่า ได้ขับรถไฟขบวนดังกล่าว มาจากสถานีปลายทางหัวลำโพง มุ่งหน้ามายัง จ.ตรัง และเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นถนนตัดผ่านรางรถไฟ ก็ได้ชะลอความเร็วของรถลงเหลือประมาณ 30-35 กม./ชม. เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ชานชาลาสถานีรถไฟตรัง

ระหว่างนั้น ได้มีรถกระบะคันดังกล่าวขับมาทาง ต.หนองตรุด เพื่อข้ามผ่านรางรถไฟ ตนจึงได้เปิดหวูดส่งสัญญาณเตือนหลายครั้ง แต่คนขับรถคันดังกล่าวกลับไม่ได้ยิน และยังเร่งความเร็วเพื่อขับรถผ่าน ขณะที่รถคันอื่นได้จอดหยุดรอข้างทางแล้ว เมื่อเห็นดังนั้นตนจึงได้เหยียบเบรกรถไฟ และได้พุ่งชนรถยนต์คันดังกล่าว ก่อนลากไปไกลกว่า 60 เมตร จากนั้นตนได้ถอยขบวนรถออกมา เพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และเตรียมเรียกทั้ง 2 ฝ่าย มาสอบปากคำ โดยในเบื้องต้นยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ใคร เพราะต้องรอสอบปากคำก่อน สำหรับจุดเกิดเหตุบริเวณดังกล่าว ที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากไม่มีเครื่องกั้น และสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากความประมาทของผู้ใช้รถด้วย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ก็เปิดการจราจรได้ตามปกติ