ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ประธานชมรมเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดสงขลาระบุ โครงการรักษาเสถียรภาพราคากุ้งขาวโดยไม่ใช้แนวทางการรับจำนำ จะเริ่ม 12 มิ.ย.นี้ถึง 31 ส.ค.55 ใช้งบประมาณ 500 ล้านบาท หากราคากุ้งในตลาดไม่ขยับ ถือว่าโครงการฯ นี้ล้มเหลว เรียกร้องรัฐบาลให้มีการจำนำกุ้งเหมือนเดิม
นายกาจบัณฑิต รามมาก ประธานชมรมเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคากุ้งตกต่ำ ที่ผ่านมาเราได้ยื่นหนังสือถึงรัฐบาล และขึ้นไปประชุมที่กรุงเทพฯ หลายครั้ง ผลสรุปเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2555 รัฐบาลโดย คชก. ก็ได้มีมติให้ดำเนินการโครงการรักษาเสถียรภาพราคากุ้งขาวแวนนาไม หรือการชดเชยส่วนต่างให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง โดยไม่ใช้แนวทางการรับจำนำ ซึ่งมันแตกต่างกับการจำนำกุ้ง
การชดเชยส่วนต่างในการขายกุ้งแยกตามประเภท เช่น กุ้งขาวขนาด 40-80 ตัว/กก. ชดเชยให้ 20 บาท/กก. กุ้งขาวขนาด 90-100 ตัว/กก. ชดเชยให้ในราคา 10 บาท/กก. ยกตัวอย่างเช่น หากกุ้งขนาด 60 ตัว/กก. มีต้นทุน กก.ละ 117 บาท หากขายได้ในราคา 120 บาท รัฐบาลจะชดเชยให้เป็น 130 บาท เพื่อให้ได้รับในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน ระยะเวลาดำเนินการเป็นเวลา 3 เดือน ผู้เข้าร่วมโครงการต้องลงทะเบียนกับกรมประมงในพื้นที่เพื่อรับการช่วยเหลือ
สำหรับส่วนต่างนั้น เกษตรกรก็ไปขึ้นเงินที่ ธ.ก.ส. อันนี้เป็นโครงการใหม่ รัฐบาลอยากลองของใหม่ แต่โครงการนี้เราไม่มั่นใจว่า ราคากุ้งจะขึ้นหรือไม่ แต่ที่ผ่านมาเห็นผล โดยเกษตรกรต้องการให้มีการจำนำกุ้ง เพราะการจำนำกุ้งคือ รัฐบาลซื้อกุ้งมาเก็บไว้ในห้องเย็นของรัฐบาล ทำให้ตลาดมีกุ้งน้อย ห้องเย็นต้องแย่งกันซื้อทำให้กุ้งมีราคาแพง
“พวกเรากังวลว่า เกษตรกรที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการจะไม่ได้ประโยชน์ เพราะโครงการชดเชยส่วนต่างให้มาเพียงเดือนละ 10,000 ตัน ตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย.-31 ส.ค.2555 รวม 30,000 ตัน ใช้งบประมาณ 500 ล้านบาท แต่เราอยากรู้ว่าเดือนหนึ่งๆ กุ้งออกมา 3-4 หมื่นตัน ส่วนที่เหลือตรงนั้นเกษตรกรที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการฯ จะไม่ได้อานิสงส์ด้วย รัฐบาลจะต้องดูแล
หลังจากวันที่ 12 มิถุนายน 2555 รัฐบาลดำเนินการจะต้องดูว่า ราคากุ้งขยับหรือไม่ ถ้าราคากุ้งในตลาดไม่ขยับ ถือว่าโครงการรักษาเสถียรภาพราคากุ้งขาวแวนนาไมล้มเหลว เราก็ขอเรียกร้องรัฐบาลว่า ถ้าโครงการนี้ไม่ได้ผล เราต้องการให้มีการจำนำกุ้งเหมือนเดิม” นายกาจบัณฑิต กล่าว
ประธานชมรมเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดสงขลา กล่าวอีกว่า อยากฝากให้รัฐบาลดูแลสินค้ากุ้งอย่างดี เพราะว่ากุ้งเป็นสินค้าส่งออก และนำเงินเข้าประเทศปีละไม่ต่ำกว่า 9 หมื่นล้านบาท เป็นอาชีพหลักของคนเลี้ยงกุ้งที่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศชาติเป็นอย่างมาก เราต้องการให้กุ้งไทยเป็นกุ้งที่อร่อยที่สุดในโลก คนเลี้ยงกุ้งตอนนี้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ ไม่ใช้สารเคมี กุ้งไทยสด กินอร่อย และปลอดภัยด้วย
