“ไทเกอร์ กรุ๊ป” ฉะ “ชูวิทย์” ช่วยล้างขี้บ่อนพนันออกด้วย ท้าแน่จริงให้ลงมาตรวจสอบ

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “ไทเกอร์ กรุ๊ป” แถลงตอบโต้ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ที่ออกมาระบุมีบ่อนการพนันที่ไทเกอร์ผับ เหมือนเป็นการบ้วนขี้ผสมน้ำเยี่ยวใส่ ทำอับอายขายหน้าคนไปทั่ว ท้าให้ยกกรรมาธิการฯ มาตรวจสอบ จะได้รู้กันไปเลยว่าใครพูดจริงพูดเท็จ ด้านรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ยันบ่อนพนันต้องสูญพันธุ์จากเกาะภูเก็ต

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (30 มี.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.พิสัณห์ จุลดิลก รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.อารยะพันธุ์ พุกบัวขาว ผู้กำกับการสถานีตำรวจกะทู้ พ.ต.อ.วิฑูรย์ กองสุดใจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจถลาง และพ.ต.อ.ศิริศักดิ์ วาสะศิริ ผู้กำกับการสถานีตำรวจฉลอง นายปิยะ อิสระมาลัย ประธานกรรมการ บริษัท ในเครือไทเกอร์ กรุ๊ป และนายธำรงศักดิ์ บุญรักษ์ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย บริษัทในเครือไทเกอร์ กรุ๊ป แถลงข่าวตอบโต้กรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาระบุว่า มีการเปิดบ่อนที่ชั้นสองของไทเกอร์ผับ ที่หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต และมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่าวันละ 100 ล้านบาท

พล.ต.ต.พิสัณห์ จุลดิลก รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวว่า การมาแถลงข่าวในวันนี้ สืบเนื่องจาก นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ออกมาระบุว่ามีการเปิดบ่อนที่ร้านไทเกอร์ ผับ หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ซึ่งไม่เป็นความจริงตามที่นายชูวิทย์ออกมาระบุ และภายหลังจากที่ตนได้สั่งการให้มีการกวดขันจับกุมบ่อนการพนันในจังหวัดภูเก็ต ทำให้กลุ่มนายบ่อนในภูเก็ตไม่พอใจ ทำหนังสือร้องเรียนไปยังนายกรัฐมนตรีว่า ตนเป็นบุคคลที่ทำให้ไม่เกิดความปรองดองในหมู่ตำรวจภูธรภาค 8 ต้องย้ายตนออกจากพื้นที่ ซึ่งเรื่องนี้ได้มีผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งในตำบลเทพกระษัตรีได้ไปให้การกับทางผู้กำกับการสถานีตำรวจถลางว่า ที่ได้ร่วมลงชื่อไปนั้นไม่ทราบจริงๆ ว่าเป็นการไม่พอใจที่มีการปราบปรามบ่อนการพนันอย่างเข้มงวดในภูเก็ต

“ตราบใดที่ผมยังอยู่ในพื้นที่ภาค 8 บ่อนการพนันจะต้องสูญพันธุ์ไปจากเกาะภูเก็ตอย่างแน่นอน ซึ่งได้มีการสั่งการไปยังหัวหน้าสถานีตำรวจทุกแห่งในภูเก็ตกวดขันไม่ให้มีบ่อนการพนันในพื้นที่ หากทราบว่าหัวหน้าสถานีใดปล่อยให้มีบ่อนการพนัน หรือเข้าไปรู้เห็นเป็นใจ จะต้องได้รับการลงโทษ ซึ่งที่ผ่านมามีการดำเนินการไปแล้ว”

ด้านนายปิยะ อิสระมาลัย ประธานกรรมการ บริษัทในเครือไทเกอร์ กรุ๊ป กล่าวว่า การที่นายชูวิทย์ออกมาพูดว่า มีการเปิดบ่อนที่ไทเกอร์ผับ มีเงินหมุนเวียนวันละ 100 ล้านบาทนั้น ได้สร้างความเสียหายให้แก่ทางบริษัทอย่างมาก ที่ออกมาพูดเรื่องไม่จริง ไทเกอร์กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจด้านโรงแรม ร้านอาหาร สถานบันเทิง สนามมวย มาเป็นเวลากว่า 10 ปี โดยไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับบ่อนการพนัน การกล่าวอ้างอย่างไร้เหตุผลของนายชูวิทย์ ทำให้บริษัทได้รับความเดือดร้อน เมื่อนายชูวิทย์ออกมาพูด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ไปตรวจสอบพื้นที่แล้ว และเห็นว่าเราทำธุรกิจอะไร เราทำแต่ธุรกิจท่องเที่ยว ไม่มีพฤติกรรมเปิดบ่อนการพนัน

