ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ปอศ.ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพย์สินทางปัญญาลุยป่าตองพื้นที่สีแดงจับสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาร่วม 2 พันชิ้น มูลค่าท้องตลาดประมาณ 2 ล้านบาท เผยวันนี้ (29 มี.ค.) ทำลายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญามูลค่ากว่า 182 ล.บาท
ที่สถานีตำรวจภูธรกะทู้ จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.ปรัชญา ประสานสุข ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา และเจ้าของลิขสิทธิ์ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ในพื้นที่ป่าตอง อ.กะทู้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบเมื่อวานนี้ (28 มี.ค.) โดยตรวจยึดสินค้าเป็นเสื้อยืดปลอมยี่ห้อ Billabong จำนวน 1,120 ตัว กระเป๋าสตางค์ปลอมยี่ห้อ Billabong จำนวน 640 ใบ และหมวกปลอมยี่ห้อ NEW ERA จำนวน 245 ใบ มีมูลค่าการซื้อขายในท้องตลาด ประมาณ 2 ล้านบาท พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 1 คน คือ นายรวิโรจน์ ชัยธวัชวิบูลย์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199 ม.3 ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ซึ่งตรวจยึดสินค้าทั้งหมดได้ที่อาคารเลขที่ 207/33 ถ.ราษฎร์อุทิศ 200 ปี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นำตัวส่งเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรกะทู้ดำเนินคดีต่อไป
พ.ต.อ.ปรัชญากล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลได้มีนโยบายในเรื่องของกวาดล้างจับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาให้หมดไป โดยเฉพาะในพื้นที่สีแดง สีเหลือง จึงได้เดินทางลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงเกือบทั้งจังหวัด เนื่องจากมีการลักลอบจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาจำนวนมาก โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่างเช่น พื้นที่ป่าตอง อ.กะทู้ และ พื้นที่กะรน อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังเข้าตรวจสอบอย่างเข้มงวดเพื่อปราบปรามการลักลอบจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ โดยจะเริ่มดำเนินมาตรการปราบปรามอย่างเข้มงวดตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไปจนถึงเดือน พ.ค. 2555 หลังจากนั้นจะมีการต่อยอดปราบปรามต่อไป
พ.ต.อ.ปรัญญากล่าวต่อไปว่า สำหรับการลักลอบจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์นั้นยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีทั้งที่วางขายแบบเปิดเผยด้วยการวางสินค้าหน้าร้าน และการขายแบบไม่เปิดเผยโดยวางสินค้าเพียงแค่ 1-2 ชิ้น เมื่อนักท่องเที่ยวสนใจก็จะไปหยิบสินค้ามาให้ อย่างไรก็ตามตนขอฝากให้ผู้ประกอบการขอให้หยุดขายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพราะว่าจะมีการระดมกวาดล้างจับกุมอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม สำหรับสินค้าที่จับกุมได้ในครั้งนี้จะนำไปรวมกับสินค้าที่หน่วยงานต่างๆตรวจยึดได้ และเป็นสินค้าที่มีการนำเนินคดีสิ้นสุดแล้วในพื้นที่ ภาค 8 ทั้งหมด เพื่อทำลายที่โรงเตาเผาขยะเทศบาลนครภูเก็ตในวันนี้ (29 มี.ค.) จำนวนกว่า 80,000 ชิ้น มูลค่าประมาณ 182 ล้านบาท
ที่สถานีตำรวจภูธรกะทู้ จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.ปรัชญา ประสานสุข ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา และเจ้าของลิขสิทธิ์ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ในพื้นที่ป่าตอง อ.กะทู้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบเมื่อวานนี้ (28 มี.ค.) โดยตรวจยึดสินค้าเป็นเสื้อยืดปลอมยี่ห้อ Billabong จำนวน 1,120 ตัว กระเป๋าสตางค์ปลอมยี่ห้อ Billabong จำนวน 640 ใบ และหมวกปลอมยี่ห้อ NEW ERA จำนวน 245 ใบ มีมูลค่าการซื้อขายในท้องตลาด ประมาณ 2 ล้านบาท พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 1 คน คือ นายรวิโรจน์ ชัยธวัชวิบูลย์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199 ม.3 ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ซึ่งตรวจยึดสินค้าทั้งหมดได้ที่อาคารเลขที่ 207/33 ถ.ราษฎร์อุทิศ 200 ปี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นำตัวส่งเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรกะทู้ดำเนินคดีต่อไป
พ.ต.อ.ปรัชญากล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลได้มีนโยบายในเรื่องของกวาดล้างจับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาให้หมดไป โดยเฉพาะในพื้นที่สีแดง สีเหลือง จึงได้เดินทางลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงเกือบทั้งจังหวัด เนื่องจากมีการลักลอบจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาจำนวนมาก โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่างเช่น พื้นที่ป่าตอง อ.กะทู้ และ พื้นที่กะรน อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังเข้าตรวจสอบอย่างเข้มงวดเพื่อปราบปรามการลักลอบจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ โดยจะเริ่มดำเนินมาตรการปราบปรามอย่างเข้มงวดตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไปจนถึงเดือน พ.ค. 2555 หลังจากนั้นจะมีการต่อยอดปราบปรามต่อไป
พ.ต.อ.ปรัญญากล่าวต่อไปว่า สำหรับการลักลอบจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์นั้นยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีทั้งที่วางขายแบบเปิดเผยด้วยการวางสินค้าหน้าร้าน และการขายแบบไม่เปิดเผยโดยวางสินค้าเพียงแค่ 1-2 ชิ้น เมื่อนักท่องเที่ยวสนใจก็จะไปหยิบสินค้ามาให้ อย่างไรก็ตามตนขอฝากให้ผู้ประกอบการขอให้หยุดขายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพราะว่าจะมีการระดมกวาดล้างจับกุมอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม สำหรับสินค้าที่จับกุมได้ในครั้งนี้จะนำไปรวมกับสินค้าที่หน่วยงานต่างๆตรวจยึดได้ และเป็นสินค้าที่มีการนำเนินคดีสิ้นสุดแล้วในพื้นที่ ภาค 8 ทั้งหมด เพื่อทำลายที่โรงเตาเผาขยะเทศบาลนครภูเก็ตในวันนี้ (29 มี.ค.) จำนวนกว่า 80,000 ชิ้น มูลค่าประมาณ 182 ล้านบาท