นครศรีธรรมราช - อธิบดีกรมอุทยานแฉป่าภาคใต้สูงถึงปีละกว่า 2 แสนไร่ โดยสงขลาพบมากที่สุด สับออกโฉนดชุมชนในพื้นที่ป่าเขาบรรทัดซึ่งกำลังมีปัญหา ออกปากชม และหนุนอดีตจอมโจรไข่หมูกทำงานรักษาผืนป่า
วันนี้ (30 พ.ค.) นายดำรง พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เดินทางมาตรวจราชการในเขตสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 ภายหลังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาการบุกรุกป่าในพื้นที่นครศรีธรรมราช และภาคใต้เพื่อใช้ในปลูกยางพาราว่า ได้ของบประมาณเพิ่มเติมไป 10 ล้านบาท และเอาเจ้าหน้าที่จากทุกภาคของประเทศเข้ามาดำเนินการกวาดล้างจับกุม โดยเน้นยางพาราที่ปลูกใหม่ในเขตอุทยาน ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมในนครศรีธรรมราชท่วมอย่างหนักไม่เคยปรากฏแบบนี้มาก่อน ป่าเดิมมี 5 ชั้น แต่เดี๋ยวนี้มีชั้นเดียวคือ ป่ายาง ชาวนครศรีธรรมราช และภาคใต้ต้องออกมาช่วยกันในเรื่องนี้
อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติยังกล่าวต่อว่า ในประเทศไทยขณะนี้ ปีหนึ่งๆ มีการบุกรุกพื้นที่อุทยานอย่างต่อเนื่องปีละราวกว่า 30,000 ไร่ บุกรุกมากที่สุดจะเป็นที่ จ.สงขลา การบุกรุกทั่วประเทศขณะนี้มีราวกว่า 530,000 ไร่ ในนั้นอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ และเกือบ 200,000 ไร่อยู่ในจังหวัดสงขลา 50,000 ไร่คือ ที่นครศรีธรรมราช และกว่า 30,000 ไร่อยู่ที่สุราษฎร์ธานี และชุมพร ตามลำดับ ถ้าปล่อยไปก็หมดไปเรื่อยๆ ลามไปเรื่อยเหลือแค่แผนที่กับที่ทำการหน่วย
นายดำรง ยังกล่าวถึงเรื่องโฉนดชุมชนที่กำลังเป็นปัญหาในพื้นที่เขาบรรทัดว่า กรมอุทยานไม่มีนโยบายในเรื่องของโฉนดชุมชน เห็นด้วยแต่ต้องไปออกในพื้นที่ราชพัสดุ ที่ว่างเปล่ารกร้าง เหลือจากการทำเหมือง หรือเช่าประโยชนนายทุนต้องออกมาแล้วทำโฉนดให้ชาวบ้าน ส.ป.ก.ไปอยู่ในมือนายทุนเท่าไหร่ต้องเอาออกมาแล้วออกโฉนดชุมชนให้ชาวบ้าน ไม่ใช่ไปเอาในพื้นที่อุทยาน ถ้าออกในพื้นที่เขาบรรทัดได้ก็ออกได้ทุกป่าในทั่วประเทศแล้วจะไปเหลืออะไร กรมอุทยานแห่งชาติไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
“ส่วนการนำเอาไข่หมูก หรือนายเจิม เซ่งเอียด อดีตจอมโจรชื่อดังมาทำงานรักษาป่านั้น เห็นว่าดูแนวคิด และหลายๆ อย่างแล้วเป็นเรื่องดี เขาไม่มีคดีติดตัวแล้ว ประชาชนมาดูแลป่าดีที่สุดดีกว่าเจ้าหน้าที่รัฐ ไข่หมูกช่วยอย่างได้ผลชาวบ้านเชื่อฟัง ชีวิตที่เหลือของเขาเขาบอกชัดเจนว่า จะรักษาป่าถวายให้ในหลวง และพระราชินี ผมไม่ถือว่าเป็นโจร หรือไม่เป็นโจรแต่วันนี้เขาไม่มีคดีติดตัวแล้ว” นายดำรงกล่าว
