ยะลา - ตำรวจยะลาตรวจยึดรถยนต์และ จยย.ผิดกฎหมายในพื้นที่จำนวน 58 คัน เพื่อป้องกันนำไปก่อเหตุคาร์บอมบ์ และ จยย.บอมบ์ ขณะที่ผู้การฯ ชี้เตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาคดีคาร์บอมบ์ถนนรวมมิตร 1 หมาย
วันนี้ (23 พ.ค.) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่บริเวณลานจอดรถหน้าอาคารอำนวยการสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองยะลา จ.ยะลา พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผกก.สืบสวนสอบสวน ภูธรจังหวัดยะลา พร้อมด้วย พ.ต.อ.นรินทร์ บูสะมัญ ผกก.สภ.เมืองยะลา เปิดแถลงข่าวการจับกุมตรวจยึดรถยนต์เถื่อน และรถยนต์ผิดกฎหมาย
หลังจากที่ พล.ต.ต.สฤษฏ์ชัย อเนกเวียง รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้สั่งการให้กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา, ปัตตานี และนราธิวาส เพิ่มความเข้มข้นป้องกันรถผิดกฎหมายที่อาจเกี่ยวข้องกับการนำไปก่อเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเร่งรัดดำเนินการจับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ
ซึ่งทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้กวาดล้างตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา โดยได้ดำเนินการตรวจยึดรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่ผิดกฎหมายในคดียาเสพติด และรถที่หลบหนีการเสียภาษีศุลกากร เพื่อป้องกันการนำไปใช้ในการประกอบวัตถุระเบิด หรือใช้ในการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่
โดยสามารถตรวจยึดรถยนต์ได้ จำนวน 27 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 31 คัน แยกเป็นรถยนต์ที่หลบหนีการเสียภาษีศุลกากร จำนวน 6 คัน รถที่ถูกโจรกรรม และสามารถตรวจยึดกลับได้คืนรถยนต์ จำนวน 4 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 17 คัน รถยนต์ที่ตรวจยึดตามมาตรการ พ.ร.บ.ยาเสพติด จำนวน 14 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 14 คัน รถยนต์ที่ใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง จำนวน 3 คัน
ซึ่งมาตรการเข้มดังกล่าว กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้พยายามทุกวิถีทางที่จะสกัดกั้นมิให้กลุ่มผู้ก่อความรุนแรง นำรถยนต์ไปใช้ก่อเหตุร้าย ประกอบเป็นคาร์บอมบ์ หรือจักรยานยนต์บอมบ์ เนื่องจากเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มคนร้ายได้ใช้รถยนต์ จำนวน 2 คัน ก่อเหตุร้ายในย่านถนนรวมมิตร เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา สร้างความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก
พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา กล่าวว่า ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมืองยะลา เกิดเหตุระเบิดคนร้ายได้ใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์นำมาประกอบวัตถุระเบิด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ จึงได้มีการดำเนินการ เพราะส่วนใหญ่รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุจะเป็นรถยนต์ผิดกฎหมายแทบทั้งสิ้น หากสามารถลดจำนวนรถผิดกฎหมายได้ โอกาสการก่อเหตุร้ายก็จะน้อยลง
ทั้งนี้ อยากฝากเตือนไปถึงประชาชนว่าอย่าซื้อรถหนีไฟแนนซ์ รถจำนำ หรือรถที่ไม่มั่นใจว่าจะมีเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ถูกต้อง เพราะอาจมีความผิดตามกฎหมาย หากสงสัยให้สอบถามเจ้าฝ่ายรัฐ หรือโทร.สอบถามไปยังศูนย์อำนวยการป้องกันปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ (ศปจร.ศชต.) ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-7320-3690 และ 0-7322-0200
สำหรับความคืบหน้าเหตุคดีคาร์บอมบ์ย่านถนนรวมมิตร ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 12 คน และได้รับบาดเจ็บกว่า 100 คน เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น การสืบสวนสอบสวนของชุดสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดยะลา และชุดสืบสวนสอบสวนศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้ ได้พยานเพิ่มเติมอีก 3 คนที่สามารถชี้ตัวคนร้ายในกล้องวงจรปิด
ทั้งนี้ ทราบตัวแล้วว่าเป็นใคร แต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลในเชิงลึกได้ ต่อไปก็จะดำเนินการออกหมายจับ ซึ่งเป็นกลุ่มคนร้ายที่เคยก่อเหตุคาร์บอมบ์ และเหตุระเบิดในเขตเทศบาลนครยะลามาโดยตลอด โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการออกหมายจับ จำนวน 1 หมาย