xs
xsm
sm
md
lg

“มหานครหาดใหญ่” กับปัญหาจราจรที่ต้องเร่งแก้ไขก่อนเป็น “จลาจล”/ไชยยงค์ มณีพิลึก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ : จุดคบไฟใต้
โดย...ไชยยงค์ มณีพิลึก
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
เนื่องจาก “หาดใหญ่” คือเมืองหลวงของภาคใต้ตอนล่าง และ จ.สงขลาเป็นเมืองหน้าด่านที่อยู่ติดกับประเทศมาเลเซีย ที่มีเส้นทางทางบกจาก จ.สงขลาไปยังประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ ดังนั้น เมืองหาดใหญ่ หรือเทศบาลนครหาดใหญ่ ซึ่งมีพื้นที่ 21 ตารางกิโลเมตร จึงได้รับการพัฒนาให้เจริญอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นเมืองเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว เป็นศูนย์คมนาคมทางบก และทางอากาศ เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ และอื่นๆ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากที่สุด

ในประเทศไทย มหานครหาดใหญ่ จึงเกิดปัญหาใหญ่ที่เหมือนกับทุกๆ หัวเมืองที่เป็นเมืองหลวงของภูมิภาค นั่นคือเรื่องของ “รถติด” หรือเรียกเป็นแบบสากลว่า เป็นเมืองที่มีปัญหา “จราจร” ที่ติดขัด และไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงๆ จังๆ ทั้งจากหน่วยงานของรัฐ และจากภาคการเมือง นั่นคือ ผู้บริหารท้องถิ่น ที่เรียกว่า “เทศบาลนครหาดใหญ่”

มหานครหาดใหญ่ มีถนนสายหลักเพียง 6 สาย นั่นคือ ถนนศรีภูวนารถ ถนนเสน่หานุสรณ์ ถนนนิพัทธ์อุทิศ 1 นิพัทธ์อุทิศ 2 และนิพัทธ์อุทิศ 3 ถนนรัถการ และถนนสัจกุล และด้วยหาดใหญ่เป็นเมืองหลวง มีย่านการค้า ศูนย์การค้า โรงเรียนดังๆ โรงแรมหรูๆ และบริษัทใหญ่ๆ ตั้งอยู่กลางใจเมือง จึงทำให้รถยนต์จำนวนมากที่ถูกขับเข้ามาในตัวเมือง เพื่อทำธุรกิจต่างๆ จนสุดท้าย มหานครหาดใหญ่วันนี้ จึงกลายเป็นเมืองที่มีปัญหาจราจรที่กลายเป็นจลาจลที่ผู้คนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่กำลังถามหาผู้รับผิดชอบในการแก้ปัญหา ที่ได้กลายเป็นผลกระทบกับชีวิตประจำของคนในพื้นที่

เพราะไม่ว่า เมืองใหญ่ๆ เมืองนั่นจะมีศูนย์การค้าที่ยิ่งใหญ่เพียงใด มีอาหารที่ถูก และอร่อยแค่ไหน มีสินค้าดีที่ราคาถูกกว่าที่อื่น หรือมีสิ่งที่ดีๆ อย่างไรก็ตาม ถ้ารถยนต์ที่เข้ามาไม่มีที่จอด และระยะทางเพียง 500 เมตร ใช้เวลาในการขับรถถึง 30 นาที อย่างที่เกิดขึ้นแล้วบ่อยครั้งในมหานครหาดใหญ่ สุดท้าย ผู้ที่ต้องการเข้ามาเพื่อซื้อสินค้าเพื่อกินอาหาร หรือเพื่ออะไรก็แล้วแต่ จะต้องยกเลิก และไปยังบริเวณอื่นที่ไม่มีปัญหาจราจร และมีที่จอดรถยนต์ที่สะดวกกว่า

ดังนั้น ยิ่งปัญหาจราจรเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ ผลกระทบกับธุรกิจการค้าในตัวเมืองหาดใหญ่จะเพิ่มมากขึ้น จำได้ว่า มีการพูดถึงการแก้ปัญหาจรจรในตัวเมืองหาดใหญ่กว่า 10 ปี ทั้งในเรื่องการจัดหาที่จอดรถยนต์ เพื่อให้ผู้ที่ต้องการเข้ามาทำธุระเข้ามาจับจ่ายใช้สอย เข้ามาท่องเที่ยว ได้มีที่จอดรถยนต์อย่างสะดวกสบาย มีการพูดถึงการจัดทำแผนการจรจร แต่สุดท้าย ทุกอย่างก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแม้แต่เรื่องเดียว

วันนี้ การจัดการจราจรในมหานครหาดใหญ่อยู่อยู่ในความดูแลของ 2 หน่วยงานหลัก นั่นคือ เทศบาลนครหาดใหญ่ ซึ่งเป็นผู้กำหนดจุดที่จอดรถ กำหนดถนนเป็นวันเวย์ ทูเวย์ หรือให้จอดแบบ วันคู่ วันคี่ และอื่นๆ โดยมี สภ.หาดใหญ่ เป็นผู้จัดการจราจรบังคับใช้กฎหมาย กฎจราจร จับปรับผู้ขับขี่รถ ผู้จอดรถ และผู้ที่ฝ่าฝืนกฎจราจร ซึ่งตำรวจจราจรส่วนใหญ่จะสนใจในการจับกุมผู้ทำผิดเพื่อนำค่าเปรียบเทียบปรับมาจัดสรรปันส่วน มากกว่าสนใจในการแก้ปัญหาการจราจร ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้รถติด จะทำอย่างไรให้จราจรไม่เป็นจลาจลอย่างที่เกิดขึ้น มีการตั้งข้อสังเกตถึงตำแหน่งสารวัตรจราจรที่มาทำหน้าที่แก้ปัญหาจราจรในมหานครหาดใหญ่ เกือบทุกรายมาจากตำรวจที่มีเส้นสายมากกว่ามีฝีมือเรื่องจราจร ทั้งที่เคยมีผู้เสนอแนะว่า เมืองใหญ่ๆ ทุกเมืองที่เป็นเมืองเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวนั้นผู้ที่จะมารับตำแหน่ง สว.จร. หรือ รอง สว.จร ต้องมีวิสัยทัศน์ในเรื่องของจราจร หรือให้มีการสอบวิสัยทัศน์ก่อนที่จะให้รับตำแหน่ง อย่าไปเอาตำรวจสายสืบ ตำรวจสายปราบปราม มาเป็น สว.จร. หรือ รอง สว.จร เพราะการแก้ปัญหาจราจรไม่เหมือนกับการไปจับโจร

รถติดจราจรเป็นจลาจลต้องแก้ด้วยวิธีอื่น ไม่ใช่แก้ด้วยการจับ หรือเปรียบเทียบปรับ และต้องยกเลิกการเก็บเงินเป็นรายเดือนเพื่อไฟเขียวให้กลุ่มผู้ประกอบการค้า ประกอบการขนส่ง ทำผิดกฎหมายจราจรได้ เพราะนี่เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้การจราจรติดขัดมากขึ้น และผู้ที่ทำหน้าที่ สว.จร ไม่ควรพูดว่า ปัญหารถติดที่หาดใหญ่แก้ไม่ได้เพราะถนนมีเท่าเดิม แต่รถยนต์ รถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นทุกวัน เพราะปัญหานี้ใครๆ ก็รู้ แต่ ผู้รับผิดชอบที่ดีต้องหาวิธีการต่างๆ เพื่อให้จราจรไม่เป็นจลาจล
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
วันนี้ เทศบาลนครหาดใหญ่ กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นชุดใหญ่แทนชุดเก่าที่หมดวาระลง ดังนั้น จึงควรที่ชาวมหานครหาดใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากปัญหาจราจรจะได้ถามถึงวิสัยทัศน์ และวิธีการ นโยบายในการแก้ปัญหาจราจร ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกทีมผู้บริหารนครหาดใหญ่ เพราะปัญหารถติด จราจรติดขัดไม่มีที่จอดรถ เป็นปัญหาที่ใหญ่กว่าเรื่องขยะมูลฝอย เรื่องน้ำท่วมใหญ่ เพราะน้ำท่วมใหญ่ไม่ได้มาทุกปี แต่เรื่องจราจรมาทุกวัน เป็นปัญหาที่เกี่ยวพันกับการค้าการท่องเที่ยว และเป็นเรื่องของสุขภาพจิตของผู้คน

อีก 3 ปี เราจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในฐานะที่มหานครหาดใหญ่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว และคมนาคม ถ้ายังไม่มีการวางแผนแม่บทในการแก้ปัญหาจราจร ไม่มีการทำแผนขนส่งมวลชน ไม่มีการจัดที่จอดรถให้เป็นระบบ ไม่มีการการผลักดันให้เกิด “มอเตอร์เวย์” อีก 3 ปีข้างหน้า การจราจรจากด่านพรมแดน อ.สะเดา จะติดยาวเหยียดจนถึงตัวเมืองหาดใหญ่ และอาจจะเลยเถิดไปถึงเขตเทศบาลนครสงขลา จึงมีคำถามว่าคนในมหานครหาดใหญ่จะได้อะไรจากการเข้าสู้ประชาคมอาเซียน และจะอยู่กับการจรจรที่เป็นจลาจล

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นข้อสังเกตคือ ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกคนที่ย้ายมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา จะมีการพูดเรื่องการแก้ปัญหาจราจรของมหานครหาดใหญ่ และมีการให้ข่าวเรื่องนโยบาย และแผนในการจัดการจราจร เช่นเดียวกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคภาค 9 ทุกท่าน จะพูดถึงการแก้ปัญหาจราจร แต่สุดท้าย ทุกคนก็โยกย้ายไปอยู่ที่อื่นโดยที่ไม่เคยมีทั้งผู้ว่าฯ และผู้บัญชาการฯ คนไหนที่ได้ทำเรื่องจราจรเหมือนอย่างที่ได้แถลงได้กล่าวเอาไว้

เช่นเดียวกับ นายกฤษฏา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ที่ได้แถลงและให้สัมภาษณ์ “สื่อ” หลายครั้ง ถึงนโยบายการแก้ปัญหาจราจรของมหานครหาดใหญ่ และโดยรวมของ จ.สงขลา ครั้งนี้จึงหวังว่าคนในมหานครหาดใหญ่ และในเมืองใหญ่ของ จ.สงขลา คงจะไม่ “ฝันเปียก” เหมือนกับทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา ที่สุดท้าย นโยบายและแผนการแก้ปัญหาจราจร ก็ไปพร้อมกับการโยกย้ายที่เกิดขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น