หลังจาก ที่สภ.เบตง “โมดิฟาย” โรงพักขึ้นมาใหม่ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน ด้วยการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ดูมีชีวิตชีวา และความสดชื่น ปรับระบบบริหารจัดการภายในใหม่เอี่ยมอ่อง รวมถึงการปรับทัศนคติการทำงานของตำรวจทั้งโรงพัก ด้วยนโยบายหลักของ พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผกก.สภ.เบตง จ.ยะลา คือ สร้างความเข้มแข็งของหน่วย สร้างความเสมอภาค เป็นธรรม การสร้างงานมวลชน รวมทั้งมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้เป็นที่ “เชื่อมั่น ศรัทธา ยอมรับ” ในการรักษาความสงบเรียบร้อย การอำนวยความยุติธรรม และการบริการสังคมที่ดีแก่ประชาชนที่รักของพวกเขา
ส่งผลให้ สภ.เบตง ที่ไม่เคยมีใครรู้จัก ขยับขึ้นมาเป็นแชมป์ 4 สมัย กับรางวัลสถานีตำรวจเพื่อประชาชนดีเด่นระดับ ผกก.กลุ่มที่ 1 ของศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ติดต่อกันเป็นปีที่ 4
คุณูปการทั้งปวงของการบุกเบิกปรับโฉมโรงพักเบตงแห่งนี้ เกิดจากความไว้วางใจของ พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ มอบหมายให้ พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้กำกับหนุ่มใจบุญใจกุศล และมีความมุ่งมั่น มาเป็นผู้ขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ให้โรงพักธรรมดาๆ กลายเป็นเสมือน “นิติบุคคล” มีรูปแบบบริหารจัดการแบบใหม่ เพื่อหวังจะยืนได้ด้วยตัวเอง โดยอาศัยความร่วมมือจากเครือข่ายพันธมิตรในรูปแบบการทำงานแบบ “CSR” หรือ “บรรษัทบริบาล”หมายถึง การดำเนินกิจกรรมภายในและภายนอกองค์กร ที่คำนึงถึงการอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุขของสังคมเป็นหลัก
ภายใต้ทฤษฎี “สภ.เบตงโมเดล” ด้วยความร่วมมือจากภาคประชาชน องค์กรภาครัฐ และองค์กรภาคเอกชน ร่วมกันบริหารแบบมีส่วนร่วม และมีความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) โดยทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน ให้ “สภ.เบตง”เป็นผู้บริหารกิจการที่ดี ขับเคลื่อนการดำเนินตามโครงการด้านต่างๆ เช่น ด้านการบริการทั่วไป ด้านการอำนวยความยุติธรรมทางอาญา ด้านการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ด้านการควบคุม และการจัดการจราจร และด้านการบริหาร และพัฒนาบุคคล
ด้วยหลักการบริการดุจญาติ พิทักษ์ราษฎร์ดุจครอบครัว มีกิริยาวาจาสุภาพ ยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมมีใจช่วยเหลือ ไม่อยู่เหนือกฎหมาย ขยายบริการ ทำงานว่องไว ใส่ใจประชาชน และมีสัญญากับประชาชนว่า จะปฏิบัติตามโครงการพัฒนาสถานีตำรวจเพื่อประชาชน ทั้งนี้ โครงการต่างๆ ที่ สภ.เบตงได้ดำเนินการไป แล้ว เช่น โครงการละศีลอด, โครงการตำรวจเบตงร่วมใจ พัฒนาเมืองเบตงให้น่าอยู่, โครงการแข่งขันฟุตบอลภายใน, โครงการสานสัมพันธ์ตำรวจไทย-มาเลเซีย, โครงการฝึกยุทธวิธีตำรวจ, โครงการศูนย์บริการประชาชน (One Stop Service) แถม WiFi ให้ใช้ฟรี, การอบรมกำลังภาคประชาชน เพื่อสร้างเครือข่ายพลังการมีส่วนร่วมของประชาชน
รวมถึงโครงการตำรวจ 5 นาทีสัญจร เพื่อป้องกันยาเสพติด และอาชญากรรมให้แก่เด็กนักเรียนตามสถานศึกษาต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้เรียน รู้ถึงพิษภัย และโทษของยาเสพติด ซึ่งเด็กๆ เมื่อมีการเรียนรู้สามารถไปปรับใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันได้ รวมถึงสามารถเป็นอาสาสมัครตำรวจ เป็นแหล่งข่าวให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และยังรวมไปถึงสายด่วนฮอตไลน์ สภ.เบตง ที่รวดเร็วฉับไวกว่าโทรศัพท์แจ้ง 191 ซึ่งทำให้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นไปอย่างรวดเร็วในการให้ความช่วยเหลือ ตลอดจนโครงการลงโทษอย่างสันติวิธี ในกรณีที่ตำรวจผิดวินัยเล็กๆ น้อยๆ โดยไม่ต้องถูก “กักยาม” หรือ “กักขัง” ทั้งนี้ โครงการต่างๆ เหล่านี้ได้รับทุนสนับสนุนจากภาคีร่วม “CSR” ได้แก่ เทศบาลเมืองเบตง ภ.จว.ยะลา และภาคประชาชนในพื้นที่นั่นเอง
“สภ.เบตง มีการปรับปรุงพัฒนาทุกด้าน เพื่อหวังให้ประชาชนพ้นทุกข์ แต่ปัญหาการทำงานส่วนใหญ่ คือทุกคนจะมองถึงบุคลากร งบประมาณ แต่แนวคิดของผมขอบริหารแบบ CSR ด้วยการใช้ทักษะความคิดรวบยอด และได้รับความช่วยเหลือจากพาร์ตเนอร์ ในการขับเคลื่อนให้องค์กรเดินหน้า เพื่อบริหารจัดการความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน เพื่อภารกิจบำบัดทุกข์บำรุงสุขในรูปแบบใหม่ เป้าหมายสูงสุดของการบริหารงานตาม สภ.เบตงโมเดล เราจะสามารถยืนได้ด้วยลำแข้งตัวเอง เป้าหมายสูงสุด คือ เพิ่มสวัสดิการให้ตำรวจ เพิ่มกองกำลังประชาชน พร้อมทั้งใช้เทคโนโลยีเชื่อมโยงการทำงานที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ รายงานผลการปฏิบัติงานไปถึงมือพาร์ตเนอร์ของเรา” พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย