ยะลา - ทหารไทยและมาเลเซียร่วมกันลาดตระเวนตามแนวชายแดน บริเวณอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ถึงรัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย เพื่อดูแลด้านความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินให้แก่ประชาชน
วันนี้ (28 พ.ค.) ที่บริเวณหลักเขตแดนที่ 52 บ้านกาแป๊ะฮูลู ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา พ.ท.ไมตรี ชูปรีชา ผู้บังคับกองบังคับการควบคุมการลาดตระเวนร่วมตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย พร้อมด้วย ร.ต.อ.สุเทพ ชูแก้ว ผู้บังคับศูนย์เฝ้าตรวจชายแดนที่ 441 ส่วนแยก 1 นำกำลังพลชุดลาดตระเวนร่วมจำนวน 30 นาย ฝ่ายไทย และ ร.อ.อาจิส บิลยะฟา หัวหน้าชุดลาดตระเวนร่วม ฝ่ายมาเลเซีย นำกำลังพลกองพลน้อยชายแดน กองพันชายแดนที่ 5 บูเก๊ะกายูอิตำ รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย จำนวน 30 นาย รวม 60 นาย ร่วมลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 25 พื้นที่ B ยะลา (เบตง)-รัฐเปรัค
พ.ท.ไมตรี ชูปรีชา ผู้บังคับกองบังคับการควบคุมการลาดตระเวนร่วมตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย กล่าวว่า ประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย มีแนวพรมแดนติดต่อกัน ที่ผ่านมาทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันในทุกระดับ ประชาชนมีการเดินทางไปมาหาสู่กันตามช่องทางทั้งที่ถูกต้อง และไม่ถูกต้องเป็นประจำ แนวพรมแดนทั้งสองประเทศมีลักษณะภูมิประเทศเป็นพื้นที่ราบ ป่าเขาสูง และภูเขาสูงต่ำสลับกัน ทำให้เกิดปัญหาความมั่นคงตามแนวชายแดนของทั้งสองประเทศ
อันได้แก่ การหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การลักลอบขนสินค้าหลบหนีภาษี การค้ายาเสพติดข้ามชาติ การลักลอบบุกรุกพื้นที่ ตัดไม้ทำลายป่า การแสวงประโยชน์ ในการเข้าพบปะและช่วยเหลือประชาชนในหมู่บ้านที่ติดแนวชายแดน รวมทั้งปัญหาหลักเขตแดนชำรุดสูญหาย ซึ่งเป็นปัญหาที่ทั้งสองประเทศได้ร่วมมือกันในการขจัดเงื่อนไข และปัญหาต่างๆ โดยเมื่อฝ่ายไทยขอความร่วมมือในการประสานงานในด้านต่างๆ ก็จะได้รับความร่วมมือและสนับสนุนข้อมูลมาโดยตลอด
ด้าน ร.ต.อ.สุเทพ ชูแก้ว ผู้บังคับศูนย์เฝ้าตรวจชายแดนที่ 441 ส่วนแยก 1 กล่าวว่า การลาดตระเวนร่วมตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 25 การดำเนินการของทั้งสองประเทศแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มิได้ส่งผลต่อความสัมพันธ์ที่ดีร่วมกันระหว่าง 2 ประเทศ การปฏิบัติร่วมกันมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะความร่วมมือในการประสานงานด้านการข่าวความมั่นคงในพื้นที่ตะเข็บชายแดน โดยมีเป้าหมายของการปฏิบัติงานลาดตระเวนร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ความมั่นคงปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินให้กับประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งอาศัยอยู่ติดบริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ
วันนี้ (28 พ.ค.) ที่บริเวณหลักเขตแดนที่ 52 บ้านกาแป๊ะฮูลู ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา พ.ท.ไมตรี ชูปรีชา ผู้บังคับกองบังคับการควบคุมการลาดตระเวนร่วมตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย พร้อมด้วย ร.ต.อ.สุเทพ ชูแก้ว ผู้บังคับศูนย์เฝ้าตรวจชายแดนที่ 441 ส่วนแยก 1 นำกำลังพลชุดลาดตระเวนร่วมจำนวน 30 นาย ฝ่ายไทย และ ร.อ.อาจิส บิลยะฟา หัวหน้าชุดลาดตระเวนร่วม ฝ่ายมาเลเซีย นำกำลังพลกองพลน้อยชายแดน กองพันชายแดนที่ 5 บูเก๊ะกายูอิตำ รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย จำนวน 30 นาย รวม 60 นาย ร่วมลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 25 พื้นที่ B ยะลา (เบตง)-รัฐเปรัค
พ.ท.ไมตรี ชูปรีชา ผู้บังคับกองบังคับการควบคุมการลาดตระเวนร่วมตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย กล่าวว่า ประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย มีแนวพรมแดนติดต่อกัน ที่ผ่านมาทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันในทุกระดับ ประชาชนมีการเดินทางไปมาหาสู่กันตามช่องทางทั้งที่ถูกต้อง และไม่ถูกต้องเป็นประจำ แนวพรมแดนทั้งสองประเทศมีลักษณะภูมิประเทศเป็นพื้นที่ราบ ป่าเขาสูง และภูเขาสูงต่ำสลับกัน ทำให้เกิดปัญหาความมั่นคงตามแนวชายแดนของทั้งสองประเทศ
อันได้แก่ การหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การลักลอบขนสินค้าหลบหนีภาษี การค้ายาเสพติดข้ามชาติ การลักลอบบุกรุกพื้นที่ ตัดไม้ทำลายป่า การแสวงประโยชน์ ในการเข้าพบปะและช่วยเหลือประชาชนในหมู่บ้านที่ติดแนวชายแดน รวมทั้งปัญหาหลักเขตแดนชำรุดสูญหาย ซึ่งเป็นปัญหาที่ทั้งสองประเทศได้ร่วมมือกันในการขจัดเงื่อนไข และปัญหาต่างๆ โดยเมื่อฝ่ายไทยขอความร่วมมือในการประสานงานในด้านต่างๆ ก็จะได้รับความร่วมมือและสนับสนุนข้อมูลมาโดยตลอด
ด้าน ร.ต.อ.สุเทพ ชูแก้ว ผู้บังคับศูนย์เฝ้าตรวจชายแดนที่ 441 ส่วนแยก 1 กล่าวว่า การลาดตระเวนร่วมตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 25 การดำเนินการของทั้งสองประเทศแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มิได้ส่งผลต่อความสัมพันธ์ที่ดีร่วมกันระหว่าง 2 ประเทศ การปฏิบัติร่วมกันมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะความร่วมมือในการประสานงานด้านการข่าวความมั่นคงในพื้นที่ตะเข็บชายแดน โดยมีเป้าหมายของการปฏิบัติงานลาดตระเวนร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ความมั่นคงปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินให้กับประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งอาศัยอยู่ติดบริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ
