กระบี่ - สัญญาณเตือนภัยน้ำท่วม ดินถล่มห้วยโต้ จ.กระบี่ ดัง ชาวบ้านอพยพหนีวุ่น ขณะที่ปริมาณน้ำคลองใหญ่ เอ่อล้นท่วมพื้นที่การเกษตร
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (5 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ได้มีฝนตกหนัก ลมพัดแรงติดต่อกันหลายชั่วโมง ส่งผลให้บริเวณอ่าวนาง มีคลื่นลมในทะเลพัดแรง เรือเล็กไม่สามารถออกจากฝั่งได้ และที่ถนนเพชรเกษม มีต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่น ล้มทับสายไฟฟ้า หลายจุด ทำให้กระแสไฟฟ้าดับ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดกระบี่ เร่งดำเนินการซ่อมแซมใช้ได้ตามปกติแล้ว
ขณะที่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา เกิดเหตุเครื่องสัญญาณเตือนภัยดินโคลนถล่ม ที่ติดตั้งอยู่บริเวณหน้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา ม.4 ตำบลทับปริก อำเภอเมืองกระบี่ เกิดขัดข้อง ส่งเสียงสัญญาณเตือนภัย ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวแตกตื่น พากันหนีออกจากบ้านไปอยู่ในที่ปลอดภัย
นายทวี ท่าดี ผู้ใหญ่บ้านห้วยโต้ ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ กล่าวว่า หลังจากที่มีฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้เมื่อเวลา 13.40 น.วันนี้ เกิดเหตุเครื่องสัญญาณเตือนภัยดินโคลนถล่ม ดังขึ้น 1 ครั้ง ทำให้ชาวบ้านแตกตื่น แต่ได้ตรวจสอบระดับน้ำที่อยู่ในหลอดแก้ววัดระดับน้ำ พบว่า ปริมาณน้ำฝนมีอยู่เพียง 30 มม. ซึ่งเป็นปริมาณน้ำที่เครื่องเตือนภัยไม่น่าจะส่งสัญญาณเตือน เพราะที่ผ่านมา ปริมาณน้ำฝนในหลอดแก้วประมาณ 70-80 มม. เครื่องเตือนภัยถึงจะส่งสัญญาณเตือนภัย ซึ่งได้แจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ต่อมา ได้เกิดเหตุน้ำจากน้ำตกห้วยโต้ ที่รับน้ำจากอุทยานแห่งชาติเทือกเขาพนมเบญจา มีปริมาณน้ำมาก ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร สวนปาล์มน้ำมัน สวนยางพาราของชาวบ้าน ในพื้นที่ติดคลองใหญ่ หมู่ 4, 5, 6, 7, 8 ตำบลทับปริก อำเภอเมืองกระบี่ ขณะนี้ อบต.ทับปริก ได้ประกาศให้ประชาชนที่อยู่ริมคลองใหญ่ เตรียมขนของอพยพออกจากบ้านอย่างเร่งด่วน เนื่องจากอาจจะมีน้ำทะเลหนุนทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
นายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 5-10 มิถุนายน 55 ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศพม่าและลาว เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำ บริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน มีกำลังแรง ลักษณะดังกล่าว ทำให้มีฝนหนาแน่นทั่วทุกภาค สำหรับคลื่นลมในทะเล มีกำลังแรง ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กงดออกจากฝั่งในระยะนี้
มีพื้นที่เสี่ยงจำนวน 47 หมู่บ้าน กระจายอยู่ 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เกาะลันตา 42 หมู่บ้าน ระดับความเสี่ยงภัยอันดับ 1 มี 10 หมู่บ้าน อ.เขาพนม 19 หมู่บ้าน ระดับความเสี่ยงภัยอันดับ 1 มี 14 หมู่บ้าน อ.ปลายพระยา 4 หมู่บ้าน ระดับความเสี่ยงภัยอันดับ 1 มี 1 หมู่บ้าน อ.เมือง 45 หมู่บ้าน ระดับความเสี่ยงภัยอันดับ 1 มี 21 หมู่บ้าน และ อ.อ่าวลึก 6 หมู่บ้าน ระดับความเสี่ยงภัยอันดับ 1 มี 1 หมู่บ้าน
