แกนนำ “ต้มยำกุ้งมาเลย์” แห่กลับบ้านแจงสื่อโต้โยงป่วนใต้

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ประธานชมรมร้านอาหารต้มยำกุ้งในประเทศมาเลเซีย และผู้ประกอบการเดินทางแถลงข่าวเรียกร้องความเป็นธรรมและแสดงความบริสุทธิ์ หลังสื่อไทยรายงานโยงเป็นแกนนำขบวนการพูโล ทำให้ถูกทางการมาเลเซียจับตา และแรงงานชาวไทยมุสลิมเกือบ 300,000 คนได้รับผลกระทบ


ภายหลังจากที่สื่อฉบับหนึ่งรายงานว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เดินทางเจรจากับแกนนำพูโล อ้างชื่อ “ซำซูดิน คาน” โดยผู้ที่ปรากฎในภาพคือ นายวันซัมซูดิน ดินฮูเซ็น ประธานชมรมต้มยำกุ้งในประเทศมาเลเซียนั้น

 
วันนี้ (21 เม.ย.) เวลา 15.00 น. ณ โรงแรมบีพี แกรนด์ทาวเวอร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายวันซัมซูดิน ดินวันฮูเซ็น ประธานชมรมต้มยำกุ้ง พร้อมด้วยนายอภิชาติ เหล็มโซ๊ะ เจ้าของร้านลาล่าซีฟูดต้มยำ นายอับดุล กามา เจ้าของร้านดุลซีฟูด และผู้ประกอบการต้มยำกุ้งอีกกว่า 50 คน ในรัฐกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ได้ปิดร้านอาหารเพื่อเดินทางมาแถลงข่าวชี้แจงและขอความเป็นธรรม

 
เนื่องจากความเข้าใจผิดดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อคนไทยมุสลิมทั้งเจ้าของร้าน และแรงงานร้านอาหารเกือบ 300,000 คนทั่วประเทศ ถูกทางการมาเลเซียจับตา และหวาดวิตกว่าจะเดินทางเข้าออกประเทศลำบากขึ้น ซึ่งร้อยละ 90 นั้น เป็นเยาวชน และชาวบ้านใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เข้ามาทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ขณะที่ผู้ประกอบการต่างๆ ได้รับผลกระทบเพราะลูกค้าที่ลดลง จากการถูกสังคมครหาว่าเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย

 
โดยถ่ายภาพต้นตอนั้น เกิดขึ้นเมื่อ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง นำคณะซึ่งมีเจ้าหน้าที่จากไอแบงก์ หรือธนคารอิสลามแห่งประเทศไทย รวมอยู่ด้วย เพื่อหารือช่วยเหลือสมาชิกในการทำเวิร์กเปอร์มิตให้แก่แรงงานไทย และไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องอื่นๆ แต่อย่างใด จนกระทั่งผู้ประกอบการได้เดินทางมาขอสินเชื่อในไทยเรียบร้อยแล้ว แต่ภาพดังกล่าวถูกจับมาโยงกับการเจรจากับนายซำซูดิน คาน แกนนำพูโล ซึ่งมีชื่อคล้ายกับตนเท่านั้น หลังจากเกิดเหตุระเบิดใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และ จ.ยะลา

 
“ผมเป็นคนไทยที่ไม่ได้สร้างปัญหาให้แก่ประเทศ เพราะเราทำงานดูแลครอบครัว และช่วยเหลือให้คนอื่นๆ มีอาชีพ เพราะที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นไม่มีงานเพียงพอให้พวกเขาทำ ส่วนใหญ่เรียนน้อย และจบปอเนาะ จะได้มีงานทำมีรายได้ เหมือนช่วยรัฐบาลไปในตัว และเราก็มีสำนึกดี หากมีการเลือกตั้งก็ยอมปิดร้านให้ลูกน้องไปใช้สิทธิ ผมแค่ชื่อคล้ายกับแกนนำ แต่หน้าตาและวัยต่างกัน ไม่มีโจรกิ๊กก๊อกคนไหนที่มาทำงานรับออเดอร์ เก็บจาน ถูพื้น แทนลูกน้องในร้าน มีแต่เถ้าแก่ร้านต้มยำกุ้งที่เราทำหมดเพื่อบริการลูกค้า เพราะร้านต้มยำกุ้งมีจุดเด่นที่งานบริการทำให้ครองใจชาวมาเลเซียได้อย่างยาวนาน” นายวันซำซูดินกล่าว

ทั้งนี้ ชมรมต้มยำกุ้งได้ขอให้สังคมคืนพื้นที่ให้คนไทยในมาเลเซียได้มีพื้นที่ยืนในประเทศไทยเหมือนคนอื่นๆ ด้วยการไม่เหมารวมว่า คนไทยมุสลิมที่ทำงานในมาเลเซียเป็นแนวร่วมก่อเหตุ พร้อมกับเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เจรจากับนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เพื่อผลักดันแรงงานไทยเข้าทำงานได้สะดวกขึ้นเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน ให้คนไทยในมาเลเซียได้มีงานทำเลี้ยงครอบครัว ไม่ให้เกิดช่องว่างจนถูกชักจูงไปในทางไม่ดีจากฝ่ายตรงข้ามได้ง่ายอีกด้วย