รมต.คมนาคมเสนอแนวคิดยกสุวรรณภูมิเป็นฮับ ต้องเพิ่มความสะดวก-ปลอดภัยและขยายรันเวย์

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมอบแนวคิดการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้เป็นฮับในภูมิภาคนี้ ให้กับบอร์ดและผอ.การท่าฯทั้ง 6 แห่ง จะต้องเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารและความปลอดภัยเทียบเท่ามาตรฐานโลก รวมทั้งต้องซื้อที่ดินบริเวณรอบๆ เพิ่มอีก 30,000 ไร่ เพื่อขยายรันเวย์ที่ 3 และ 4 ให้ได้มาตรฐานโลก

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) โดยมีบอร์ดการท่าฯ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของการท่าฯทั้ง 6 แห่ง เข้าร่วม ณ.ห้องประชุมสำนักงานท่าอากาศยานภูเก็ต เวลา 16.00 น.วันนี้ (9 ก.พ.) ว่า

ในการประชุมบอร์ดการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ที่จังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ ได้มอบแนวคิดและนโยบายในเรื่องของการปรับปรุงมาตรฐานการให้บริการของการท่าฯในมิติต่างๆว่า ณ.วันนี้ท่าอากาศยานฯจะต้องกำหนดตำแหน่งที่ชัดเจนว่าในปัจจุบันอยู่สภาพใด และอนาคต แน่นอนที่สุดการท่าฯจะต้องไตร่ระดับไปสู่ท๊อปเท็นในเอเชีย และระดับโลก และจะต้องเป็นฮับในอาเซียได้อีกด้วย

“ในการที่จะเป็นฮับในอาเซียนนั้น จะต้องมีการปรับปรุงในหลายๆด้านด้วยกัน เริ่มตั้งแต่การเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสาร การขนส่งทั้งคนและอุปกรณ์ตั้งแต่ท่าอากาศยานสุวรรณภมิไปสู่กรุงเทพฯ ทั้งในเรื่องของแอร์พอร์ตลิงค์ รถแท็กซี่ รถลีมูซีน การเข้า-ออกของรถโดยสาร ห้องน้ำที่สะอาดสูงกว่ามาตรฐาน การดูแลต้อนรับชาวต่างประเทศที่เข้ามาผ่านทางท่าอากาศยานฯในเรื่องของตม.เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการเพิ่มมาตรฐานการให้บริการผู้โดยสารที่ผ่านท่าอากาศยานฯ

ท่าอากาศยานฯจะต้องมีความปลอดภัย ตั้งแต่การกลั่นกรองระบบการรักษาความปลอดภัย การก่อการร้าย การเสริมความปลอดภัยในรันเวย์ จะทำอย่างไรให้ท่าอากาศยานฯมีความปลอดภัยที่สุดที่ได้มาตรฐานระดับโลก โดยเฉพาะมีความเป็นห่วงในเรื่องของการให้เครื่องบินแอร์บัส 380 ที่มีขนาดใหญ่ สามารถบรรจุผู้โดยสารได้ 500 คน ซึ่งชานชลาที่มีอยู่ในปัจจุบันทั้งขาเข้า-ขาออก จะต้องใช้เวลาประมาณครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงในการระบายผู้โดยสารจำนวน 500 คนออกได้ทั้งหมด ถือว่าเป็นปัญหาและอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ เพราะขณะนี้ทางการบินไทยและสายการบินในหลายๆประเทศ จะนำเครื่องบินแอร์บัส 380 มาให้บริการในเร็วๆนี้

“บริษัท ท่าอากาศยานฯเป็นบริษัทมหาชน จำเป็นที่จะต้องดูแลภาพลักษณ์ของบริษัท ซึ่งสิ่งที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้คือ ปัญหาคนและปัญหามลภาวะจากทางเสียงของประชาชนในย่านราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ ที่ผ่านมาเคยมีมติของบอร์ดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จในเดือนพ.ย.2554 แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่สามารถยุติเรื่องได้ทั้งหมด”

นายจารุพงศ์ ยังกล่าวถึงการการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 ว่า จะต้องขยายรันเวย์ที่ 3 และที่ 4 ในอนาคต จะต้องคิดแล้วว่าจะต้องขยายพื้นที่ของท่าอากาศยานฯให้มากขึ้น เพราะพื้นที่ที่มีอยู่ประมาณ 20,000 ไร่ในขณะนี้ไม่สามารถที่จะขยายรันเวย์ที่ 3 และที่ 4 ได้ เพราะไม่มีพื้นที่กว้างพอ จึงจำเป็นที่จะต้องขยายพื้นที่ท่าอากาศฯเป็น 50,000 ไร่ในอนาคต แต่การขยายนั้นจะต้องให้ประชาชนที่อยู่บริเวณรอบๆสนามบินสุวรรณภูมิเป็นพันธมิตร จึงได้มอบนโยบายที่จะซื้อที่ดินในพื้นที่รอบๆ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปจนถึงทะเล เป็นของการท่าฯได้อย่างไร การซื้อที่ดินในบริเวณดังกล่าวไม่ได้เกิดความเสียหายกับการท่าฯแต่อย่างไร เพราะที่ดินที่ซื้อมานั้นถือเป็นสินทรัพย์ที่สามารถนำมาพัฒนาเพิ่มมูลค่าเพิ่มได้ ศูนย์แสดงสินค้าต่างๆ หรือเป็นสนามแข่งรถฟอร์มูล่าวันก็เป็นไปได้ เป็นต้น

นอกจากนี้ ทางท่าอากาศยานภูเก็ต ยังได้นำเสนอแผนพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ตให้สามารถรองรับผู้โดยสารจากปีละ 6.5 ล้านคนเป็น 12.5 ล้านคนอีกด้วย