ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - บริษัทขุดเจาะสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทยจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ก่อนดำเนินการเจาะสำรวจปิโตรเลียมแปลงสำรวจในอ่าวไทย หมายเลข G5/43 ในปีหน้า ชี้แท่นขุดอยู่ห่างฝั่งเมืองสงขลาแค่ 10 กม. แต่กลับใช้เวลาในการฟังความเห็นสั้นจู๋ สังคมโซเชียลเน็ตเวิร์กนำมาพูดคุยกันเซ็งแซ่ใช้วิธีการทำพิธีกรรมตามกฎหมาย แต่ไม่คำนึงถึงเจตนารมณ์
วันนี้ (28 พ.ค.) ที่โรงแรม บี.พี.สมิหลา บีช อ.เมือง จ.สงขลา บริษัท ซี อี ซี อินเตอร์เนชั่นแนล ลิมิเต็ด (สาขาประเทศไทย) จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อโครงการเจาะสำรวจปิโตรเลียม แปลงสำรวจในอ่าวไทย หมายเลข G5/43 และโครงการผลิตปิโตรเลียม (ส่วนขยาย) แปลงสำรวจในอ่าวไทย หมายเลข G5/43 ครั้งที่ 1 เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเบื้องต้นของทั้ง 2 โครงการ และชี้แจงประชาชน และผู้มีส่วนได้เสียให้ได้รับทราบถึงแผนการศึกษาและการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (รายงานอีไอเอ) พร้อมทั้งรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้มีส่วนได้เสียจากโครงการดังกล่าว เพื่อนำไปประกอบในการวิเคราะห์ด้านสิ่งแวดล้อมและจัดทำรายงานอีไอเอให้มีความสมบูรณ์ พร้อมทั้งจะมีการนำร่างอีไอเอมาเสนอในการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียในครั้งที่ 2 ต่อไป
โดยการประชุมในครั้งที่ 1 นี้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังนี้ สถาบันการศึกษาในพื้นที่ นักวิชาการอิสระ สื่อมวลชน ประชาชนในพื้นที่ และผู้มีส่วนได้เสียในภาคส่วนอื่นๆ จำนวนกว่า 100 คน เข้าร่วมประชุม โดยที่ประชุมได้ร่วมกันเสนอข้อคิดเห็นอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะข้อกังวลและความห่วงใยในผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผลกระทบจากตะกอนที่เกิดจากการขุดเจาะที่จะฟุ้งกระจายส่งผลกระทบต่อการประมงชายฝั่ง และผลกระทบต่อชายหาดเมืองสงขลา เนื่องจากแหล่งขุดเจาะสำรวจดังกล่าวอยู่ห่างจากชายฝั่งเมืองสงขลาเพียง 10 กิโลเมตร
นอกจากนี้ยังมีการเสนอให้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ชายฝั่งอำเภอสิงหนครด้วย เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวอยู่ใกล้แหล่งเจาะสำรวจและอาจจะได้รับผลกระทบโดยตรง
โครงการเจาะสำรวจปิโตรเลียมทั้ง 2 โครงการนี้เป็นการดำเนินการตามข้อผูกพันของแปลงสัมปทานที่บริษัทซี อี ซี และกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติได้ให้ข้อตกลงร่วมกันเพื่อสำรวจหาแหล่งปิโตรเลียมเพิ่มเติมทดแทนแหล่งปิโตรเลียมที่มีอยู่เดิมและมีปริมาณลดลงทุกวัน ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ ซึ่งจากการสำรวจที่ผ่านมาแปลงสำรวจ G5/43 เป็นแหล่งกักเก็บปิโตรเลียมที่มีศักยภาพในการพัฒนาเพิ่มเติมได้ ดังนั้น บริษัทซี อี ซี จึงมีแผนที่จะดำเนินการเจาะสำรวจจำนวน 10 ตำแหน่งในปี 2556
สำหรับเวทีดังกล่าวแม้จะเป็นการชี้แจงและรับฟังความคิดเห็นซึ่งเป็นประเด็นที่สาธารณชนให้ความสนใจ แต่มีการใช้เวลาเพียงครึ่งวันเท่านั้น โดยหลังจากพิธีเปิดการประชุมระหว่างเวลา 09.30-09.40 น.แล้ว บริษัทได้นำเสนอข้อมูลร่างโครงการในเหตุผลความจำเป็นของโครงการ, สาระสำคัญ และขั้นตอน ระยะเวลาดำเนินการ ตลอดจนขอบเขตในการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ก่อนจะเป็นเวทีแสดงความคิดเห็นซึ่งยังประกอบด้วยผู้แทนกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ, ตัวแทนบริษัท และนักวิชาการสิ่งแวดล้อม บริษัท ไอเอสอีที (ประเทศไทย) จำกัด ในเวลาประมาณ 10.30 น.เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าชาวบ้านที่ทราบข่าวและเข้าร่วมเวทีได้ออกมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างเผ็ดร้อน เนื่องจากหลายส่วนยังไม่ต้องการให้ขยายสัมปทานด้วยการขุดเจาะน้ำมันของสัมปทานเดิมของบริษัทนิวคอสตอล (ชื่อเดิมก่อนจะเปลี่ยนชื่อตามบริษัทแม่ที่อเมริกา) ซึ่งก่อนหน้านั้นได้สร้างผลกระทบต่ออาชีพประมง ทำให้มีการประท้วงเรียกร้องเงินชดเชยเยียวยาอยู่เป็นระยะ ตลอดจนข้อกังขาของผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งการขุดเจาะตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งเพียง 30 กม.เท่านั้น และยังเป็นชายหาดแนวเดียวกับหาดสมิหลา แหล่งท่องเที่ยวที่เปรียบเสมือนห้องรับแขกของ จ.สงขลา
ขณะเดียวกัน ในสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์กก็หยิบยกประเด็นนี้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในวงกว้างเช่นเดียวกัน ทั้งในเรื่องของการใช้เวลารับฟังความคิดเห็นที่สั้นเกินไป และกลับใช้เวลาในการชี้แจงเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งทางผู้จัดได้เชิญตัวแทนประชาชน เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เปรียบเสมือนการทำพิธีกรรมให้ผ่านไปตามกฎหมายกำหนด โดยไม่ได้คำนึงถึงเจตนารมณ์
