ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เกษตรกรใน จ.สงขลา ปลูกอ้อยพันธุ์สุพรรณบุรี 50 แซมในร่องยางพาราอ่อน ให้ผลผลิตดี ปลูกครั้งเดียวตัดได้ต่อเนื่องตลอด 3 ปี สร้างรายได้เสริมก่อนยางพาราโต และใช้พื้นที่ว่างให้เป็นประโยชน์

เกษตรกรชาวสวนยางพารา ในพื้นที่หมู่ 7 บ้านโคกขี้เหล็ก ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ปลูกอ้อยพันธุ์สุพรรณบุรี 50 แซมในร่องยางพาราอ่อน เพื่อใช้พื้นที่ว่างในสวนยางให้เป็นประโยชน์ และสร้างรายได้เสริมก่อนที่ยางพาราจะโต มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ โดยลงแรงปลูกอ้อยเพียงครั้งเดียว แต่สามารถตัดขายได้ตลอด 3 ปี

นางโฉม หมู่เก็ม อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/1 ม.7 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หนึ่งในเกษตรกรซึ่งปลูกอ้อยพันธุ์สุพรรณบุรี 50 แซมในร่องยางจำนวน 10 ไร่ เล่าว่า ได้รับพันธุ์อ้อยมาจากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสงขลา และนำมาทดลองปลูกแซมในร่องยางพาราอ่อน ปรากฏว่า อ้อยเจริญเติบโต และให้ผลผลิตดี ใช้เวลาปลูก 8 เดือนถึง 1 ปีก็สามารถตัดขายได้ โดยตัดขายมาสองรุ่นแล้ว มีพ่อค้ามารับซื้อถึงสวนกิโลกรัมละ 3 บาท ซึ่งแต่ละครั้งจะตัดขายได้ 1-2 ตัน เพื่อนำไปคั้นเป็นน้ำอ้อยสด เนื่องจากอ้อยพันธุ์สุพรรณบุรี 50 ให้ปริมาณน้ำมาก และรสชาติหวานเป็นที่นิยมของผู้บริโภค

นางโฉม กล่าวว่า การปลูกอ้อยพันธุ์สุพรรณบุรี 50 สามารถสร้างรายได้เสริมได้เป็นอย่างดี ก่อนที่ยางพาราจะโต และให้ผลผลิตดี เป็นการใช้พื้นที่ว่างของร่องยางพาราให้เป็นประโยชน์ไม่รกร้าง ที่สำคัญ การปลูกอ้อยไม่ต้องดูแลมาก โดยลงแรงปลูกแค่ครั้งเดียวสามารถตัดขายได้ต่อเนื่องตลอด 3 ปี เพราะเมื่อตัดลำต้นขายแล้ว ตออ้อยก็จะแตกกอขึ้นมาใหม่ เพียงแค่ตัดแต่งให้เหลือกอละ 7-8 ต้น และใส่ปุ๋ยบำรุง ใช้เวลาประมาณ 8 เดือนถึง 1 ปีก็จะสามารถตัดขายได้อีกครั้ง แต่หลังจาก 3 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงที่ยางพาราเติบโตเต็มที่ก็หยุดปลูก เพื่อไม่ให้ไปบังร่มต้นยาง ซึ่งขณะนี้ มีเกษตรกรหลายรายทั้งในพื้นที่ ต.ฉลุง และตำบลใกล้เคียงหันมาปลูกอ้อยแซมในร่องยางกันมากขึ้น



เกษตรกรชาวสวนยางพารา ในพื้นที่หมู่ 7 บ้านโคกขี้เหล็ก ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ปลูกอ้อยพันธุ์สุพรรณบุรี 50 แซมในร่องยางพาราอ่อน เพื่อใช้พื้นที่ว่างในสวนยางให้เป็นประโยชน์ และสร้างรายได้เสริมก่อนที่ยางพาราจะโต มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ โดยลงแรงปลูกอ้อยเพียงครั้งเดียว แต่สามารถตัดขายได้ตลอด 3 ปี
นางโฉม หมู่เก็ม อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/1 ม.7 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หนึ่งในเกษตรกรซึ่งปลูกอ้อยพันธุ์สุพรรณบุรี 50 แซมในร่องยางจำนวน 10 ไร่ เล่าว่า ได้รับพันธุ์อ้อยมาจากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสงขลา และนำมาทดลองปลูกแซมในร่องยางพาราอ่อน ปรากฏว่า อ้อยเจริญเติบโต และให้ผลผลิตดี ใช้เวลาปลูก 8 เดือนถึง 1 ปีก็สามารถตัดขายได้ โดยตัดขายมาสองรุ่นแล้ว มีพ่อค้ามารับซื้อถึงสวนกิโลกรัมละ 3 บาท ซึ่งแต่ละครั้งจะตัดขายได้ 1-2 ตัน เพื่อนำไปคั้นเป็นน้ำอ้อยสด เนื่องจากอ้อยพันธุ์สุพรรณบุรี 50 ให้ปริมาณน้ำมาก และรสชาติหวานเป็นที่นิยมของผู้บริโภค
นางโฉม กล่าวว่า การปลูกอ้อยพันธุ์สุพรรณบุรี 50 สามารถสร้างรายได้เสริมได้เป็นอย่างดี ก่อนที่ยางพาราจะโต และให้ผลผลิตดี เป็นการใช้พื้นที่ว่างของร่องยางพาราให้เป็นประโยชน์ไม่รกร้าง ที่สำคัญ การปลูกอ้อยไม่ต้องดูแลมาก โดยลงแรงปลูกแค่ครั้งเดียวสามารถตัดขายได้ต่อเนื่องตลอด 3 ปี เพราะเมื่อตัดลำต้นขายแล้ว ตออ้อยก็จะแตกกอขึ้นมาใหม่ เพียงแค่ตัดแต่งให้เหลือกอละ 7-8 ต้น และใส่ปุ๋ยบำรุง ใช้เวลาประมาณ 8 เดือนถึง 1 ปีก็จะสามารถตัดขายได้อีกครั้ง แต่หลังจาก 3 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงที่ยางพาราเติบโตเต็มที่ก็หยุดปลูก เพื่อไม่ให้ไปบังร่มต้นยาง ซึ่งขณะนี้ มีเกษตรกรหลายรายทั้งในพื้นที่ ต.ฉลุง และตำบลใกล้เคียงหันมาปลูกอ้อยแซมในร่องยางกันมากขึ้น