ระนอง - จังหวัดระนอง-จ.เกาะสอง ประเทศพม่า ประชุมทวิภาคีเพื่อประสานความร่วมมือตามแนวชายแดนในการต่อต้านการค้ามนุษย์
วันนี้ (13 มิ.ย.) นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานเปิดการประชุมทวิภาคีไทย-เมียนมาร์ (ระนอง-เกาะสอง) เพื่อประสานความร่วมมือตามแนวชายแดนในการต่อต้านการค้ามนุษย์ ณ โรงแรมทินิดี อ.เมือง จ.ระนอง ซึ่งสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดระนอง จัดขึ้น มีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศเข้าร่วมประชุม
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า ปัญหาการค้ามนุษย์ที่ยังคงมีความรุนแรง ซับซ้อน มีความเชื่อมโยงกับอาชญากรรมข้ามชาติ และยังเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสองประเทศ เพื่อป้องกันกลุ่มเสี่ยง และประชาชนทั่วไปมิให้ตกเข้าสู่ขบวนการค้ามนุษย์ และขบวนการนายหน้าที่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ตลอดจนดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด และที่สำคัญคือให้ความคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ซึ่งจังหวัดระนองถือเป็นจังหวัดหนึ่งของไทยที่มีการดำเนินงานในลักษณะสหวิชาชีพ ซึ่งการจัดประชุมทวิภาคีในครั้งนี้ นอกจากเป็นผลดีในระดับประเทศไทย และประเทศพม่าแล้ว ยังส่งผลดีต่อระดับสากลด้วย
พ.ต.ท.โอ้งไข่ รองหัวหน้าตำรวจภาคตะนาวศรี จ.ทวาย ประเทศเมียนมาร์ กล่าวว่า เมียนมาร์-ไทย ได้ตกลงที่จะเปิดสำนักงานประสานป้องกันการค้ามนุษย์ 3 แห่งที่ชายแดน คือ ท่าขี้เหล็ก-แม่สาย เมียวดี-แม่สอด และเกาะสอง-ระนอง เพื่อที่ประประสานการทำงานกันอย่างใกล้ชิด โดยได้เปิดสำนักงานแห่งแรกแล้วที่ท่าขี้เหล็ก-แม่สาย ส่วนที่เกาะสอง-ระนอง จะเปิดสำนักงานในเดือนสิงหาคม 2555
นางพรทิพย์ สุขสราญ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดระนอง กล่าวว่า การประชุมทวิภาคีระนอง-เกาะสอง ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลเมียนมาร์ ว่าด้วยความร่วมมือเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์โดยเฉพาะสตรีและเด็ก ได้ลงนามเมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ.2552 ณ เมืองเนปิดอ และจากการประชุมทวิภาคีไทย-เมียนมาร์ เพื่อประสานความร่วมมือในการต่อต้านการค้ามนุษย์เมื่อวันที่ 3-4 พฤษภาคม 2555 กรุงเทพฯ ได้กำหนดแนวทางความร่วมมือในการดำเนินร่วมกันในระดับพื้นที่รวม 4 ด้าน คือ ด้านการดำเนินคดี ด้านการป้องกัน ด้านการคุ้มครองช่วยเหลือ และด้านกลไกความร่วมมืออื่นๆ โดยมีการผลัดเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุม
พ.ต.ท.สุเทพ เกษตรทอง รองผู้กำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดระนอง กล่าวว่า การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเป็นสาเหตุหลักของการนำไปสู่การค้ามนุษย์ เช่น ขบวนการเครือข่ายนำพาแรงงานจากจังหวัดต้นทางไปสู่จังหวัดปลายทางที่มีความต้องการแรงงานสูง การลักลอบค้าประเวณี การล่วงละเมิดทางเพศแรงงานในบ้าน การใช้แรงงานเด็กชดใช้หนี้แทนผู้ปกครอง การบังคับใช้แรงงานประมงในเรือประมงขนาดใหญ่ เป็นต้น สำหรับจังหวัดระนองมีคดีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ในปีที่ผ่านมาไม่ถึง 10 คดี ถือว่าไม่รุนแรง แต่ต้องเฝ้าระวังตามข้อตกลงระหว่างไทย-เมียนมาร์ต่อไป