“การออกมาพูดของนายชูวิทย์สร้างความบอบช้ำ และอับอายขายหน้าผู้คน ขอร้องนายชูวิทย์อย่าทำร้ายเราอีกเลย และหยุดทำร้ายผม อย่าเอาผมมาเป็นประเด็นการเมือง ตอนนี้ผมไปไหนมีแต่คนถามว่ามีบ่อนด้วยหรือ ผมโดนใส่ร้ายโดยขาดความรับผิดชอบจากนายชูวิทย์” นายปิยะ กล่าวและว่า

การที่นายชูวิทย์ออกมาพูดเช่นนี้ มีผลต่อการทำธุรกิจของตน ซึ่งไม่แน่ว่าหลังจากนี้ทางสถาบันการเงินที่ให้การสนับสนุนสินเชื่อแก่ทางไทเกอร์ กรุ๊ป จะยังเชื่อมั่นในการทำธุรกิจของเราหรือไม่ โครงการบ้านจัดสรรที่กำลังจะเปิดเร็วๆ นี้ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีจะได้รับผลกระทบหรือไม่อย่างไร ใครจะรับผิดชอบ ซึ่งเราจะตอบโต้นายชูวิทย์ด้วยกระบวนการกฎหมาย

ขณะที่นายธำรงศักดิ์ บุญรักษ์ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย บริษัทในเครือไทเกอร์ กรุ๊ป กล่าวว่า การออกมาพูดว่ามีบ่อนที่ไทเกอร์ผับ เหมือนเป็นการเอาขี้ผสมน้ำเยี่ยวอมไว้ในปากแล้วมาบ้วนใส่เรา จำเป็นที่เราต้องล้างขี้ล้างเยี่ยวออก ตัวคุณชูวิทย์เองอาศัยโตมาจากน้ำกามจนได้เป็นใหญ่เป็นโต ทีวีบางช่องที่นำภาพ และเสียงของนายชูวิทย์ไปออก ก็ขอให้นำภาพที่ผมแถลงในวันนี้ไปออกด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้นายชูวิทย์พูดอยู่ฝ่ายเดียว หากนายชูวิทย์เป็นลูกชายพอ ก็ขอให้มาล้างขี้ที่คุณบ้วนใส่เราออกด้วย หากนายชูวิทย์ไม่มาล้างสิ่งที่ทำไว้กับเรา เราก็จะใช้วิธีการทางศาลฟ้องร้องทั้งคดีอาญา และคดีแพ่ง และหากไม่มาเจอกันผ่านทางรายการทีวีก็ไปเจอกันที่ศาล เพราะเราเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เราทำอยู่นั้นเดินมาในสิ่งที่ดีที่งามมาโดยตลอด

“ผมขอท้าให้นายชูวิทย์มาตรวจสอบที่ไทเกอร์ผับได้ทุกเวลา และที่คุณชูวิทย์ขู่ว่าจะนำกรรมาธิการลงมาตรวจสอบนั้น ผมขอท้าให้ลงมาได้เลย หรือจะยกมาทั้งสภาฯ ก็ได้ แน่จริงมาตรวจสอบเลย จะได้รู้กันไปเลยว่าระหว่างผมกับนายชูวิทย์ใครจะสกปรกมากกว่ากัน”

พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตั้งแต่ตนมารับตำแหน่งที่จังหวัดภูเก็ต ได้กวดขันนโนบายปราบปรามอบายมุข และบ่อนการพนันมาโดยตลอด ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้วจนถึงขณะนี้ สามารถจับกุมบ่อนการพนันได้ 252 คดี ผู้ต้องหา 798 คน และมีการย้ายหัวหน้าสถานีที่บกพร่องปล่อยให้บ่อนการพนันเกิดขึ้นในพื้นที่ไปแล้ว