นครศรีธรรมราช - ตชด.42 บินตรวจสอบป่าพรุควนเคร็ง ใน อ.ชะอวด พบพื้นที่ป่าสงสัยถูกบุกรุกปลูกปาล์มน้ำมัน เตรียมส่งหน่วยภาคพื้นดินเข้าตรวจสอบอีกครั้ง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (25 พ.ค.) นายถิรนาท เอสะนาชาตัง ป้องกันจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.ต.ท.พิมณรัตน์ ธรรมาธิปต์ รองผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 42 ค่ายศรีนครินทรา อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นำเฮลิคอปเตอร์ของกองบินตำรวจจากค่ายศรีนครินทรา กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 42 ขึ้นบินตรวจสอบพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช
โดยใช้เวลาบินนานเกือบ 2 ชั่วโมง สภาพอากาศแจ่มใส มองเห็นพื้นที่ชัดเจน พบว่าน้ำในคลองชะอวดแพรกเมืองยังอยู่ในระดับสูง ส่วนสภาพป่าพรุควนเคร็ง ยังมีความอุดมสมบูรณ์ มีน้ำหล่อเลี้ยงภายในพรุพอสมควร แต่บางพื้นที่มีร่องรอยถูกไฟไหม้เป็นบริเวณกว้าง คาดว่ามีการบุกรุกแผ้วถางป่าพรุควนเคร็งอีกครั้งในช่วงหน้าแล้งที่ผ่านมา และพบว่า มีพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันปลูกอยู่ในแนวของเขตป่าพรุอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องระบุว่า ดูจากทางอากาศยังไม่แน่ใจว่ามีการบุกรุกหรือไม่ ต้องรอการตรวจสอบทางภาคพื้นดินอีกครั้ง ซึ่งทางจังหวัดนครศรีธรรมราชกำลังจัดซื้อแผนที่ภาพถ่ายทางดาวเทียมเพื่อนำมาตรวจสอบกับข้อมูลที่มีอยู่ ว่ามีการรุกล้ำพื้นที่ป่าพรุควนเคร็งหรือไม่ เนื่องจากมีพื้นที่ ส.ป.ก.อยู่ใกล้กับพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง ในส่วนของกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 42 มีกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนอยู่ในพื้นที่จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบภาคพื้นดินอีกทางหนึ่งด้วย
สำหรับป่าพรุควนเคร็ง มีพื้นที่ประมาณ 223,320 ไร่ เป็นป่าสงวนแห่งชาติ เนื้อที่ 165,825 ไร่ และป่าถาวรตามมติ ครม.จำนวน 57,495 ไร่ ก่อนหน้านี้ มีปริมาณน้ำไหลเข้าสู่พรุน้อยจนทำให้เกิดไฟไหม้พรุ ซึ่งมีผลมาจากหลายสาเหตุ เช่น มีการใช้น้ำเพื่อการเกษตรบริเวณต้นน้ำของป่าพรุควนเคร็ง การขยายพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน และนาข้าวในบริเวณรอบๆ พรุควนเคร็ง และการขาดเอกภาพในการบริหารจัดการน้ำในป่าพรุควนเคร็งของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จากสาเหตุเหล่านี้ ทำให้น้ำที่ไหลลงสู่พรุน้อยกว่าปริมาณน้ำที่ไหลออก จึงเป็นที่มาของไฟไหม้พรุควนเคร็งเป็นประจำ และส่วนใหญ่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ โดยทางจังหวัดจะเร่งหามาตรการแก้ปัญหาในระยะยาวต่อไป