ศูนย์หาดใหญ่ - ตำรวจทราบตัวการใหญ่แก๊งปลอมตัวสอบนายสิบที่ถูกจับกุมได้ที่ จ.สงขลา พบเป็นกลุ่มเดียว ไม่เชื่อโยงกับการโกงในพื้นที่อื่น แยกผู้ต้องหาดำเนินคดีเป็น 3 กลุ่ม ทั้งกลุ่มปลอมบัตรให้ผู้อื่นมาสอบแทน กลุ่มผู้มาสอบแทน และกลุ่มผู้ใช้ให้บุคคลอื่นไปสอบแทนตัวเอง
ความคืบหน้าการสอบสวนกรณีตำรวจภูธร จ.สงขลา จับกุมขบวนการทุจริตสอบนายสิบ ที่สนามสอบโรงเรียนอนุบาลสงขลาได้จำนวน 10 คน ซึ่งใช้วิธีปลอมบัตรประชาชน และปลอมตัวสอบแทนผู้สมัครสอบตัวจริงนั้น
วันนี้ (13 มิ.ย.) พ.ต.อ.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา เปิดเผยว่า จากการสอบสวนขยายผล นายกรกฎ กิจนาค อายุ 30 ปี ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานนำกลุ่มผู้รับจ้างสอบแทนผู้สมัครตัวจริงทั้ง 9 คน มาสอบที่สนามสอบโรงเรียนอนุบาลสงขลา
เจ้าหน้าที่ทราบตัวตัวการใหญ่ของขบวนการปลอมตัวเพื่อโกงสอบนายสิบกลุ่มนี้แล้ว โดยมีภูมิลำเนาอยู่ที่กรุงเทพฯ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ นั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยได้ประสานข้อมูลไปยังตำรวจส่วนกลางแล้ว เพื่อขยายผลติดตามจับกุม และการทำงานของกลุ่มนี้เป็นการทำงานกลุ่มเดียว ไม่เชื่อมโยงกับการโกงสอบในจังหวัดอื่นๆ โดยจะใช้วิธีปลอมตัวสอบแทนผู้สมัคร
ส่วนการดำเนินคดีกับผู้ที่ถูกจับกุมทั้ง 10 คนนั้น ได้แยกออกเป็น 3 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกเป็นกลุ่มปลอมบัตรให้ผู้อื่นมาสอบแทน แจ้งข้อหาปลอม และใช้เอกสารราชการปลอมตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 265 และมีความผิดตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ.2526 มาตรา 14, เป็นผู้ใช้จ้างวานให้บุคคลอื่นกระทำผิดตามมาตรา 84
กลุ่มที่สองเป็นผู้มาสอบแทน แจ้งข้อหาปลอม และใช้เอกสารราชการปลอมตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 265 และมีความผิดตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ.2526 มาตรา 14, เป็นผู้ใช้จ้างวานให้บุคคลอื่นกระทำผิดตามมาตรา 84 และข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ส่วนกลุ่มที่สาม คือ กลุ่มผู้ว่าจ้างให้ผู้อื่นไปสอบแทนตนเอง
ความคืบหน้าการสอบสวนกรณีตำรวจภูธร จ.สงขลา จับกุมขบวนการทุจริตสอบนายสิบ ที่สนามสอบโรงเรียนอนุบาลสงขลาได้จำนวน 10 คน ซึ่งใช้วิธีปลอมบัตรประชาชน และปลอมตัวสอบแทนผู้สมัครสอบตัวจริงนั้น
วันนี้ (13 มิ.ย.) พ.ต.อ.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา เปิดเผยว่า จากการสอบสวนขยายผล นายกรกฎ กิจนาค อายุ 30 ปี ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานนำกลุ่มผู้รับจ้างสอบแทนผู้สมัครตัวจริงทั้ง 9 คน มาสอบที่สนามสอบโรงเรียนอนุบาลสงขลา
เจ้าหน้าที่ทราบตัวตัวการใหญ่ของขบวนการปลอมตัวเพื่อโกงสอบนายสิบกลุ่มนี้แล้ว โดยมีภูมิลำเนาอยู่ที่กรุงเทพฯ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ นั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยได้ประสานข้อมูลไปยังตำรวจส่วนกลางแล้ว เพื่อขยายผลติดตามจับกุม และการทำงานของกลุ่มนี้เป็นการทำงานกลุ่มเดียว ไม่เชื่อมโยงกับการโกงสอบในจังหวัดอื่นๆ โดยจะใช้วิธีปลอมตัวสอบแทนผู้สมัคร
ส่วนการดำเนินคดีกับผู้ที่ถูกจับกุมทั้ง 10 คนนั้น ได้แยกออกเป็น 3 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกเป็นกลุ่มปลอมบัตรให้ผู้อื่นมาสอบแทน แจ้งข้อหาปลอม และใช้เอกสารราชการปลอมตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 265 และมีความผิดตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ.2526 มาตรา 14, เป็นผู้ใช้จ้างวานให้บุคคลอื่นกระทำผิดตามมาตรา 84
กลุ่มที่สองเป็นผู้มาสอบแทน แจ้งข้อหาปลอม และใช้เอกสารราชการปลอมตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 265 และมีความผิดตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ.2526 มาตรา 14, เป็นผู้ใช้จ้างวานให้บุคคลอื่นกระทำผิดตามมาตรา 84 และข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ส่วนกลุ่มที่สาม คือ กลุ่มผู้ว่าจ้างให้ผู้อื่นไปสอบแทนตนเอง