นักท่องเที่ยวโวยกลิ่นเหม็นน้ำเสียอบอวลอ่าวนาง นายกท่องเที่ยววอนรีบแก้ก่อนเป็นหาดร้าง

กระบี่ - น้ำเสียที่หาดอ่าวนาง แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของกระบี่ ส่งกลิ่นเหม็นอบอวล จนนักท่องเที่ยวทนไม่ไหว ด้านนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวกระบี่ ชี้เกิดจากโรงแรมปล่อยน้ำเสียลงหาด วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาด่วน ก่อนอ่าวนางจะกลายเป็นหาดร้าง

วันนี้ ( 25 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำ บริเวณชายหาดอ่าวนาง ม.2 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ว่า มีการปล่อยน้ำเสียลงชายหาด ส่งกลิ่นเหม็นอบอวล สร้างความรำคาญแก่นักท่องเที่ยวที่กำลังนอนอาบแดด และลงเล่นน้ำ จึงเดินทางไปตรวจสอบพบจุดที่มีการปล่อยน้ำเสียลงทะเล มีอยู่ 2 จุด จุดแรกอยู่บริเวณทางแยกโค้งอ่าวนาง โดยมีน้ำเสียไหลออกมาจากท่อระบายน้ำ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ขนาด 100 ซม. ส่วนอีกจุดอยู่ภายในคลองจาก ห่างจากจุดแรกประมาณ 500 เมตร

จากการตรวจสอบพบว่า น้ำเสียที่กำลังส่งกลิ่นเหม็น สร้างความรำคาญแก่นักท่องเที่ยวทั้ง 2 แห่งนั้น เป็นชายหาดที่นักท่องเที่ยวนิยมนอนอาบแดด และลงเล่นน้ำ โดยน้ำเสียที่มีการปล่อยลงชายหาดนั้น น่าจะเป็นน้ำเสียที่มีการปล่อยออกมาจากโรงแรม ที่พัก ที่อยู่ในบริเวณชายหาด เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวมีโรงแรมที่พักมากกว่า 3,000 ห้อง เปิดให้บริการนักท่องเที่ยว มีที่พักแบบห้องเช่า จนถึงจนถึงโรงแรมระดับ 5 ดาว โดยในช่วงน้ำทะเลลดจะเห็นได้ชัดเจนมาก

นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับน้ำเสียที่ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณชายหาดอ่าวนาง มีจำนวน 3 จุด คือ น้ำเสียภายในคลองจาก คลองยิงเสือ และหน้าหาดอ่าวนาง เนื่องจากน้ำเสียล้นออกมาจากท่อน้ำทิ้งของสถานประกอบการโรงแรมที่พัก ที่ไม่ผ่านการบำบัด เนื่องจากโรงแรม หรือสถานที่พักบางแห่งมีการต่อเติมขนาดให้ใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าพักให้มีความเพียงพอ แต่ขณะเดียวกัน ก็ไม่ได้มีการปรับปรุงถังเก็บน้ำเสีย เมื่อมีการใช้เพิ่มมากขึ้น ถังเก็บน้ำเสียก็ไม่สามารถรองรับได้ จึงล้นออกมาตามท่อน้ำไหลลงสู่ทะเล โดยไม่มีการบำบัด

สำหรับปัญหาน้ำเสียที่ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนนักท่องเที่ยวตามชายหาด เกิดขึ้นมานานนับ 10 ปี แต่ก็ไม่มีใครสามารถแก้ปัญหาได้ จึงต้องขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายทั้งจากผู้ประกอบการโรงแรมที่พัก ให้ช่วยกันเพิ่มขนาดถังเก็บน้ำเสียให้มีปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการใช้ และนอกจากนี้ ก็ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันระดมความคิดในการแก้ไขปัญหาโดยด่วน ก่อนที่นักท่องเที่ยวจะหนีหายไปจากชายหาดอ่าวนาง เนื่องจากทนกับสภาพกลิ่นของน้ำเสียไม่ไหว และเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้ หากไม่รีบแก้ปัญหาชายหาดอ่าวนาง คงจะกลายเป็นชายหาดร้างแน่นอน