พัทลุง - สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดพัทลุง จัดโครงการสร้างเครือข่ายการคุ้มครองแรงงานนอกระบบ ทำหน้าที่สอดส่องดูแล การแจ้งเบาะแสการใช้แรงงานที่ไม่เป็นธรรม พร้อมทั้งให้คำปรึกษา และดูแลสิทธิประโยชน์ของลูกจ้างในจังหวัดพัทลุง
วันนี้ (22 มี.ค.) นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนา โครงการสร้างเครือข่ายการคุ้มครองแรงงานนอกระบบ ที่โรงแรมอิรวดี ต.ลำปำ อ.เมือง จ.พัทลุง สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดพัทลุง โดยมีสมาชิกเครือข่ายที่เข้าร่วมโครงการครั้งนี้ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ครู กศน. เจ้าหน้าที่จากองค์กรปกครองท้องถิ่น ผู้นำชุมชน เป็นต้น
โดยโครงการนี้จัดขึ้นเพื่อทำหน้าที่สอดส่องดูแล การแจ้งเบาะแสการใช้แรงงานอย่างไม่เป็นธรรม ตลอดทั้งการให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับกฎหมายแรงงานแก่นายจ้าง ลูกจ้าง และ ผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือดูแลลูกจ้างให้ได้รับสิทธิประโยชน์ ได้รับสวัสดิการตามกฎหมาย มีความปลอดภัยในการทำงานและช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างเครือข่ายให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างสะดวก รวดเร็ว
นางจีรภา เดชมหามงคล สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า สถานการณ์ด้านแรงงานในปัจจุบัน มีสถานประกอบกิจการเปิดดำเนินการกันอย่างกว้างขวาง ทุกประเภทกิจการ ทำให้จำนวนของสถานประกอบกิจการเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้องในการกำกับ ควบคุมดูแลการใช้แรงงานไม่ได้เพิ่มขึ้น ทำให้การทำหน้าที่ไม่สามารถดูแลได้อย่างครอบคลุมทั่วถึง โดยเฉพาะแรงงงานนอกระบบที่ไม่ได้ทำงานอยู่ในสถานประกอบกิจการ แต่เป็นผู้ที่รับงานไปทำที่บ้าน และแรงงานในภาคเกษตรกรรม ซึ่งส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ตามชุมชน หมู่บ้านในชนบท จึงเป็นการยากที่จะให้การคุ้มครองดูแลได้
ทั้งนี้ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจึงได้มีนโยบายการขยายการคุ้มครองแรงงาน โดยการจัดตั้งเครือข่าย จัดอบรมให้แก่เครือข่ายจากหลายภาคส่วนของสังคม เช่น เครือข่ายจากภาครัฐ เครือข่ายท้องถิ่น เป็นต้น
ด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ปัญหาด้านแรงงานในปัจจุบันถือเป็นปัญหาสำคัญ เพราะเป็นภาพลักษณ์ของประเทศ เช่น ปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน การหลอกลวงแรงงานไปทำงานต่างประเทศ การไม่ปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน การทำงานที่ไม่ได้รับค่าจ้าง เลิกจ้างไม่เป็นธรรม การบังคับใช้แรงงานเด็ก แรงงานหญิง เป็นต้น ปัญหาดังกล่าวต้องให้สังคมช่วยกัน เนื่องจากบุคลากรของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด คงไม่มีกำลังพอจะควบคุมดูแลได้ทั่วถึง การสร้างเครือข่ายจึงเป็นทางออกที่ดีต่อไป