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (5 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ได้มีฝนตกหนัก ลมพัดแรงติดต่อกันหลายชั่วโมง ส่งผลให้บริเวณอ่าวนาง มีคลื่นลมในทะเลพัดแรง เรือเล็กไม่สามารถออกจากฝั่งได้ และที่ถนนเพชรเกษม มีต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่น ล้มทับสายไฟฟ้า หลายจุด ทำให้กระแสไฟฟ้าดับ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดกระบี่ เร่งดำเนินการซ่อมแซมใช้ได้ตามปกติแล้ว
ขณะที่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา เกิดเหตุเครื่องสัญญาณเตือนภัยดินโคลนถล่ม ที่ติดตั้งอยู่บริเวณหน้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา ม.4 ตำบลทับปริก อำเภอเมืองกระบี่ เกิดขัดข้อง ส่งเสียงสัญญาณเตือนภัย ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวแตกตื่น พากันหนีออกจากบ้านไปอยู่ในที่ปลอดภัย
นายทวี ท่าดี ผู้ใหญ่บ้านห้วยโต้ ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ กล่าวว่า หลังจากที่มีฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้เมื่อเวลา 13.40 น.วันนี้ เกิดเหตุเครื่องสัญญาณเตือนภัยดินโคลนถล่ม ดังขึ้น 1 ครั้ง ทำให้ชาวบ้านแตกตื่น แต่ได้ตรวจสอบระดับน้ำที่อยู่ในหลอดแก้ววัดระดับน้ำ พบว่า ปริมาณน้ำฝนมีอยู่เพียง 30 มม. ซึ่งเป็นปริมาณน้ำที่เครื่องเตือนภัยไม่น่าจะส่งสัญญาณเตือน เพราะที่ผ่านมา ปริมาณน้ำฝนในหลอดแก้วประมาณ 70-80 มม. เครื่องเตือนภัยถึงจะส่งสัญญาณเตือนภัย ซึ่งได้แจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ต่อมา ได้เกิดเหตุน้ำจากน้ำตกห้วยโต้ ที่รับน้ำจากอุทยานแห่งชาติเทือกเขาพนมเบญจา มีปริมาณน้ำมาก ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร สวนปาล์มน้ำมัน สวนยางพาราของชาวบ้าน ในพื้นที่ติดคลองใหญ่ หมู่ 4, 5, 6, 7, 8 ตำบลทับปริก อำเภอเมืองกระบี่ ขณะนี้ อบต.ทับปริก ได้ประกาศให้ประชาชนที่อยู่ริมคลองใหญ่ เตรียมขนของอพยพออกจากบ้านอย่างเร่งด่วน เนื่องจากอาจจะมีน้ำทะเลหนุนทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
นายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 5-10 มิถุนายน 55 ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศพม่าและลาว เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำ บริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน มีกำลังแรง ลักษณะดังกล่าว ทำให้มีฝนหนาแน่นทั่วทุกภาค สำหรับคลื่นลมในทะเล มีกำลังแรง ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กงดออกจากฝั่งในระยะนี้
มีพื้นที่เสี่ยงจำนวน 47 หมู่บ้าน กระจายอยู่ 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เกาะลันตา 42 หมู่บ้าน ระดับความเสี่ยงภัยอันดับ 1 มี 10 หมู่บ้าน อ.เขาพนม 19 หมู่บ้าน ระดับความเสี่ยงภัยอันดับ 1 มี 14 หมู่บ้าน อ.ปลายพระยา 4 หมู่บ้าน ระดับความเสี่ยงภัยอันดับ 1 มี 1 หมู่บ้าน อ.เมือง 45 หมู่บ้าน ระดับความเสี่ยงภัยอันดับ 1 มี 21 หมู่บ้าน และ อ.อ่าวลึก 6 หมู่บ้าน ระดับความเสี่ยงภัยอันดับ 1 มี 1 หมู่บ้าน