ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “เอส.ยู.ซูซูกิ ภูเก็ต” เปิดตัวรถอีโก้คาร์ ตั้งเป้าสิ้นเดือน มี.ค.นี้ยอดจอง “All New SUZUKI Swift” ไม่ต่ำกว่า 200 คัน เผยมียอดจองแล้วกว่า 100 คัน หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมทุ่มงบกว่า 30 ล้านปรับปรุงโชว์รูมใหม่ มั่นใจรองรับรถที่เข้าใช้บริการเพียงพอ
ที่โชว์รูมและศูนย์บริการ บริษัท เอส.ยู.ซูซูกิ ภูเก็ต จำกัด ตัวแทนจำหน่วยรถยนต์ ซูซูกิ ใน จ.ภูเก็ต ได้จัดให้มีการเปิดตัวรถยนต์ All New SUZUKI Swift ขึ้น โดยนายกวี ตันสุคตานนท์ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เป็นประธานเปิด ซึ่งภายในงานได้รับความสนใจจากประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ตเข้ามาชมรถและสั่งจองจำนวนมาก
นอกจากนั้นยังจัดให้มีกิจกรรมเพ้นท์ถุงผ้ารณรงค์ลดโลกร้อน เพื่อนำถุงผ้าดังกล่าวมอบให้กับทางเทศบาลนครภูเก็ต เพื่อร่วมสนับสนุนโครงการภูเก็ตปลอดถุงพลาสติก โดยมีนางพรรณทิพา อุปัติศฤงค์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอส.ยู.ซูซูกิ ภูเก็ต จำกัด และผู้บริหารร่วมให้การต้อนรับ
นางพรรณทิพา อุปัติศฤงค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส.ยู.ซูซูกิ จำกัด กล่าวว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มลูกค้าที่สนใจได้รับทราบข้อมูล และรู้จักกับรถยนต์ SUZUKI Swift ใหม่มากขึ้น หลังจากที่มีการเปิดตัวไปแล้วอย่างเป็นทางการที่ส่วนกลาง
โดยจุดเด่นของ SUZUKI Swift ใหม่ จะมีรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวมากขึ้น มีช่วงล่างแข็งแกร่ง มีการพัฒนาระบบเกียร์จากเดิมเป็น CVT ขนาดเครื่องยนต์ 1,242 ซีซี 91 แรงงม้า 4 กระบอกสูบ และยังมีคุณสมบัติตามมาตรฐาน Eco car ไม่ว่าจะเป็นการประหยัดพลังงาน สิ่งแวดล้อม มาตรฐานมลพิษปลอดภัยระดับยูโร 4 และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
สำหรับรถดังกล่าวมีให้เลือก 3 รุ่น คือ GLX ราคาเริ่มต้นที่ 559,000 บาท GL ราคาเริ่มต้นที่ 507,000 บาท และ GA ราคาเริ่มต้นที่ 469,000 บาท ซึ่งทั้ง 3 รุ่น สามารถนำไปหักภาษีตามโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาลได้ด้วย
สำหรับการเปิดตัวรถรุ่นล่าสุดปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี โดยขณะนี้ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตมียอดจองแล้วกว่า 100 คัน คาดว่าเมื่อถึงสิ้นเดือนมีนาคมนี้ จะมียอดจองไม่ต่ำกว่า 200 คัน และเพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ในระยะแรกทางบริษัทมีโปรโมชันพิเศษ คือ แถมประกันชั้น 1 (50%) ฟรีค่า พ.ร.บ.ฟรีค่าขนส่ง ติดฟิล์มกรองแสง และอื่นๆ อีกมากมาย โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นหนุ่มสาววัยทำงาน และผู้ที่ต้องการมีรถคันที่ 2 หรือ 3
นางพรรณทิพากล่าวถึงการแข่งขันว่า สำหรับตลาดรถขนาดเล็ก หรือ Eco car จะมีการแข่งขันค่อนข้างสูง ดังนั้นเพื่อรองรับการเติบโตและการแข่งขันของตลาดรถยนต์ดังกล่าว จึงได้มีการใช้งบประมาณกว่า 30 ล้านบาท ในการปรับปรุงโชว์รูมและศูนย์บริการ เพื่อให้มีความทันสมัยและเป็นไปตามนโยบายของบริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งโชว์รูมและศูนย์บริการสามารถรองรับรถได้อย่างเพียงพอต่อความต้องการของผู้ที่เข้ามาใช้บริการแน่นอน