ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวบ้านประท้วงปิดโรงแยกก๊าซจะนะ หลังเจรจาขอเงินเยียวยาปีละ 30,000 บาท ไม่เป็นผล รถบรรทุกก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวีกว่า 30 คัน ติดอยู่ภายในไม่สามรถขนส่งก๊าซไปยังจังหวัดต่างๆ ได้ ทั้งนี้ หากเหตุการณ์ยืดเยื้อ คาดว่า ก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวีในพื้นที่ภาคใต้จะขาดแคลนและเข้าสู่ช่วงวิกฤตอีกครั้งตั้งแต่ช่วงเย็นของวันนี้
วันนี้ (9 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายางานว่า ชาวบ้านในพื้นที่ ม.2 บ้านตลิ่งชัน และ ม.8 บ้านวังงู ต.ตลิ่งชัน อ.จะนะ จ.สงขลา จำนวนกว่า 100 คน ได้นัดชุมนุมและนำเต็นท์มากางปิดทางเข้าออกโรงแยกก๊าซธรรมชาติจะนะ ของบริษัท ทรานส์ ไทย-มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเรียกร้องให้โรงแยกก๊าซเข้ามาดูแลผลกระทบที่เกิดขึ้น ทั้งน้ำเสีย อากาศเป็นพิษ และเสียงดัง ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพและการประกอบอาชีพ รวมทั้งให้จ่ายเงินเยียวยาแก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบในทุกๆ ปี หลังจากที่ชาวบ้านเคยประท้วง และยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือไปแล้วจำนวนหลายครั้ง แต่ทางโรงแยกก๊าซก็ไม่ได้ปฏิบัติตามที่ได้ตกลงกันเอาไว้
นางย๊ะ วัดบุญช่วย อายุ 63 ปี ตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ ม.2 ซึ่งได้เข้าร่วมในการชุมนุมครั้งนี้ เปิดเผยว่า หลังจากที่โรงแยกก๊าซธรรมชาติจะนะได้เข้ามาก่อตั้งและดำเนินกิจการในพื้นที่มากว่า10 ปี ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของชาวบ้านในละแวกดังกล่าวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ที่ผ่านมา ซึ่งชาวบ้านเริ่มมีปัญหาสุขภาพจากการที่ต้องหายใจเอาควันพิษที่โรงแยกก๊าซปล่อยออกมาตลอดทั้งวันทั้งคืน เนื่องจากโรงแยกก๊าซต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนั้น น้ำในแม่น้ำลำคลองภายในหมู่บ้านก็ไม่สามารถใช้ในการอุปโภค บริโภค เกษตรกรรม หรือเลี้ยงสัตว์ได้ เนื่องจากปนเปื้อนสารเคมีจากโรงแยกก๊าซ ซึ่งมีหลายคนในหมู่บ้านรวมทั้งเด็กๆ ที่ล้มป่วยเป็นโรคผิวหนังและไข้หวัดเรื้อรังจนรักษาไม่หาย และอาการเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ
ต่อมาในเวลา 11.00 น.ทางตัวแทนชาวบ้านจำนวน 10 คน ได้เดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอจะนะ เพื่อเข้าพบกับ นายณรงค์พร ณ พัทลุง นายอำเภอจะนะ และ ตัวแทนของโรงแยกก๊าซธรรมชาติจะนะ เพื่อเจรจาหาข้อยุติเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โดยทางตัวแทนชาวบ้านได้เรียกร้องขอเงินเยียวยาครัวเรือนละ 30,000 บาท ในทุกๆ ปีที่ทางโรงแยกก๊าซดำเนินกิจการ รวมจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 150 ครัวเรือน เพื่อนำเงินที่ได้ไปเป็นค่ารักษาพยาบาลและเงินทุนในการประกอบอาชีพ เนื่องจากชาวบ้านไม่สามารถทำการเกษตรและหาปลา ซึ่งเป็นอาชีพหลักได้เหมือนแต่ก่อน
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่เป็นตัวแทนของโรงแยกก๊าซที่เข้าร่วมประชุมได้รับฟังปัญหาและข้อเรียกร้องของชาวบ้าน แต่ไม่สามารถตอบตกลงและยอมรับข้อเรียกร้องของชาวบ้านได้ เนื่องจากไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ โดยจะต้องรอให้ทางผู้บริหารระดับสูง หรือซีอีโอของทางโรงแยกก๊าซลงมาเจรจาด้วยตัวเองเท่านั้น ซึ่งจะต้องรออีกประมาณ 3 วัน เพราะขณะนี้ผู้บริหารชุดดังกล่าวติดประชุมร่วมอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย
นายอำเภอจะนะจึงได้เจรจาไกล่เกลี่ยให้ชาวบ้านยอมเปิดทางเข้าออกโรงแยกก๊าซ เพื่อให้ผู้ใช้รถยนต์โดยสาร รถส่วนตัว และรถประจำทาง รวมทั้งรถบรรทุกก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวีที่จะไปส่งตามปั๊มก๊าซต่างๆ ทั่วภาคใต้ สามารถผ่านเข้าออกได้ แล้วค่อยมาเจรจากันใหม่ในอีก 3 วันข้างหน้า แต่ชาวบ้านกลับไม่ยอม และยืนกรานว่าทางโรงแยกก๊าซจะต้องยอมรับเงื่อนไขและข้อตกลงของชาวบ้านเท่านั้น ถึงจะยอมเปิดทางให้ เนื่องจากชาวบ้านได้ทำการเรียกร้องไปแล้วหลายครั้ง แต่ทางโรงแยกก๊าซยังนิ่งเฉย
ภายหลังการประชุมล้มเหลว ทางตัวแทนชาวบ้านจึงได้แยกย้ายกันกลับไปยังจุดชุมนุม เพื่อประท้วงปิดทางเข้าอกโรงแยกก๊าซธรรมชาติจะนะยืดเยื้อต่อไป จนกว่าทางผู้บริหารระดับสูงหรือผู้มีอำนาจในการตัดสินใจจะเข้ามาทำการเจรจาหาข้อยุติกับชาวบ้าน
ขณะเดียวกัน นายอำเภอจะนะก็ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อดิเรก บือราเฮง ผกก.สภ.จะนะ จ.สงขลา จัดกำลังเจ้าหน้าที่คอยดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณจุดชุมนุมอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ภายในโรงแยกก๊าซธรรมชาติจะนะยังมีรถบรรทุก 18 ล้อ ของบริษัทเอกชนจำนวน 20 คัน ที่เข้าไปเติมก๊าซ และรถบรรทุกก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวี อีกจำนวนกว่า 30 คัน ที่เข้าไปรับก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวี เพื่อนำไปให้ส่งกับปั้มก๊าซต่างๆ ในพื้นที่ภาคใต้ ทั้ง สงขลา นครศรีธรรมราช และ สุราษฏร์ธานี ไม่สามารถออกมาจากโรงแยกก๊าซได้ เนื่องจากกลุ่มชาวบ้านได้ปิดทางเข้าออกไว้ทั้งหมด ซึ่งคาดว่า หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย และหาข้อยุติไม่ได้ ก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวีในพื้นที่ภาคใต้จะกลับมาขาดแคลน และเข้าสู่ช่วงวิกฤตอีกครั้งตั้งแต่ช่วงเย็นของวันนี้
