ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เลือกตั้งนายก อบจ.ภูเก็ต “ไพบูลย์ อุปัติศฤงค์” อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ล้างอาถรรพ์ นั่งนายกอบจ.อีกครั้ง คะแนนนำคู่แข่งขาดลอย ขณะที่การใช้สิทธิเลือกตั้งพบคนใช้สิทธิแค่ 28.80%
สำหรับผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีผู้สมัครจำนวน 2 คน คือ นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ผู้สมัครหมายเลข 1 และนายชยต วิสารทพงศ์ ผู้สมัครหมายเลข 2 ปรากฏว่า การเลือกตั้งตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ (7 เม.ย.) จนถึงเวลาปิดหีบเลือกตั้ง ปรากฏว่า บรรยากาศการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งของประชาชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นไปด้วยความเงียบเหงา มีประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งบางตา ส่งผลให้บรรยากาศการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว
โดยผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ปรากฎว่า นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ผู้สมัครหมายเลข 1 ได้คะแนน 41,541 คะแนน และนายชยต วิสารทพงศ์ ผู้สมัครหมายเลข 2 ได้คะแนน 11,952 คะแนน สำหรับการเลือกตั้งในครั้งนี้ มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 23,7096 คน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวน 68,273 คน คิดเป็น 28.80% ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งแต่ละไม่คะแนน 1,1907 คน คิดเป็น 17.44% ของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง บัตรเสีย 2,783 บัตร คิดเป็น 4.21% ของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง
โดยนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ ว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบปะกับประชาชนในพื้นที่ พบว่า จังหวัดภูเก็ตยังมีปัญหาอีกมากมายที่รอการแก้ไข ซึ่งการทำงานจะเน้นการประสานความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาทางด้านต่างๆ ที่ประชาชนนำเสนอมา ทั้งปัญหาเรื่องของการจราจเรื่องของความไม่สะดวกในการสัญจรไปมา ปัญหาเรื่องน้ำดีน้ำเสีย ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่เร่งด่วนที่จะต้องประสานความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน
“และสิ่งสำคัญที่จะต้องทำเร่งด่วนในส่วนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต คือ เรื่องของการเดินหน้าโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต ซึ่งจะต้องหาทีมงานมาบริหารงานโรงพยาบาล อบจ.ต่อ เพราะสัญญาเดิมจะหมดในเดือนพ.ค.นี้ ซึ่งการหาทีมงานบริหารงานนั้นจะเซ็นสัญญา 5 ปี นอกจากนั้น ยังมีเรื่องของการเตรียมเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาเยาวชนที่จะมีการแข่งขันในเร็วๆ นี้ รวมถึงการแก้ไขปัญหาน้ำดี-น้ำเสีย น้ำท่วม และปัญหาภัยแล้ง ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่กระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งปัญหาเรื่องน้ำนั้นคิดว่าจะต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบ ซึ่งจากการสำรวจปริมาณน้ำในเขื่อนบางวาดพบว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนมีเพียงพอ แต่น้ำที่นำมาผลิตน้ำประปาพบว่ามีปัญหา ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่จะต้องมีการหารือร่วมกันในการแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรม” นายไพบูลย์ กล่าวในที่สุด
สำหรับผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีผู้สมัครจำนวน 2 คน คือ นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ผู้สมัครหมายเลข 1 และนายชยต วิสารทพงศ์ ผู้สมัครหมายเลข 2 ปรากฏว่า การเลือกตั้งตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ (7 เม.ย.) จนถึงเวลาปิดหีบเลือกตั้ง ปรากฏว่า บรรยากาศการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งของประชาชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นไปด้วยความเงียบเหงา มีประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งบางตา ส่งผลให้บรรยากาศการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว
โดยผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ปรากฎว่า นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ผู้สมัครหมายเลข 1 ได้คะแนน 41,541 คะแนน และนายชยต วิสารทพงศ์ ผู้สมัครหมายเลข 2 ได้คะแนน 11,952 คะแนน สำหรับการเลือกตั้งในครั้งนี้ มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 23,7096 คน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวน 68,273 คน คิดเป็น 28.80% ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งแต่ละไม่คะแนน 1,1907 คน คิดเป็น 17.44% ของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง บัตรเสีย 2,783 บัตร คิดเป็น 4.21% ของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง
โดยนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ ว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบปะกับประชาชนในพื้นที่ พบว่า จังหวัดภูเก็ตยังมีปัญหาอีกมากมายที่รอการแก้ไข ซึ่งการทำงานจะเน้นการประสานความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาทางด้านต่างๆ ที่ประชาชนนำเสนอมา ทั้งปัญหาเรื่องของการจราจเรื่องของความไม่สะดวกในการสัญจรไปมา ปัญหาเรื่องน้ำดีน้ำเสีย ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่เร่งด่วนที่จะต้องประสานความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน
“และสิ่งสำคัญที่จะต้องทำเร่งด่วนในส่วนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต คือ เรื่องของการเดินหน้าโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต ซึ่งจะต้องหาทีมงานมาบริหารงานโรงพยาบาล อบจ.ต่อ เพราะสัญญาเดิมจะหมดในเดือนพ.ค.นี้ ซึ่งการหาทีมงานบริหารงานนั้นจะเซ็นสัญญา 5 ปี นอกจากนั้น ยังมีเรื่องของการเตรียมเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาเยาวชนที่จะมีการแข่งขันในเร็วๆ นี้ รวมถึงการแก้ไขปัญหาน้ำดี-น้ำเสีย น้ำท่วม และปัญหาภัยแล้ง ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่กระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งปัญหาเรื่องน้ำนั้นคิดว่าจะต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบ ซึ่งจากการสำรวจปริมาณน้ำในเขื่อนบางวาดพบว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนมีเพียงพอ แต่น้ำที่นำมาผลิตน้ำประปาพบว่ามีปัญหา ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่จะต้องมีการหารือร่วมกันในการแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรม” นายไพบูลย์ กล่าวในที่สุด
