ตรัง - เกิดเหตุพายุฝนกระหน่ำเมืองตรัง ทำต้นพะยูง 3 ต้น อายุกว่า 70 ปี โค่นล้มทับบ้านพักเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ทับร่าง 2 แม่ลูกดับอนาถ ส่วนสามีรอดหวุดหวิด
เมื่อเวลา 04.30 น. วันนี้ (6 มิ.ย.) ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ทำให้ต้นพะยูง อายุประมาณ 70 ปี จำนวน 3 ต้น ที่ปลูกไว้ในศูนย์ประสานงานเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง บริเวณ ถ.ป่าไม้ เขตเทศบาลเมืองกันตัง ได้ล้มทับบ้านพักของเจ้าหน้าที่ และมีผู้เสียชีวิต จำนวน 2 คน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง จำนวนกว่า 10 คน ต้องช่วยกันนำเครื่องเลื่อยยนต์ เข้าไปตัดต้นพยูงขนาดใหญ่ ที่ล้มทับบ้านพักของเจ้าหน้าที่ที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านไม้ยกพื้นชั้นเดียว เพื่อเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ข้างใน จำนวน 3 คน ท่ามกลางสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก แต่ก็เป็นไปอย่างยากลำบาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าไปถึงก็พบว่า 2 ใน 3 ชีวิตผู้ที่ติดอยู่ด้านใน ได้ถูกต้นพะยูงล้มทับจนเสียชีวิตในสภาพที่แม่นอนกอดลูกไว้แน่น เป็นที่สลดใจอย่างมาก ทราบชื่อคือ นางทิพวรรณ ปลอดทอง อายุ 32 ปี และ ด.ญ.ณัฐณิชา กุลพัตร์ หรือน้องนกยูง อายุ 2 ปี 7 เดือน ส่วน นายจิระศักดิ์ กุลพัตร์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ที่ 7 ต.ท่ามะเดื่อ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง รอดชีวิตอย่างหวุดหวิด โดยมีเพียงบาดแผลที่ใบหน้า และขาซ้าย จากการถูกกิ่งไม้ และของมีคมบาดเท่านั้น
จากการสอบถาม นายจิระศักดิ์ ซึ่งยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ เล่าว่า ตนเพิ่งย้ายจากอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม มาประจำการที่ศูนย์ประสานงานเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ได้ประมาณ 2 เดือน โดยก่อนเกิดเหตุ ตนกับภรรยาและลูกสาว ได้นอนหลับพักผ่อนอยู่ภายในห้อง แต่ก็ต้องตกใจตื่น เพราะได้ยินเสียงเหมือนสิ่งของขนาดใหญ่หล่นทับใส่ตัวบ้านเสียงดังลั่น 2 ครั้ง จนข้าวของแตกกระจาย แต่ก็ไม่สามารถมองเห็นได้ เพราะไฟฟ้าในบ้านดับ ต่อมา เพื่อนบ้านและเจ้าหน้าที่ ก็ได้นำเครื่องเลื่อยยนต์เข้ามาตัดต้นไม้ เพื่อเข้ามาช่วยเหลือ แต่ก็สายเกินไปแล้ว ทำให้ภรรยาและลูกสาวเสียชีวิตดังกล่าว
นายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทำให้ต้นพะยูงทั้ง 3 ต้น ที่ปลูกไว้ในที่ทำการ ได้ล้มทับบ้านพักจนเกิดเหตุเศร้าสลดขึ้นนั้น มาจากการที่ในพื้นที่ได้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันมาหลายวัน ทำให้ดินไม่สามารถอุ้มน้ำไว้ได้ ประกอบกับมีลมพายุพัดกระโชกอย่างแรงด้วย อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าภายในศูนย์และบ้านพัก น่าจะยังมีต้นไม้ขนาดใหญ่ที่สุ่มเสี่ยงต่อการโค่นล้มเมื่อเกิดลมพายุอีกจำนวนมาก ซึ่งจะได้ทำการสำรวจ และรายงานไปยังกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อขออนุญาตตัดโค่นต่อไป
