xs
xsm
sm
md
lg

รองนายกหนุนสะพานมิตรภาพไทย-มาเลย์ที่ตากใบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นราธิวาส - รองนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่นราธิวาส เผยมีศักยภาพในการเป็นประตูส่งออกสินค้าแบบ Logistice พร้อมเตรียมเสนอรัฐบาลสร้างสะพานมิตรภาพไทย - มาเลเซีย ตรงด่านตากใบ

วันนี้ ( 28 เม.ย. )นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายประชา เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาสเพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงานต่างๆในพื้นที่โดยเฉพาะด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยคณะได้เข้าร่วมประชุมเพื่อบรรยายสรุปเกี่ยว “ การเปิดประตูการค้าชายแดนจังหวัดนราธิวาส ” ที่ห้องประชุมของมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ โดยมีนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นผู้บรรยายสรุป

ทั้งนี้ในที่ประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสได้นำเสนอเศรษฐกิจในภาพรวมของพื้นที่จังหวัดนราธิวาส โดยสามารถคิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อคน 66,654 ต่อปี คิดเป็นลำดับที่ 14 ของภาคใต้ และลำดับที่ 49 ของประเทศ โดยรายได้ทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่ของประชากรในพื้นที่มาจากภาคการเกษตร

นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสได้กล่าวถึงศักยภาพของจังหวัดนราธิวาสที่มีเขตติดต่อกับประเทศมาเลเซียทั้งทางบกทางน้ำ ซึ่งปัจจุบันในพื้นที่มีด่านชายแดนรวม 3 ด่าน คือด่านตากใบ ด่านสุไหงโก-ลก และด่านอำเภอแว้ง โดยรายได้จากการค้าชายแดน 4 ปีย้อนหลังมีรายได้ 3,559 ล้านบาท และในอนาคตจังหวัดนราธิวาสกำหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนาเมืองชายแดนนราธิวาสให้เป็นประตูส่งออกสินค้าเน้นการส่งออกแบบ Logistice และหวังเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของภูมิภาคเพื่อรองรับเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ด้วย

และหลังจากรับฟังบรรยายสรุปแล้วคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมด่านศุลกากรตากใบ และด่านศุลกากรบูเก๊ะตา อ.แว้ง ก่อนที่จะเดินทางต่อไป จ.ยะลา

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวขณะตรวจเยี่ยมด่านชายแดนตากใบ จ.นราธิวาส ว่าปัญหาที่จะต้องเร่งพัฒนาในส่วนของจังหวัดนราธิวาสที่เกี่ยวกับด้านเศรษฐกิจเป็นปัญหาด้านโครงสร้าง ซึ่งบริเวณด่านตากใบมีอาคารไม่เพียงพอกับการให้บริการ มีประชาชนที่ต้องการเดินทางเป็นจำนวนมากแต่ด้วยอาคารที่มีจำกัดทำให้ต้องต่อคิวยาว แต่ในไม่ช้าอาคารใหม่กำลังจะสร้างเสร็จปัญหาตรงนี้น่าจะหมดไป นอกจากนี้ยังมีโครงการสร้างสะพานเชื่อมไทย มาเลเซีย ที่จะต้องเร่งหารือกับรัฐบาลทั้งรัฐบาลไทยและรัฐบาลมาเลเซีย เพราะจะเป็นอีกโครงการหนึ่งที่ช่วยในเรื่องของเศรษฐกิจในพื้นที่

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงศักยภาพของจังหวัดนราธิวาสที่จะเป็นประตูในการส่งสินค้าแบบโลจิสติกด้วยว่า จังหวัดนราธิวาสมีศักยภาพเพียงพอเนื่องจากเป็นจังหวัดที่อยู่ติดกับประเทศมาเลเซีย ซึ่งประเทศมาเลเซียเองมีความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจที่ดีหากมีการเชื่อมโยงกันจังหวัดนราธิวาสจะได้รับผลทางเศรษฐกิจมากขึ้นด้วย ในขณะเดียวกันสินค้าทางเกษตรจะได้ส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านด้วย ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น





กำลังโหลดความคิดเห็น