xs
xsm
sm
md
lg

ผู้คุมคุกไฮเทคเจอคาดโทษห้ามเรื่องวงในถึงหูสื่อ-ตร. เตรียมแจ้งข้อหา 3 ตัวเต็งเอี่ยวแก๊งค้ายา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นครศรีธรรมราช - ตร.เล็ง 3 ตัวเต็ง จนท.คุกเมืองคอนเตรียมแจ้งข้อหา “สมคบและร่วมกันค้ายาเสพคิด” มึนรองอธิบดีคุกสั่งบันทึกภาพผู้สื่อข่าวตั้งคำถามมั่นใจได้อย่างไรว่าทั้ง 11 คน “บริสุทธิ์” ด้าน ผบ.คุกให้กำลังใจผู้สื่อข่าวทำงานเต็มที่-มั่นใจพวกสันหลังหวะไม่คุกคามแน่ เผยยังพบโทรศัพท์ต่อเนื่อง ขณะที่วงในแจ้งผู้คุมเจอคาดโทษห้ามข่าวภายในหลุดมาถึงสื่อ

การติดตามการแก้ไขปัญหาและการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีกับขบวนการค้ายาเสพติดในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการประพฤติมิชอบมีส่วนในการสมคบ และสนับสนุนนักโทษภายในเรือนจำยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (9 พ.ค.) ได้มีการสรุปการหารือระหว่าง นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายเพิ่มพงศ์ เชาวลิต รองเลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ในช่วงเย็นวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีกรอบในการหารือหลายประเด็นด้วยกัน เช่น แนวทางในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งสามารถขยายผลได้เป็นอย่างดีจากกระแสสังคมในช่วงนี้ ภายหลังจากการปราบปรามขวนการค้ายาเสพติดในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช โดยการให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาในลักษณะของสมัชชาที่มีการเลือกตั้งกันเอง โดยมีภาครัฐเป็นพี่เลี้ยง การสนับสนุนงบประมาณจาก ป.ป.ส.เพื่อจัดซื้อเครื่องมือถอดรหัสข้อมูลจากระบบโทรศัพท์มือถือ

พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า จากการหารือเมื่อวานนี้ ท่านรองเลขาธิการ ป.ป.ส.ได้รับปาก และรีบดำเนินการในเรื่องของงบประมาณการจัดซื้อเครื่องมือถอดรหัสข้อมูลโทรศัพท์ วงเงินประมาณ 4 แสนบาทเศษ โดยเครื่องมือนี้จะสามารถถอดข้อมูลทุกอย่างในโทรศัพท์ออกมาได้ทั้งหมด และทางรองเลขาธิการ ป.ป.ส.ระบุว่า จะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการทันทีเพื่อเข้าสู่กระบวนการจัดซื้อ

“ในส่วนของการทำคดี มาถึงวันนี้ คดีค้ายาเสพติดในเรือนจำเป็นรูปคดีแล้ว 17 คดี รู้ตัวแล้ว 5 ราย อีก 12 รายกำลังสาวข้อมูลสืบสวนในเชิงลึกเพื่อให้รู้ตัวแน่ชัดก่อน ส่วนของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่เกี่ยวข้องนั้น เรามั่นใจว่าจากข้อมูลในขณะนี้สามารถดำเนินการได้อย่างน้อย 3 คน แล้วจะมีข้อหาคือ ร่วมกันสมคบค้ายาเสพติด แต่ยังไม่ขอเปิดเผยว่าจะดำเนินการอย่างไร เมื่อไหร่ บอกได้เพียงว่าทุกอย่างจะต้องชัดเจน สำนวนต้องแน่นหนาแล้วจึงดำเนินการ” ผบก.นครศรีธรรมราช กล่าว

พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ยังกล่าวต่อว่า ตนไม่ทราบเจตนาในเรื่องของการบันทึกภาพผู้สื่อข่าว และให้แจ้งถึงสังกัด รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ทั้ง 11 รายไปเจอกัน ใครเป็นใครไม่รู้ และไม่รู้ว่าใครบริสุทธิ์ หรือไม่บริสุทธิ์ ผู้ต้องหาทุกคนที่เคยเจอมานั้นชั้นต้นไม่มีใครเคยรับสารภาพ ปฏิเสธทุกราย แต่ภายหลังจนมุมด้วยหลักฐานทั้งนั้น ซึ่งตนได้หารือเรื่องนี้กับผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชแล้ว และท่านได้ระบุว่าให้ผู้สื่อข่าวยื่นหนังสือไปถึงแล้วท่านจะรีบดำเนินการให้ทันที

และในวันเดียวกันนี้ นายสุรพล แก้วภราดัย ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ในส่วนของการจัดการภายใน ขณะนี้กรรมการสอบสวนจำนวน 3 ชุด กำลังเตรียมลงพื้นที่ซึ่งคาดว่าใช้เวลาสอบสวนนับเดือน ขณะเดียวกัน ได้รอทิศทางการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะไปทิศทางไหนอย่างไร การทำงานของคณะกรรมการสอบสวนจะได้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และจะได้รวบรวมข้อมูลในสำนวนการสอบสวนให้รัดกุมเช่นเดียวกับของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ต่อข้อถามถึงการวิตกของผู้สื่อข่าวถึงการบันทึกภาพ และให้ผู้คุมที่ต้องสงสัยและอยู่ในระหว่างการสอบสวนมาพบกับผู้สื่อข่าวในห้องเดียวกันนั้น นายสุรพลกล่าวว่า ตนเข้าใจว่าเจตนาของรองอธิบดีที่ต้องการยืนยันว่าไม่มีใครให้ข่าวในเรื่องที่เป็นประเด็นส่งผลกระทบต่อองค์กร

“ผมขอเป็นกำลังใจให้ผู้สื่อข่าวไม่ต้องวิตก จริงๆ แล้วผมต้องกลัวมากกว่า ต้องทำงานทุกวันไม่รู้ใครเป็นใคร แต่มันเป็นวิชาชีพของเรา ผู้สื่อข่าวเป็นวิชาชีพต้องทำหน้าที่ให้เต็มที่ ไม่ต้องวิตกว่าพวกนี้โกรธ แล้วจะมาลงที่ผู้สื่อข่าว ผมเห็นว่าพวกเขาควรต้องระวังกันเอง ใครเป็นใครรู้กัน อยู่ไปไม่รอดแล้วเขาก็ยิงกันเอง ไม่ต้องกลัว และที่สำคัญเขาไม่ได้เป็นศัตรูกับผู้สื่อข่าวเพราะผู้สื่อข่าวก็ทำไปตามหน้าที่” ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชกล่าว

นายสุรพล แก้วภราดัย ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ยังกล่าวต่อว่า การตรวจค้นเรือนจำยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ค้นแบบซ้ำแล้วซ้ำอีก ค้นไม่จำกัดเวลา และพบโทรศัพท์อย่างต่อเนื่อง แต่ที่พบนั้นเริ่มสังเกตได้ว่าความทันสมัยหายไปหมด แต่ละเครื่องสภาพเก่าคร่ำคร่าและเป็นรุ่นเก่ามาก ทราบว่าขุดจากในดินที่ซ่อนไว้มาขายกันเพราะมีราคาแพง แต่เรายังยึดได้ต่อเนื่อง ส่วนยาเสพติดนั้นมั่นใจว่าเริ่มทยอยหมดไปแล้ว ยาที่ยังหลงเหลือจะหมดไปเรื่อยๆ เพราะต้องเสพไม่เสพก็ไม่รู้จะเหลือทำไม ขณะที่นักโทษที่เสี้ยนยามีให้เห็นแล้ว แต่อาการจะน้อยกว่าประเภทเฮโรอีนเหมือนในอดีต นักโทษที่ติดยาบ้าจะกระสับกระส่ายงุ่นง่าน เขาใช้วิธีรดน้ำทั้งตัวอาการเสี้ยนยาจะหายไป

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรายหนึ่งเปิดเผยว่า หลังจากรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ฝ่ายปฏิบัติการได้เดินทางลงมาสอบสวนเจ้าหน้าที่ทั้ง 11 นายที่ยังอยู่ในราชการ และอีก 2 นายที่ต้องโทษให้ออกจากราชการไปแล้ว ปรากฏว่าทั้ง 11 นาย พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชทุกคนมีคำสั่งแบบไม่เป็นทางการให้ปิดปากเงียบสนิท ห้ามแพร่งพรายข้อมูลภายในเรือนจำออกมาภายนอก ห้ามพบปะ หรือพูดคุย หรือให้ข้อมูลข่าวแก่ผู้สื่อข่าวอย่างเด็ดขาด และหากปรากฏข่าวว่า “แหล่งข่าวในเรือนจำ” เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องหรือประเด็นที่ปรากฏจะต้องถูกสอบสวนทันที ส่วนผู้ที่มีอำนาจในการให้ข่าวเพียงผู้เดียวคือ ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น