วันนี้ (30 พ.ค.) นายดำรง พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เดินทางมาตรวจราชการในเขตสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 ภายหลังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาการบุกรุกป่าในพื้นที่นครศรีธรรมราช และภาคใต้เพื่อใช้ในปลูกยางพาราว่า ได้ของบประมาณเพิ่มเติมไป 10 ล้านบาท และเอาเจ้าหน้าที่จากทุกภาคของประเทศเข้ามาดำเนินการกวาดล้างจับกุม โดยเน้นยางพาราที่ปลูกใหม่ในเขตอุทยาน ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมในนครศรีธรรมราชท่วมอย่างหนักไม่เคยปรากฏแบบนี้มาก่อน ป่าเดิมมี 5 ชั้น แต่เดี๋ยวนี้มีชั้นเดียวคือ ป่ายาง ชาวนครศรีธรรมราช และภาคใต้ต้องออกมาช่วยกันในเรื่องนี้
อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติยังกล่าวต่อว่า ในประเทศไทยขณะนี้ ปีหนึ่งๆ มีการบุกรุกพื้นที่อุทยานอย่างต่อเนื่องปีละราวกว่า 30,000 ไร่ บุกรุกมากที่สุดจะเป็นที่ จ.สงขลา การบุกรุกทั่วประเทศขณะนี้มีราวกว่า 530,000 ไร่ ในนั้นอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ และเกือบ 200,000 ไร่อยู่ในจังหวัดสงขลา 50,000 ไร่คือ ที่นครศรีธรรมราช และกว่า 30,000 ไร่อยู่ที่สุราษฎร์ธานี และชุมพร ตามลำดับ ถ้าปล่อยไปก็หมดไปเรื่อยๆ ลามไปเรื่อยเหลือแค่แผนที่กับที่ทำการหน่วย
นายดำรง ยังกล่าวถึงเรื่องโฉนดชุมชนที่กำลังเป็นปัญหาในพื้นที่เขาบรรทัดว่า กรมอุทยานไม่มีนโยบายในเรื่องของโฉนดชุมชน เห็นด้วยแต่ต้องไปออกในพื้นที่ราชพัสดุ ที่ว่างเปล่ารกร้าง เหลือจากการทำเหมือง หรือเช่าประโยชนนายทุนต้องออกมาแล้วทำโฉนดให้ชาวบ้าน ส.ป.ก.ไปอยู่ในมือนายทุนเท่าไหร่ต้องเอาออกมาแล้วออกโฉนดชุมชนให้ชาวบ้าน ไม่ใช่ไปเอาในพื้นที่อุทยาน ถ้าออกในพื้นที่เขาบรรทัดได้ก็ออกได้ทุกป่าในทั่วประเทศแล้วจะไปเหลืออะไร กรมอุทยานแห่งชาติไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
“ส่วนการนำเอาไข่หมูก หรือนายเจิม เซ่งเอียด อดีตจอมโจรชื่อดังมาทำงานรักษาป่านั้น เห็นว่าดูแนวคิด และหลายๆ อย่างแล้วเป็นเรื่องดี เขาไม่มีคดีติดตัวแล้ว ประชาชนมาดูแลป่าดีที่สุดดีกว่าเจ้าหน้าที่รัฐ ไข่หมูกช่วยอย่างได้ผลชาวบ้านเชื่อฟัง ชีวิตที่เหลือของเขาเขาบอกชัดเจนว่า จะรักษาป่าถวายให้ในหลวง และพระราชินี ผมไม่ถือว่าเป็นโจร หรือไม่เป็นโจรแต่วันนี้เขาไม่มีคดีติดตัวแล้ว” นายดำรงกล่าว