ยะลา - อำเภอกรงปินัง สนับสนุนให้เกษตรกรในพื้นที่ปลูกสละอินโด หลังประสบปัญหา ลองกอง ทุเรียน ไม่ออกผลผลิตตามฤดูกาล
หลังจากเข้าสู่ฤดูผลไม้ปีนี้ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประชาชนส่วนใหญ่จะมีอาชีพทำเกษตรกรรม เช่น สวนยางพารา ไร่นา สวนผลไม้ เป็นอาชีพหลัก ซึ่งขณะนี้ ชาวสวนผลไม้ ทั้ง ลองกอง ทุเรียน และมังคุด กำลังได้รับผลกระทบจากปัญหาสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผลไม้ไม่ออกผลผลิตถูกต้องตามฤดูกาล
และจากการลงพื้นที่ พูดคุยกับเกษตรกรใน อ.กรงปินัง จ.ยะลา ก็พบว่า สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ในปีนี้ฤดูผลไม้ ไม่ได้ผลผลิตอย่างที่ต้องการ หรือหากจะได้ ก็มีจำนวนที่น้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำให้เกษตรกรหันมาปลูกสละอินโดแทน เพื่อเป็นรายได้เสริม เช่น น.ส.มารีเยาะ ยูโซ๊ะ อยู่บ้านเลขที่ 76 บ้านบราแง ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกษตรกรชาวสวน ที่หันมาพลิกฟื้นพื้นที่ทางการเกษตรของตนเองที่มีอยู่เพียง 2 ไร่เศษ ปลูกสละอินโด กว่า 70 ต้น
น.ส.มารีเยาะ ยูโซ๊ะ เปิดเผยว่า ได้ปลูกสละอินโด มากว่า 8 ปีแล้ว ซึ่งก็ได้รับผลผลิตเมื่อตอนต้นสละอายุ 3 ปี โดยเก็บผลสละขายส่ง หรือส่งตามลูกค้าที่สั่ง ปริมาณการเก็บผลผลิตต่อวัน ก็อยู่ที่ 20 กิโลกรัม ขายในราคาส่งที่กิโลกรัมละ 60-65 บาท จึงสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวเป็นอย่างดี และดีกว่าลองกอง กับทุเรียน ซึ่งในปีนี้แทบจะไม่มีผลผลิตเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนไป
ด้านนายสนั่น สนธิเมือง นายอำเภอกรงปินัง จ.ยะลา เปิดเผยว่า ขณะนี้ในพื้นที่ อ.กรงปินัง มีเกษตรกร จำนวนกว่า 50 ราย ใน 4 ตำบล ที่หันมาปลูกสละอินโดเพื่อเป็นพืชทางเลือก นอกจากทุเรียน และลองกอง โดยใน อ.กรงปินัง มีพื้นที่ปลูก 43 ไร่ 54 ครัวเรือน ผลผลิตเฉลี่ย 1,300 กก.ต่อไร่ ส่วนการส่งเสริมการปลูกสละอินโดนั้น เนื่องจากผลไม้ทั่วไป โดยเฉพาะ ทุเรียน ลองกองปีนี้ผลผลิตไม่ค่อยดี เนื่องจากสภาพภูมิอากาศ ฤดูกาลที่เปลี่ยนไป ทำให้ผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดมีน้อย
ส่วนสละอินโด ขณะนี้ตลาดมีแนวโน้มต้องการผลผลิตมากยิ่งขึ้น และราคาดี โดยเฉพาะขายส่ง 65 บาทต่อกิโลกรัม และจะต้องจองถึงจะหาผลผลิตได้ ทาง อ.กรงปินัง จึงได้เข้ามาส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ได้ขยายพื้นที่ปลูกสละอินโด ทดแทน ทุเรียน ลองกอง ที่จะหมดอายุ ซึ่งจะเป็นทางเลือกหนึ่งให้แก่เกษตรกร โดยทางเกษตรอำเภอ และกลุ่มผู้ปลูกสละอินโด ได้ประชุมวางแผนกันที่จะช่วยกันส่งเสริมผลผลิตให้มีคุณภาพดี และมีการกระจายข้อมูลให้ประชาชนได้ปลูกกันมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยเฉพาะเกษตรอำเภอ และทีมงาน ได้ช่วยกันวางแผนและจะดำเนินการของงบประมาณจากทางจังหวัด เพื่อช่วยให้เกษตรกรได้ปลูกสละอินโดให้แพร่ขยายใน อ.กรงปินัง มากขึ้น
สำหรับจุดเด่น ที่ อ.กรงปินัง ได้เข้ามาส่งเสริมเกษตรกรในการปลูกสละอินโดนี้ เนื่องจากหลังจากที่ชาวบ้านได้ทดลองนำต้นสละอินโดมาปลูกกันคนละต้นสองต้นแล้ว ปลูกได้ผลดี ผลผลิตมีรสชาติหวาน กลมกล่อม และรายได้ดี ซึ่งหลังจากปลูกแล้วได้ผลผลิตดี มีราคาสูง ก็มีการจัดตั้งกลุ่มผู้ปลูกสละ โดยมีชาวบ้าน 15 คน ได้มีการประชุมวางแผน มีการให้ความรู้แก่ชาวบ้านที่สนใจ นอกจากนั้น ก็จะมีแปลงสาธิตจำนวน 3 แปลง เพื่อให้เกษตรกรที่สนใจหันมาปลูกสละอินโดให้มากขึ้น