สุราษฎร์ธานี - หน่วยรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับ ปภ.และราชาเฟอร์รี่ ซ้อมแผนช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทางทะเล กรณีเกิดไฟไหม้เรือเฟอร์รีข้ามฝากไปสมุย และพะงันกลางทะเล สร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติในฤดูกาลท่องเที่ยวนี้
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (7 มี.ค.) พ.อ.สัมฤทธิ์ ศุภรางกูร รองอำนวยการรักษาความมั่นภายในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานเปิดการฝึกซ้อมจำลองสถานการณ์ที่เป็นจริงรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ท่าเรือเฟอร์รีของบริษัท ราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) โดยมี พล.ร.อ.พีรจิตร์ สุรักขกะ ที่ปรึกษาบริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) ร.ท.ครรชิต บุญฤทธิ์ นายอำเภอดอนสัก ซึ่งทางกองรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยสมมติสถานการณ์จำลองเหตุการณ์เกิดอุบัติเหตุ 3 เหตุการณ์ เหตุการณ์แรกเป็นรถบรรทุกน้ำมันเกิดอุบัติเหตุเกิดไฟไหม้ขึ้นที่บริเวณท่าเทียบเรือเฟอร์รี มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เหตุการณ์ที่ 2 เป็นการจำลองอุบัติเหตุไฟไหม้บนเรือเฟอร์รี ระหว่างทางเรือโดยสารเรือเพื่อมุ่งหน้าไปยังเกาะสมุย ท่ามกลางผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เหตุการณ์ที่ 3 เป็นการจำลองเหตุการณ์นักท่องเที่ยวพลัดตกจากเรือเฟอร์รีลงไปในทะเล เจ้าหน้าที่ประจำเรือได้ทำการช่วยเหลือผู้ตกน้ำที่อยู่ในอาการไม่รู้สึกตัวมาทำการปฐมพยาบาลบนเรือเฟอร์รี ก่อนจะส่งต่อขึ้นเรือเล็กนำขึ้นฝั่งส่งต่อไปยังโรงพยาบาลเพื่อทำการช่วยชีวิตต่อไป
นายบุญศิริ เดี่ยววานิช ผู้อำนวยการปฎิบัติการท่าเรือเฟอร์รีฯ กล่าวว่า ทางบริษัทฯ ประกอบกิจการให้บริการเดินเรือ และให้บริการท่าเรือเดินทะเล บริการขนส่งพาณิชยนาวี และให้บริการเดินเรือโดยสารข้ามฟาก 2 เส้นทาง ที่ประกอบด้วย เส้นทางดอนสัก-เกาะสมุย และเส้นทางดอนสัก-เกาะพะงัน มีเรือเฟอร์รีจำนวน 14 ลำ จึงถือว่าเป็นกองเรือข้ามฟากที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อีกทั้งทางบริษัทฯ ยังได้รับรองคุณภาพมาตรฐาน ISO 9001:2008 ซึ่งเป็นการรับรองระบบจัดการด้านคุณภาพถูกนำไปใช้อย่างมีระบบและประสิทธิภาพ ส่งผลให้การให้บริการของบริษัทมีความปลอดภัยสูงในระดับสากล ซึ่งทั้ง 2 เส้นทางเป็นเส้นทางสำคัญทางทะเลของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่มีความงดงามด้วยทัศนียภาพของหาดทราย ทะเลใส รวมถึงเทศกาลที่มีชื่อเสียงระดับโลก คือ ฟูลมูนปาร์ตี้ ของเกาะพะงัน ทำให้แต่ละปีเกาะทั้ง 2 แห่งนี้ มีนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกเดินทางมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย จนสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและรายได้จากการท่องเที่ยวได้มากเพิ่มขึ้นทุกปี
ดังนั้น ทางบริษัทจึงตระหนักถึงความสำคัญของการให้บริการที่มุ่งเน้นความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นผู้โดยสาร รถยนต์ รถบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ ตลอดจนถึงพนักงานของบริษัท ควบคู่ไปกับการมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพการให้บริการ และให้ความสำคัญกับการวางแผนป้องกันมิให้เกิดความสูญเสียของชีวิตและทรัพย์สิน อันมาจากสถานการณ์ไม่คาดฝัน ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวในระยะยาว
จึงได้จัดโครงการฝึกอบรมและดำเนินการฝึกซ้อมรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินแบบจำลองสถานการณ์ ให้กับพนักงานประจำเรือและหน่วยกู้ภัยของบริษัทให้เรียนรู้มีความเข้าใจขั้นตอนการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุและเข้าควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมการเรียนรู้ขั้นตอนการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ประกอบไปด้วย หน่วยงานความมั่นคง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เทศบาลตำบล โรงพยาบาล สถานีตำรวจ และหน่วยกู้ภัยเอกชน ซึ่งถือเป็นการทำงานเชิงรุกเพื่อรองรับสถานการณ์ก่อนที่จะเกิดเหตุสถานการณ์จริง เนื่องจากในปัจจุบันในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีสถานการณ์เกี่ยวกับภัยธรรมชาติตามฤดูกาล และนอกฤดูกาลบ่อยครั้ง หากพนักงานมีความพร้อมความเชี่ยวชาญการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยและควบคุมสถานการณ์กรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินก็จะทำให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด หรือไม่มีเลย หากพนักงานบริษัทไม่เข้าใจขั้นตอนต่างๆ อาจทำให้เกิดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินก็เป็นไปได้
พร้อมกันนี้ทางบริษัทได้เพิ่มมาตรการการระมัดระวัง เกี่ยวกับการก่อเหตุร้าย เนื่องจากในขณะนี้มีสถานการณ์ในประเทศบ่อยครั้ง โดยจัดชุดตรวจระวางเรือทุกครั้งก่อนผู้โดยสารชุดใหม่จะลงเรือ เพื่อเป็นการป้องกันและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวชาวไทย
