อดีตสามียกพวกยิงภรรยาสาวพยาบาลดับพร้อมแม่ยายต่อหน้าลูกชาย

ชุมพร - อดีตสามียกพวกยิงภรรยาสาวพยาบาลดับพร้อมแม่ยายต่อหน้าลูกชายวัย 5 ขวบ ภายในคลินิกผดุงครรภ์

เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 28 เม.ย.55 พ.ต.ท.จรัล พรหมคีรี พงส.สบ.3 สภ.สวี อ.สวี จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุยิงกันตายที่บ้านเลขที่ 75/2 หมู่ที่ 12 ต.ครน อ.สวี จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วนำกำลังตำรวจชุดสายตรวจ สายสืบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุพจน์ บุญชูดวง ผกก.สภ.สวี พ.ต.ท.ธรรมรัตน์ อินนาปา รอง ผกก. พ.ต.ท.ปรีดา คอนกำลัง สว.สส หน่วยกู้ภัยสายชลมูลนิธิชุมพร รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบ้านหลังดังกล่าวอยู่บริเวณตลาดสี่แยกเขาล้านริมถนนเอเชีย 41 เป็นอาคารชั้นครึ่ง เปิดเป็นคลินิกผดุงครรภ์ชื่อ “จารุวรรณคลินิกการพยาบาลและผดุงครรภ์” มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งมุงดูเหตุการณ์อยู่ ภายในคลินิกมีบรรดาญาติๆนั่งร่ำไห้ด้วยความเสียใจ

ตรวจสอบในครัวด้านในพบศพทราบชื่อ นางจารุวรรณ บัวสุวรรณ อายุ 39 ปี สภาพศพนอนหงายนุ่งกางเกงขายาวสีดำ ใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้าลายดอกเหลือง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่ตาขวา 1 นัด ดั้งจมูก 2 นัด มีกระสุนฝังอยู่ในกระโหลก 1 นัด และทะลุออกศรีษะหลัง 2 นัด ห่างกันราว 3 เมตรพบอีกศพทราบชื่อ นางแจ่มจันทร์ ยุติมิตร อายุ 62 ปี สภาพศพนอนหงายนุ่งกางเกงขายาวสีดำ ใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีน้ำตาลลายดอกไม้ และมีผ้าชุดกั้นเปื้อนสีฟ้าสำหรับทำอาหารคล้องคออยู่ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าที่ขมับขวากระสุนทะลุออกขมับซ้าย 1 นัด ที่บาดแผลมีคราบเขม่าดินปืนติดอยู่จำนวนมาก

ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบวิถีหัวกระสุนปืนขนาด .38 ที่ใช้ยิงนางจารุวรรณ ฝังอยู่ที่ผนังปูน 2 หัว และหัวกระสุนที่ใช้ยิงนางแจ่มจันทร์สภาพบี้แบนฝังอยู่ในกระป๋องนมที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ผู้ตายจนไม่สามารถระบุชนิดหัวกระสุนได้ เจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนั้นยังมีร่องรอยการต่อสู้จนเครื่องครัวของใช้หล่นกระจายไปทั่ว

จากการสอบสวนทราบว่า นางจารุวรรณ บัวสุวรรณ อายุ 39 ปี มีอาชีพรับราชการเป็นพยาบาลเชี่ยวชาญด้านเด็กของโรงพยาบาลสวี จบการศึกษาปริญญาโทจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และใช้เวลาวันหยุดและเวลานอกราชการเปิดคลินิกผดุงครรภ์ชื่อ “จารุวรรณคลินิกการพยาบาลและผดุงครรภ์” อยู่อาศัยภายในคลินิกหลังดังกล่าวกับ นางแจ่มจันทร์ ยุติมิตร อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นมารดาและ ด.ช.บอล บัวสุวรรณ อายุ 5 ปี บุตรชายของ นางจารุวรรณ ก่อนเกิดเหตุช่วงหัวค่ำ ได้มี นายนิพนธ์ บัวสุวรรณ อายุประมาณ 40 เป็นอดีตสามีของนางจารุวรรณ และบิดาของ ด.ช.บอล ได้นั่งรถยนต์กระบะสี่ประตูไม่ทราบสี ยี่ห้อ และทะเบียน มากับเพื่อนรวม 3 คน เข้ามาจอดใกล้กับคลินิกของผู้ตาย

จากนั้นนายนิพนธ์ได้ลงไปกับเพื่อน 1 คน ส่วนเพื่อนอีกคนเป็นคนขับนั่งติดเครื่องรออยู่ในรถ เดินเข้าไปที่คลินิกหลังเกิดเหตุ แล้วบังคับให้ นางจารุวรรณอดีตภรรยา กับนางแจ่มจันทร์ อดีตแม่ยาย เข้าไปในห้องครัวด้านหลังคลินิก และมี ด.ช.บอลเดินตามเข้าไปด้วย โดยมีเพื่อนของนายนิพนธ์คอยยืนคุมเชิงอยู่บริเวณประตูทางเข้าห้องครัว เพื่อพูดคุยเจรจาขอคืนดีกันหลังจากที่ นางจารุวรรณได้ฟ้องหย่ากับนายนิพนธ์จนหย่าขาดความเป็นสามีภรรยากันมาได้ไม่ถึง 1 ปี

ทั้งหมดได้มีการพูดคุยกันพักใหญ่แต่ไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ จนมีปากเสียงทะเลาะลุกลามจนถึงขั้นรุนแรง นางจารุวรรณเห็นท่าไม่ดีจึงเดินหนีไปเปิดประตูหลังบ้านเพื่อจะวิ่งออกไป แต่ถูกนายนิพนธ์ตามไปลากตัวกลับเข้ามาในบ้านและชักอาวุธปืนออกมาจากเอวจ่อยิงไปที่ใบหน้าของ นางจารุวรรณ 3 นัดซ้อน จนล้มฟุบลงจมกองเลือดตายคาที่

ขณะเดียวกันนางแจ่มจันทร์เมื่อเห็นเหตุการณ์จึงวิ่งจะเข้าไปจะช่วยลูกสาวและแย่งปืนจากนายนิพนธ์ แต่ได้ถูกเพื่อนของนายนิพนธ์ที่ยืนคุมเชิงอยู่ชักอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าไปจ่อยิงนางแจ่มจันทร์ที่ขมับขวากระสุนพุ่งทะลุออกขมับซ้ายจนล้มลงสิ้นใจตายคาที่ไปอีกคน

ส่วน ด.ช.บอลที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดวิ่งเข้าไปหลบอยู่ใต้โต๊ะอาหารด้วยอาการตื่นตกใจ จากนั้นนายนิพนธ์และเพื่อนที่ร่วมกันยิงอดีตเมียและแม่ยายตาย 2 ศพ ได้วิ่งหนีออกไปขึ้นรถยนต์กระบะที่เพื่อนติดเครื่องนั่งรออยู่ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

ส่วนสาเหตุการฆ่าอย่างเหี้ยมโหดครั้งนี้ จากแนวทางการสอบสวนทราบว่า นางจารุวรรณ บัวสุวรรณ มีอาชีพรับราชการเป็นพยาบาลเชี่ยวชาญด้านเด็กของโรงพยาบาลสวี และเปิดคลินิกผดุงครรภ์ชื่อ “จารุวรรณคลินิกการพยาบาลและผดุงครรภ์” ก่อนหน้านี้ได้แต่งงานอยู่กินกับ นายนิพนธ์ บัวสุวรรณ มีบุตรด้วยกัน 2 คน โดยคนโตเป็นหญิงอายุ 9 ปี เรียนหนังสือพักอยู่กับญาติในกรุงเทพมหานคร ส่วนคนเล็กเป็นชาย อายุ 5 ขวบพักอยู่กับนางจารุวรรณ นายนิพนธ์อดีตสามีมีอาชีพทำสวนยางและเพาะกล้ายางพาราขายอยู่ในพื้นที่ อ.สวี แต่นายนิพนธ์เป็นคนมีนิสัยชอบหึงหวงหวาดระแวงและหาเรื่องมีปากเสียงทะเลาะตบตีนางจารุวรรณอยู่เป็นประจำ

จนกระทั่งกลางปี 2554 ที่ผ่านมานางจารุวรรณ ทนต่อพฤติกรรมของนายนิพนธ์ไม่ไหวจึงไปแจ้งดำเนินคดีและฟ้องหย่าจนหย่าขาดจากกัน แต่นายนิพนธ์ก็ยังคอยมาตามง้อขอคืนดีอยู่ตลอด แต่นางจารุวรรณไม่ยอมคุยด้วย จนกระทั่งนายนิพนธ์พาพวกบุกเข้าไปถึงคลินิกแล้วก่อเหตุยิงอดีตภรรยาและแม่ยายตายสยองดังกล่าว ตำรวจจะได้ติดตามจับกุมอดีตสามีโหดและเพื่อนที่ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป