xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.เรือนจำเมืองคอนคุมเข้มของกลางก่อนส่ง ตร.สืบสาวที่มา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นครศรีธรรมราช - ผบ.เรือนจำนครศรีธรรมราชสั่งตั้งกรรมการรักษาของกลางยาเสพติดล็อตใหญ่ ซึ่งเก็บไว้ในตู้เซฟ ก่อนเตรียมนำร้องทุกข์ต่อตำรวจสืบสวนหาที่มา

หลังจากที่เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ได้ทำการค้นพบ และตรวจยึดยาเสพติดประเภทยาไอซ์จำนวน 1.845 กก.และยาบ้า 8,600 เม็ด รวมทั้งสิ่งของต้องห้ามอื่นๆ อีกจำนวนมาก เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมี พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ บินด่วนมาตรวจสอบของกลางด้วยตัวเอง

วันนี้ (19 พ.ค.) นายสุรพล แก้วภราดัย ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ในส่วนของของกลางจำนวนมาก ขณะนี้ได้เก็บรักษาอยู่ในตู้เซฟของทางราชการ โดยมีกรรมการจำนวน 3 คน เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชเป็นผู้เก็บรักษา โดยได้ดำเนินการตามกระบวนการภายใน จากนั้น ในวันจันทร์ที่ 21 พ.ค.55 กรรมการทั้ง 3 รายจะนำของกลางทั้งหมดไปส่งแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และแจ้งความดำเนินคดีให้มีการสืบสวนสอบสวนกับเจ้าของยาเสพติดดังกล่าว

“อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้สั่งการให้ทำรายงานถึง ป.ป.ส.ด้วย และจะได้ประสานงานในเรื่องของรางวัลนำจับให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจะได้มีขวัญกำลังใจ ขณะเดียวกัน จะได้สืบสวน และสืบเสาะในเชิงลึกถึงเจ้าของยาเสพติดจำนวนมากนี้ โดยจะต้องวางสายสืบเข้าไป ส่วนนักโทษที่เข้าไปใหม่นั้น จะไม่มีใครกล้าพูด เนื่องจากเกรงว่าจะถูกทำร้ายจากพวกขาใหญ่ทั้งหลาย

ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นจะได้ทำการตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์จากของที่ได้ เช่น ลายนิ้วมือ จากนั้นสามารถนำมาเทียบกับ รท.11 ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญของผู้ต้องขังที่มีหลักฐานเป็นลายนิ้วมือของแต่ละคน จะทราบได้ว่าของเหล่านี้เป็นของใคร มีนักโทษคนไหนจับต้องมาบ้าง” ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชกล่าว

นายสุรพล แก้วภราดัย ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ยังกล่าวต่อว่า ทางเรือนจำยังมีปฏิบัติการกวาดล้างตรวจค้นเรือนจำแบบพลิกแผ่นดินอย่างต่อเนื่อง แต่จะไม่มีการเปิดเผยว่าเราจะทำอย่างไร แบบไหน ตรงไหนบ้าง ซึ่งขณะนี้ มีการรายงานของสายข่าวภายในมาอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน

ด้าน พ.ต.อ.ศักดิ์สุราษฎร์ ตลับนาค ผกก.สภ.พระพรหม เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรอทางเรือนจำเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ซึ่งเข้าใจว่าขณะนี้ยังมีกระบวนการภายในของเรือนจำ เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนในฐานความผิดต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น