กาญจนบุรี - เผยความเสียหายพายุฤดูร้อนกระหน่ำกาญจน์ 3 อำเภอเมื่อวันที่ 16 เม.ย.บ้านเรือนประชาชนพังเกือบ 100 หลัง โดยที่อำเภอไทรโยค หนักสุด ปภ.สั่งเร่งช่วยเหลือประชาชนแล้ว เผยช่วงระหว่างเกิดพายุต้นไม้ใหญ่ได้ล้มใส่รถยนต์ปลัดอำเภอไทรโยค ขณะเดินทางมาประสบเหตุเข้าพอดี แต่เจ้าตัวรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์
เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (17 เม.ย.) นายไชโย ฤทธิรงค์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี เปิดถึงความเสียหายจากพายุฤดูร้อนถล่มในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี จนส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเรือนราษฎรในหลายพื้นที่ เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า ตั้งแต่ช่วงเวลา 15.00 น.วันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้เกิดพายุลมกระโชกแรงมากในหลายพื้นที่ เท่าที่ได้รับรายงาน มีพื้นที่ได้รับความเสียหาย 3 อำเภอ คือ อ.สังขละบุรี พื้นที่หมู่ 1 และหมู่ 3 ต.หนองลู บ้านเรือนราษฎรเสียหาย 15 หลังคาเรือน ชาวบ้านเดือดร้อน 56 คน ทรัพย์สินของทางราชการอยู่ในระหว่างการสำรวจความเสียหาย
พื้นที่ อ.ไทรโยค เหตุเกิดที่บ้านเขาสามชั้น หมู่ 2 ต.ลุ่มสุ่ม บ้านเรือนราษฎรเสียหายเกือบ 30 หลังคาเรือน ส่วนทรัพย์สินทางกราชการเสียหายจำนวนมากพอสมควร แต่ที่หนักที่สุด คือ ต้นไม้ และเสาไฟฟ้าแรงสูงล้มทับผิวการจราจรบนถนนเส้นทาง 323 ส่วนอีกพื้นที่ คือเขต อบต.แก่งเสี้ยน อ.เมืองกาญจนบุรี ลมพัดบ้านเรือเสียหาย จำนวน 25 หลัง ซึ่งทุกพื้นที่กำลังสำรวจ และท้องที่ได้เข้าช่วยเหลือประชาชนแล้ว
ด้านนายสมชาติ ธีรสุวรรณจักร นายอำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี เปิดเผยถึงสถานการณ์และความเสียหายที่เกิดขึ้นว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.40 น. ของเมื่อวานนี้ (16 เม.ย.) ได้เกิดลมพายุฤดูร้อนพัดแรงมาก โดยเฉพาะบนถนนสายกาญจนบุรี-ไทรโยค ทางช่วงบริเวณขึ้นเขาสามชั้น หมู่ 2 ต.ไทรโยค ลมพายุพัดแรงมาก และเป็นเวลานานกว่า 30 นาที จึงจะสงบ สร้างความเสียหายให้แก่ต้นไม้ใหญ่ริมถนนล้มลงจำนวน เกือบ 10 ต้น ขวางเส้นทางการจราจรจากไทรโยคไป จ.กาญจนบุรีอย่างสิ้นเชิง
โดยในช่วงเกิดเหตุ นายธวัช ประกาศแก่นทราย ปลัดอำเภออาวุโสอำเภอไทรโยค ได้ประสบเหตุพอดี ทำให้ต้องหยุดรถยนต์เพื่อรอให้ลมพายุสงบกว่า 20 นาที จนลมพายุพัดผ่านไป ซึ่งถือว่านายธวัช ได้รอดชีวิตอย่างปาฎิหาริย์ เพราะต้นไม้ต้นใหญ่ขนาดเส้นรอบวง 1 เมตรได้ล้มเฉี่ยวรถยนต์ของปลัดอำเภออาวุโสอำเภอไทรโยคทั้งหน้ารถ และท้ายรถไปอย่างหวุดหวิด โดยหลังพายุสงบพบว่า เกิดความเสียหายแก่ชาวบ้าน 21 ราย เดือดร้อน 21 ครัวเรือน โดยเป็นบ้านพักอาศัยบ้านเรือนราษฎรถูกพายุพัดเสียหายอย่างหนัก 6 หลังคาเรือน และเสียหายบางส่วน 15 หลังคาเรือน
“สำหรับการแก้ปัญหาในเบื้องต้น ทางปลัดอาวุโสได้ประสานไปยังนายสาโรจน์ พุกรอด ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ต.ลุ่มสุ่ม โดยนำกำลังสมาชิก อส. อ.ไทรโยคที่ 2 และสมาชิก อปพร. รวมทั้งชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงออกให้ความช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกในด้านการจราจร และตัดต้นไม้ที่กีดขวางการจราจรแล้ว โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถแก้ปัญหาในเบื้องต้น ส่วนทรัพย์สินของทางราชการที่เสียหายนั้นมี 1.ศาลาที่พักริมทางเสียหาย 2 หลังและเสาไฟฟ้าแรงสูงเอนจนเกือบล้มขวางถนน 1 ต้น เจ้าหน้าที่ กฟภ.ได้มาร่วมแก้ไขแล้ว ส่วนความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้สั่งการให้ อบต.ลุ่มสุ่ม เข้าช่วยเหลือชาวบ้านเบื้องต้นและจะรีบดำเนินการขอรับการสนันบสนุนจาก ปภ.กาญจนบุรีต่อไป” นายสมชาติ ธีรสุวรรณจักร นายอำเภอไทรโยค กล่าว
เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (17 เม.ย.) นายไชโย ฤทธิรงค์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี เปิดถึงความเสียหายจากพายุฤดูร้อนถล่มในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี จนส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเรือนราษฎรในหลายพื้นที่ เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า ตั้งแต่ช่วงเวลา 15.00 น.วันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้เกิดพายุลมกระโชกแรงมากในหลายพื้นที่ เท่าที่ได้รับรายงาน มีพื้นที่ได้รับความเสียหาย 3 อำเภอ คือ อ.สังขละบุรี พื้นที่หมู่ 1 และหมู่ 3 ต.หนองลู บ้านเรือนราษฎรเสียหาย 15 หลังคาเรือน ชาวบ้านเดือดร้อน 56 คน ทรัพย์สินของทางราชการอยู่ในระหว่างการสำรวจความเสียหาย
พื้นที่ อ.ไทรโยค เหตุเกิดที่บ้านเขาสามชั้น หมู่ 2 ต.ลุ่มสุ่ม บ้านเรือนราษฎรเสียหายเกือบ 30 หลังคาเรือน ส่วนทรัพย์สินทางกราชการเสียหายจำนวนมากพอสมควร แต่ที่หนักที่สุด คือ ต้นไม้ และเสาไฟฟ้าแรงสูงล้มทับผิวการจราจรบนถนนเส้นทาง 323 ส่วนอีกพื้นที่ คือเขต อบต.แก่งเสี้ยน อ.เมืองกาญจนบุรี ลมพัดบ้านเรือเสียหาย จำนวน 25 หลัง ซึ่งทุกพื้นที่กำลังสำรวจ และท้องที่ได้เข้าช่วยเหลือประชาชนแล้ว
ด้านนายสมชาติ ธีรสุวรรณจักร นายอำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี เปิดเผยถึงสถานการณ์และความเสียหายที่เกิดขึ้นว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.40 น. ของเมื่อวานนี้ (16 เม.ย.) ได้เกิดลมพายุฤดูร้อนพัดแรงมาก โดยเฉพาะบนถนนสายกาญจนบุรี-ไทรโยค ทางช่วงบริเวณขึ้นเขาสามชั้น หมู่ 2 ต.ไทรโยค ลมพายุพัดแรงมาก และเป็นเวลานานกว่า 30 นาที จึงจะสงบ สร้างความเสียหายให้แก่ต้นไม้ใหญ่ริมถนนล้มลงจำนวน เกือบ 10 ต้น ขวางเส้นทางการจราจรจากไทรโยคไป จ.กาญจนบุรีอย่างสิ้นเชิง
โดยในช่วงเกิดเหตุ นายธวัช ประกาศแก่นทราย ปลัดอำเภออาวุโสอำเภอไทรโยค ได้ประสบเหตุพอดี ทำให้ต้องหยุดรถยนต์เพื่อรอให้ลมพายุสงบกว่า 20 นาที จนลมพายุพัดผ่านไป ซึ่งถือว่านายธวัช ได้รอดชีวิตอย่างปาฎิหาริย์ เพราะต้นไม้ต้นใหญ่ขนาดเส้นรอบวง 1 เมตรได้ล้มเฉี่ยวรถยนต์ของปลัดอำเภออาวุโสอำเภอไทรโยคทั้งหน้ารถ และท้ายรถไปอย่างหวุดหวิด โดยหลังพายุสงบพบว่า เกิดความเสียหายแก่ชาวบ้าน 21 ราย เดือดร้อน 21 ครัวเรือน โดยเป็นบ้านพักอาศัยบ้านเรือนราษฎรถูกพายุพัดเสียหายอย่างหนัก 6 หลังคาเรือน และเสียหายบางส่วน 15 หลังคาเรือน
“สำหรับการแก้ปัญหาในเบื้องต้น ทางปลัดอาวุโสได้ประสานไปยังนายสาโรจน์ พุกรอด ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ต.ลุ่มสุ่ม โดยนำกำลังสมาชิก อส. อ.ไทรโยคที่ 2 และสมาชิก อปพร. รวมทั้งชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงออกให้ความช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกในด้านการจราจร และตัดต้นไม้ที่กีดขวางการจราจรแล้ว โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถแก้ปัญหาในเบื้องต้น ส่วนทรัพย์สินของทางราชการที่เสียหายนั้นมี 1.ศาลาที่พักริมทางเสียหาย 2 หลังและเสาไฟฟ้าแรงสูงเอนจนเกือบล้มขวางถนน 1 ต้น เจ้าหน้าที่ กฟภ.ได้มาร่วมแก้ไขแล้ว ส่วนความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้สั่งการให้ อบต.ลุ่มสุ่ม เข้าช่วยเหลือชาวบ้านเบื้องต้นและจะรีบดำเนินการขอรับการสนันบสนุนจาก ปภ.กาญจนบุรีต่อไป” นายสมชาติ ธีรสุวรรณจักร นายอำเภอไทรโยค กล่าว