ชุมพร - “เทพเทือก” นำขุนพล ปชป.เปิดเวทีเสวนาประชาชน "แก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.ปรองดอง และนิรโทษกรรมเพื่อใคร" เวทีแรกที่ จัดที่ จ.ชุมพร ก่อนทัวร์ปลุกกระแสทั่วภาคใต้
ผู้สื่อข่าว จ.ชุมพร รายงานว่า เวลา 18.00 น.วันที่11 พ.ค.ที่ผ่านมา แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำคนสำคัญของพรรค เช่น นายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่ นายชำนิ ศักดิ์เศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จ.นครศรีธรรมราช นายพิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช เปิดเวทีสานเสวนาประชาชน “แก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือ ปรองดอง และกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อใคร" ขึ้น มี นายสำราญ รอดเพชร ทำหน้าที่เป็นพิธีกรเวที นอกจากนี้ยังมี ส.ส.จังหวัดชุมพร ทั้ง 3 คน และประชาชนในพื้นที่จังหวัดชุมพรประมาณ 10,000 คนเข้าร่วม โดยเวทีดังกล่าวจัดขึ้นที่ เทศบาลเมืองชุมพร
นายนายอาคม เอ่งฉ้วน ทำหน้าที่เปิดเวทีเป็นคนแรก ได้ชี้ให้เห็นถึงความไม่จำเป็นของ การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อ คนๆเดียว คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยอ้างการปรองดอง ตอนท้ายของการปราศรัยได้ถามประชาชนที่รับฟังว่า เราจะแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ พร้อมกับมีเสียงดังสนั่นตะโกนสวนขึ้นมาทันทีว่าไม่แก้
ขณะที่ นายชำนิ ศักดิ์เศรษฐ์ ได้กล่าวปราศรัย ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่า เจ้าของปัญหาและเจ้าของอำนาจเป็นคนๆเดียวกัน ทำให้ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดการนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รธน.ที่รัฐบาลต้องการแก้ไขมากที่สุดคือ มาตราสุดท้าย "มาตรา 309 บรรดาการใดๆ ที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2549 ว่าเป็นการชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีดังกล่าว ไม่ว่าก่อนหรือหลังวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ให้ถือว่าการนั้นและการกระทำชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้" เพราะหากแก้ได้ก็นำมาสู่การ นิรโทษกรรม
ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง ได้กล่าวปราศรัยว่า เวที สานเสวนาประชาชน เป็นเวทีที่ให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระโดยไม่ต้องสรุป ซึ่งเวทีลักษณะนี้ควร จะมีขึ้นนานแล้ว และขอให้ไม่ให้ซื้อ หนังสือพิมพ์ที่ไม่เป็นกลางทางการเมือง รวมถึงความอึดอัดของประชาชนที่ต้องทนดูสื่อมวลชน ทำให้เกิดความขัดแย้งของสังคมอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาช่วงค่ำ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยประเด็นการตั้ง สสร.ขึ้นมาแก้ไข รธน.และคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่า การแก้ไข รธน.เพื่อเปลี่ยนแปลงมาตราที่เกี่ยวข้องกับสถาบันซึ่งตนยอมไม่ได้ และจะไม่ยอมให้ถึงวันนั้นอย่างเด็จขาด ในขณะเดียวกัน คนเสื้อแดงยังคงมีการเคลื่อนไหวสอดรับที่จะให้มีการแก้ไข รธน.ในมาตราที่เกี่ยวข้องกับสถาบันอยู่
การปราศรัยปิดท้ายด้วยการปราศรัยของ นายเทพไท เสนพงศ์ ก่อนปิดเวทีเวลา 21.45 น ตามแผนของแกนนำพรรค ปชป. จากนั้นก็จะมีการเปิดเวทีที่ จ.สุราษฎร์ธานี 3 จ.สงขลา และ จ.นครศรีธรรมราช และจังหวัดอื่นๆ ทางภาคใต้
ผู้สื่อข่าว จ.ชุมพร รายงานว่า เวลา 18.00 น.วันที่11 พ.ค.ที่ผ่านมา แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำคนสำคัญของพรรค เช่น นายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่ นายชำนิ ศักดิ์เศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จ.นครศรีธรรมราช นายพิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช เปิดเวทีสานเสวนาประชาชน “แก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือ ปรองดอง และกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อใคร" ขึ้น มี นายสำราญ รอดเพชร ทำหน้าที่เป็นพิธีกรเวที นอกจากนี้ยังมี ส.ส.จังหวัดชุมพร ทั้ง 3 คน และประชาชนในพื้นที่จังหวัดชุมพรประมาณ 10,000 คนเข้าร่วม โดยเวทีดังกล่าวจัดขึ้นที่ เทศบาลเมืองชุมพร
นายนายอาคม เอ่งฉ้วน ทำหน้าที่เปิดเวทีเป็นคนแรก ได้ชี้ให้เห็นถึงความไม่จำเป็นของ การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อ คนๆเดียว คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยอ้างการปรองดอง ตอนท้ายของการปราศรัยได้ถามประชาชนที่รับฟังว่า เราจะแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ พร้อมกับมีเสียงดังสนั่นตะโกนสวนขึ้นมาทันทีว่าไม่แก้
ขณะที่ นายชำนิ ศักดิ์เศรษฐ์ ได้กล่าวปราศรัย ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่า เจ้าของปัญหาและเจ้าของอำนาจเป็นคนๆเดียวกัน ทำให้ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดการนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รธน.ที่รัฐบาลต้องการแก้ไขมากที่สุดคือ มาตราสุดท้าย "มาตรา 309 บรรดาการใดๆ ที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2549 ว่าเป็นการชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีดังกล่าว ไม่ว่าก่อนหรือหลังวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ให้ถือว่าการนั้นและการกระทำชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้" เพราะหากแก้ได้ก็นำมาสู่การ นิรโทษกรรม
ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง ได้กล่าวปราศรัยว่า เวที สานเสวนาประชาชน เป็นเวทีที่ให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระโดยไม่ต้องสรุป ซึ่งเวทีลักษณะนี้ควร จะมีขึ้นนานแล้ว และขอให้ไม่ให้ซื้อ หนังสือพิมพ์ที่ไม่เป็นกลางทางการเมือง รวมถึงความอึดอัดของประชาชนที่ต้องทนดูสื่อมวลชน ทำให้เกิดความขัดแย้งของสังคมอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาช่วงค่ำ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยประเด็นการตั้ง สสร.ขึ้นมาแก้ไข รธน.และคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่า การแก้ไข รธน.เพื่อเปลี่ยนแปลงมาตราที่เกี่ยวข้องกับสถาบันซึ่งตนยอมไม่ได้ และจะไม่ยอมให้ถึงวันนั้นอย่างเด็จขาด ในขณะเดียวกัน คนเสื้อแดงยังคงมีการเคลื่อนไหวสอดรับที่จะให้มีการแก้ไข รธน.ในมาตราที่เกี่ยวข้องกับสถาบันอยู่
การปราศรัยปิดท้ายด้วยการปราศรัยของ นายเทพไท เสนพงศ์ ก่อนปิดเวทีเวลา 21.45 น ตามแผนของแกนนำพรรค ปชป. จากนั้นก็จะมีการเปิดเวทีที่ จ.สุราษฎร์ธานี 3 จ.สงขลา และ จ.นครศรีธรรมราช และจังหวัดอื่นๆ ทางภาคใต้