นายกาจบัณฑิต รามมาก ประธานชมรมเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคากุ้งตกต่ำ ที่ผ่านมาเราได้ยื่นหนังสือถึงรัฐบาล และขึ้นไปประชุมที่กรุงเทพฯ หลายครั้ง ผลสรุปเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2555 รัฐบาลโดย คชก. ก็ได้มีมติให้ดำเนินการโครงการรักษาเสถียรภาพราคากุ้งขาวแวนนาไม หรือการชดเชยส่วนต่างให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง โดยไม่ใช้แนวทางการรับจำนำ ซึ่งมันแตกต่างกับการจำนำกุ้ง
การชดเชยส่วนต่างในการขายกุ้งแยกตามประเภท เช่น กุ้งขาวขนาด 40-80 ตัว/กก. ชดเชยให้ 20 บาท/กก. กุ้งขาวขนาด 90-100 ตัว/กก. ชดเชยให้ในราคา 10 บาท/กก. ยกตัวอย่างเช่น หากกุ้งขนาด 60 ตัว/กก. มีต้นทุน กก.ละ 117 บาท หากขายได้ในราคา 120 บาท รัฐบาลจะชดเชยให้เป็น 130 บาท เพื่อให้ได้รับในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน ระยะเวลาดำเนินการเป็นเวลา 3 เดือน ผู้เข้าร่วมโครงการต้องลงทะเบียนกับกรมประมงในพื้นที่เพื่อรับการช่วยเหลือ
สำหรับส่วนต่างนั้น เกษตรกรก็ไปขึ้นเงินที่ ธ.ก.ส. อันนี้เป็นโครงการใหม่ รัฐบาลอยากลองของใหม่ แต่โครงการนี้เราไม่มั่นใจว่า ราคากุ้งจะขึ้นหรือไม่ แต่ที่ผ่านมาเห็นผล โดยเกษตรกรต้องการให้มีการจำนำกุ้ง เพราะการจำนำกุ้งคือ รัฐบาลซื้อกุ้งมาเก็บไว้ในห้องเย็นของรัฐบาล ทำให้ตลาดมีกุ้งน้อย ห้องเย็นต้องแย่งกันซื้อทำให้กุ้งมีราคาแพง
“พวกเรากังวลว่า เกษตรกรที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการจะไม่ได้ประโยชน์ เพราะโครงการชดเชยส่วนต่างให้มาเพียงเดือนละ 10,000 ตัน ตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย.-31 ส.ค.2555 รวม 30,000 ตัน ใช้งบประมาณ 500 ล้านบาท แต่เราอยากรู้ว่าเดือนหนึ่งๆ กุ้งออกมา 3-4 หมื่นตัน ส่วนที่เหลือตรงนั้นเกษตรกรที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการฯ จะไม่ได้อานิสงส์ด้วย รัฐบาลจะต้องดูแล
หลังจากวันที่ 12 มิถุนายน 2555 รัฐบาลดำเนินการจะต้องดูว่า ราคากุ้งขยับหรือไม่ ถ้าราคากุ้งในตลาดไม่ขยับ ถือว่าโครงการรักษาเสถียรภาพราคากุ้งขาวแวนนาไมล้มเหลว เราก็ขอเรียกร้องรัฐบาลว่า ถ้าโครงการนี้ไม่ได้ผล เราต้องการให้มีการจำนำกุ้งเหมือนเดิม” นายกาจบัณฑิต กล่าว
ประธานชมรมเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดสงขลา กล่าวอีกว่า อยากฝากให้รัฐบาลดูแลสินค้ากุ้งอย่างดี เพราะว่ากุ้งเป็นสินค้าส่งออก และนำเงินเข้าประเทศปีละไม่ต่ำกว่า 9 หมื่นล้านบาท เป็นอาชีพหลักของคนเลี้ยงกุ้งที่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศชาติเป็นอย่างมาก เราต้องการให้กุ้งไทยเป็นกุ้งที่อร่อยที่สุดในโลก คนเลี้ยงกุ้งตอนนี้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ ไม่ใช้สารเคมี กุ้งไทยสด กินอร่อย และปลอดภัยด้วย
