ภูเก็ตล้อมคอกมาตรการความปลอดภัย นทท. หลังดับแหม่มออสซี่

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ตยกเครื่องมาตรการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว หลังคนร้ายก่อเหตุแทงแหม่มออสซี่ดับ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวอย่างรุนแรง ภาครัฐ-เอกชนเตรียมหารือวางมาตรการร่วมกัน 27 มิ.ย.นี้

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (25 มิ.ย.) นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายเมธี ตันมานะตระกูล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เข้าหารือนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ถึงมาตรการและแนวทางในการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ภายหลังคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ และใช้มีดแทงนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเสียชีวิต 1 คน และได้รับบาดเจ็บ 1 คน

จากการหารือได้ข้อสรุปว่า ภูเก็ตจะต้องมีการปรับปรุงระบบการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ทันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งจะมีการนัดหารือร่วมกันอีกครั้งระหว่างจังหวัดภูเก็ต ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ประกอบการท่องเที่ยว ในวันที่ 27 มิ.ย.นี้

นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การหารือกับผู้ว่าฯ ในครั้งนี้ เพื่อที่จะร่วมกันกำหนดแนวทาง และมาตรการในการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เพราะเหตุการณ์คนร้ายชิงทรัพย์ และทำร้าย 2 นักท่องเที่ยวจากออสเตรเลีย และมีผู้เสียชีวิต 1 รายนั้น ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตอย่างรุนแรง เพราะนอกจากผู้ตายจะเป็นนักท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นเอเยนต์ทัวร์จากเมืองเพิร์ท ประเทศออสเตรเลียอีกด้วย และหลังเกิดเหตุ เอเยนต์ทัวร์จากเมืองต่างๆ ของออสเตรเลียได้สอบถามถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเข้ามาตลอด และหนังสือพิมพ์ในออสเตรเลียได้นำเสนอข่าวนี้อย่างครึกโครม ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นนักท่องเที่ยวที่เข้ามาภูเก็ตอยู่ในอันดับ 1-2 มาเป็นเวลายาวนานแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของมาตรการดูแลความปลอดภัยนั้น เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเร่งจับกุมตัวคนร้ายให้ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อลดแรงกดดันจากออสเตรเลีย และแสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจของภูเก็ตมีประสิทธิภาพในการทำงาน ส่วนระยะยาวนั้น จะต้องมีการหารือร่วมกันของทุกฝ่ายทั้งจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อกำหนดมาตรการดูแลความปลอดภัย อุบัติเหตุ การจมน้ำ รวมทั้งการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวให้จริงจัง และเพิ่มความถี่มากขึ้น เพราะปัญหากับนักท่องเที่ยวเกิดขึ้นทุกวัน และตลอดเวลา

นายสมบูรณ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของผู้ประกอบการเองได้แจ้งเตือนให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบถึงภัยที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งการจัดให้มี รปภ.ภายในโรงแรม และกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) จะต้องให้หันมุมไปยังถนนนอกโรงแรมด้วย ซึ่งเรื่องนี้ทางสมาคมฯ จะทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการต่อไป

ด้านนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ทางจังหวัดภูเก็ตได้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ ในการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ภูเก็ต ซึ่งเชื่อว่าหากมีความร่วมมือระหว่างส่วนกลาง และพื้นที่จะสามารถแก้ปัญหานักท่องเที่ยว ปัญหาความปลอดภัยไปสู่จุดมุ่งหมายที่วางไว้ได้ และในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ จะมีการหารือร่วมกันของหน่วยงานต่างๆ ในภูเก็ต ถึงมาตรการดูแลความปลอดภัย และปัญหาของนักท่องเที่ยว

ส่วนการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดนั้น ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก ทางจังหวัดได้ขอความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ประกอบการในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เช่น ที่บริเวณซอยบางลามีการติดตั้งทั้งหมดแล้ว เพราะหากเกิดเหตุอะไรขึ้นมากล้องวงจรปิดจะสามารถนำไปสู่การจับกุมได้ในที่สุด และในส่วนของจังหวัดภูเก็ตที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณซีอีโอมา 10 ล้านบาท ได้จัดสรรงบส่วนหนึ่งในการติดกล้องวงจรปิดที่เรือนจำภูเก็ต และจุดล่อแหลมที่ยังขาดอยู่

ขณะที่นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตจะต้องปรับปรุงมาตรการในการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวใหม่ และในส่วนของผู้ประกอบการเองก็ต้องสำรวจจุดเสี่ยงของโรงแรมของตัวเอง และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อร่วมกันวางมาตรการดูแลความปลอดภัย รวมทั้งในส่วนของกล้องโทรทัศน์วงจรปิดนั้น จะต้องมีให้ครอบคลุมทั้งเกาะภูเก็ต ที่ผ่านมา ทางอบจ.ภูเก็ตได้ติดตั้งไปแล้ว 250 กว่าตัว เมื่อรวมกับขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นแล้ว ในภูเก็ตขณะนี้มีประมาณ 1,000 ตัว ซึ่งไม่เพียงพอและไม่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด ถ้าจะให้ครอบคลุมทั้งหมดรัฐบาลจะต้องใช้งบประมาณดำเนินการไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท หรือประมาณ 10,000 ตัว ซึ่งในส่วนของ อบจ.นั้นจะตั้งงบประมาณสำหรับติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเพิ่มเติมอีกในปีหน้า โดยจะมีการประสานกับท้องถิ่นในการติดตั้งตามจุดเสี่ยงต่างๆ