นราธิวาส - ควันจากเหตุไฟไหม้ป่าในประเทศอินโดนีเซียพัดปกคลุมเมือนราธิวาสค่อนข้างหนาแน่น ชาวบ้านเริ่มแสบจมูกจนหายใจติดขัด ด้านผู้ว่าฯ สั่งสาธารณสุขเร่งออกสำรวจ เผยยังไม่พบผู้ป่วยรุนแรง
วันนี้ (18 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นราธิวาส ว่า ผลกระทบของเขม่าควันจากเหตุไฟไหม้ป่าในประเทศอินโดนีเซียที่พัดลอยมาปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ใน จ.นราธิวาส นั้น วันนี้ตลอดทั้งวัน มีปริมาณความหนาแน่นของเขม่าควันมากกว่าทุกวัน ทำให้ท้องฟ้ามีสีเหลืองอ่อน และมีกลิ่นการเผาไหม้ของเขม่าควันไฟลอยมาตามลม ส่งผลให้ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มมีอาการแสบจมูกเหมือนเป็นหวัด ขณะที่กลุ่มผู้เป็นโรคภูมิแพ้เขม่าควันอย่างรุนแรงบางส่วนเริ่มหายใจติดขัดแล้วเช่นกัน
นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า จากผลกระทบของควันไฟที่เกิดขึ้นนั้น ตนได้สั่งกำชับให้สาธารณสุข จ.นราธิวาส และ ผอ.โรงพยาบาลชุมชนที่กระจายอยู่ในทุกอำเภอเร่งออกทำการสำรวจ และรักษาผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากเขม่าควันไฟอย่างใกล้ชิดแล้ว ซึ่งขณะนี้ ได้รับรายงานว่า พบแค่ผู้มีอาการแสบจมูกเท่านั้น ยังไม่พบผู้ป่วยรุนแรง
วันนี้ (18 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นราธิวาส ว่า ผลกระทบของเขม่าควันจากเหตุไฟไหม้ป่าในประเทศอินโดนีเซียที่พัดลอยมาปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ใน จ.นราธิวาส นั้น วันนี้ตลอดทั้งวัน มีปริมาณความหนาแน่นของเขม่าควันมากกว่าทุกวัน ทำให้ท้องฟ้ามีสีเหลืองอ่อน และมีกลิ่นการเผาไหม้ของเขม่าควันไฟลอยมาตามลม ส่งผลให้ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มมีอาการแสบจมูกเหมือนเป็นหวัด ขณะที่กลุ่มผู้เป็นโรคภูมิแพ้เขม่าควันอย่างรุนแรงบางส่วนเริ่มหายใจติดขัดแล้วเช่นกัน
นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า จากผลกระทบของควันไฟที่เกิดขึ้นนั้น ตนได้สั่งกำชับให้สาธารณสุข จ.นราธิวาส และ ผอ.โรงพยาบาลชุมชนที่กระจายอยู่ในทุกอำเภอเร่งออกทำการสำรวจ และรักษาผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากเขม่าควันไฟอย่างใกล้ชิดแล้ว ซึ่งขณะนี้ ได้รับรายงานว่า พบแค่ผู้มีอาการแสบจมูกเท่านั้น ยังไม่พบผู้ป่วยรุนแรง