กระบี่ - ปศุสัตว์กระบี่แฉช้างตายกลางป่า ถูกใช้งานอย่างหนัก ป่วย ขาดน้ำ อากาศร้อน ช็อกตายขณะที่กำลังทำงาน พบก่อนตายมีสภาพป่วยหนัก เป็นฝีที่บริเวณคอ ส่วนกรณีซากช้างถูกจามหัวเพื่อเอางาถ้าช้างไม่มีตั๋วรูปพรรณสามารถดำเนินการตามกฎหมายได้
นายวิบูลย์ เลิศวัฒนาสมบัติ ปศุสัตว์จังหวัดกระบี่ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเข้าไปตรวจสอบวซากช้างพลายอายุกว่า 30 ปี ซึ่งตายบริเวณภูเขา กลางสวนยางพารา ท้องที่หมู่ที่ 5 ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ และถูกควาญช้างใช้ขวานจามหัวเพื่อเอางา ทิ้งซากช้างไว้โดยไม่มีการฝังกลบ ซึ่งชาวบ้านขึ้นไปพบเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ พบว่าสาเหตุที่ช้างเชือกดังกล่าวตายกลางป่า เนื่องจากถูกใช้งานหนัก ประกอบกับช้างขาดน้ำ และมีสภาพป่วยอย่างหนักโดยเป็นฝีที่บริเวณลำคอ เมื่อถูกใช้งานหนัก และขาดน้ำ เป็นเหตุให้ช้างเกิดการช็อคตายอย่างกะทันหัน ทั้งๆ ที่กำลังทำงานอยู่ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ทราบตัวเจ้าของช้างแล้ว
“ส่วนกรณีที่ชาวบ้านเกรงว่าซากช้างจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ ทั้งเรื่องกลิ่น และจะมีเชื้อโรคปะปนมากับน้ำตามลำห้วย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นต้นน้ำของ ต.เขาคราม แล ต.คลองหิน ก็ทราบว่าทางเจ้าของช้างได้มีการประสานรถแบ็กโฮ เข้าไปขุดหลุมฝังกลบแล้ว แต่ยังไม่สามารถนำรถเข้าไปในพื้นที่ได้ เนื่องจากเป็นทางลาดชัน ซึ่งเรื่องนี้ก็จะให้เจ้าของช้างจัดการไม่ให้เกิดผลกระทบอย่างแน่นอน”
ปศุสัตว์จังหวัดกระบี่ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนกรณีที่หลังจากช้างตายแล้วพบว่ามีการจามหัวช้างเพื่อเอางาและอวัยวะออกไปนั้น ในข้อกฎหมายถ้าช้างมีตั๋วรูปพรรณก็ไม่สามารถเอาผิดกับเจ้าของช้างได้ ถึงแม้ว่าสภาพที่เห็นอยู่น่าเวทนาก็ตาม แต่ก็จะต้องมีการตรวจสอบว่าช้างเชือกดังกล่าวมีตั๋วรูปพรรณถูกต้องหรือไม่ ถ้าเป็นช้างที่ไม่มีตั๋วรูปพรรณก็จะมีความผิด ซึ่งในเบื้องต้นก็ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จอีกครั้งในวันนี้ 16 มี.ค.55
นายก้าหรีม หลักแหล่ง กำนันตำบลเขาคราม กล่าวว่า หลังจากที่ช้างตายซากก็ถูกจามหัวตัดเอาอวัยวะช้างออกไป แล้วปล่อยทิ้งซากช้างไว้ ซึ่งขณะนี้เริ่มส่งกลิ่นเน่าเหม็นแล้ว ชาวบ้านเกรงว่าจะเกิดโรคระบาดได้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเข้ามาดูแลโดยเร่งด่วนด้วย
นายวิบูลย์ เลิศวัฒนาสมบัติ ปศุสัตว์จังหวัดกระบี่ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเข้าไปตรวจสอบวซากช้างพลายอายุกว่า 30 ปี ซึ่งตายบริเวณภูเขา กลางสวนยางพารา ท้องที่หมู่ที่ 5 ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ และถูกควาญช้างใช้ขวานจามหัวเพื่อเอางา ทิ้งซากช้างไว้โดยไม่มีการฝังกลบ ซึ่งชาวบ้านขึ้นไปพบเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ พบว่าสาเหตุที่ช้างเชือกดังกล่าวตายกลางป่า เนื่องจากถูกใช้งานหนัก ประกอบกับช้างขาดน้ำ และมีสภาพป่วยอย่างหนักโดยเป็นฝีที่บริเวณลำคอ เมื่อถูกใช้งานหนัก และขาดน้ำ เป็นเหตุให้ช้างเกิดการช็อคตายอย่างกะทันหัน ทั้งๆ ที่กำลังทำงานอยู่ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ทราบตัวเจ้าของช้างแล้ว
“ส่วนกรณีที่ชาวบ้านเกรงว่าซากช้างจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ ทั้งเรื่องกลิ่น และจะมีเชื้อโรคปะปนมากับน้ำตามลำห้วย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นต้นน้ำของ ต.เขาคราม แล ต.คลองหิน ก็ทราบว่าทางเจ้าของช้างได้มีการประสานรถแบ็กโฮ เข้าไปขุดหลุมฝังกลบแล้ว แต่ยังไม่สามารถนำรถเข้าไปในพื้นที่ได้ เนื่องจากเป็นทางลาดชัน ซึ่งเรื่องนี้ก็จะให้เจ้าของช้างจัดการไม่ให้เกิดผลกระทบอย่างแน่นอน”
ปศุสัตว์จังหวัดกระบี่ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนกรณีที่หลังจากช้างตายแล้วพบว่ามีการจามหัวช้างเพื่อเอางาและอวัยวะออกไปนั้น ในข้อกฎหมายถ้าช้างมีตั๋วรูปพรรณก็ไม่สามารถเอาผิดกับเจ้าของช้างได้ ถึงแม้ว่าสภาพที่เห็นอยู่น่าเวทนาก็ตาม แต่ก็จะต้องมีการตรวจสอบว่าช้างเชือกดังกล่าวมีตั๋วรูปพรรณถูกต้องหรือไม่ ถ้าเป็นช้างที่ไม่มีตั๋วรูปพรรณก็จะมีความผิด ซึ่งในเบื้องต้นก็ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จอีกครั้งในวันนี้ 16 มี.ค.55
นายก้าหรีม หลักแหล่ง กำนันตำบลเขาคราม กล่าวว่า หลังจากที่ช้างตายซากก็ถูกจามหัวตัดเอาอวัยวะช้างออกไป แล้วปล่อยทิ้งซากช้างไว้ ซึ่งขณะนี้เริ่มส่งกลิ่นเน่าเหม็นแล้ว ชาวบ้านเกรงว่าจะเกิดโรคระบาดได้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเข้ามาดูแลโดยเร่งด่วนด้วย