ปัตตานี - หน่อยข่าวด้านความมั่นคง แจ้งเตือนหน่วยกำลังในพื้นที่ เฝ้าระวังคาร์บอมบ์ และ จยย.บอมบ์ ที่กลุ่มคนร้ายเตรียมนำมาก่อเหตุ โดยเป้าหมายการก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐ
หน่วยข่าวด้านความมั่นคง แจ้งเตือนให้หน่วยกองกำลังเฝ้าระวังรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ แค็บ สีบรอนซ์ ไม่ทราบทะเบียน ซุกระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนัก 20 กก.และรถจักรยานยนต์ ไม่ทราบยี่ห้อ ซุกระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนัก 5 กก. ที่นายลุกมาน ปูลาประเปะ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ป.วิอาญา คดีความมั่นคงและเป็นสมาชิก RKK ระดับปฏิบัติการณ์ เป็นผู้ที่ประกอบระเบิด
สายข่าวได้ระบุว่า ขณะนี้รถทั้ง 2 คันได้ขับออกจากพื้นที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี โดยไม่ทราบเป้าหมายการก่อเหตุ ขณะที่ นายอับดุลรอเซ๊ะ กูเตะ อายุ 37 ปี ได้นำแนวร่วมชุดใหม่เข้ามาเคลื่อนไหวใน อ.ยะรัง โดยเป้าหมายการก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ด้านหน่วยกำลัง 3 ฝ่ายในพื้นที่ จ.ปัตตานี ยังคงเพิ่มความเข้มในการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด หลังจากเกิดเหตุลอบวางระเบิดหลายครั้งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินภาครัฐและเอกชน โดยมีการตรวจค้นรถทุกชนิด เพิ่มกำลังชุดสายสืบออกหาข่าว
โดยเฉพาะการตรวจค้นบุคคลต้องสงสัยทั้งหญิง และชาย โดยการเพิ่มตำรวจหญิง ทหารพรานหญิง และ อส.หญิง ในการปฏิบัติหน้าที่การตรวจค้น เนื่องจากพบว่ากลุ่มแนวร่วมมีการแต่งกายในชุดเครื่องสตรีมุสลิมตบตาเจ้าหน้าที่เข้ามาก่อเหตุลอบวางระเบิด
หน่วยข่าวด้านความมั่นคง แจ้งเตือนให้หน่วยกองกำลังเฝ้าระวังรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ แค็บ สีบรอนซ์ ไม่ทราบทะเบียน ซุกระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนัก 20 กก.และรถจักรยานยนต์ ไม่ทราบยี่ห้อ ซุกระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนัก 5 กก. ที่นายลุกมาน ปูลาประเปะ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ป.วิอาญา คดีความมั่นคงและเป็นสมาชิก RKK ระดับปฏิบัติการณ์ เป็นผู้ที่ประกอบระเบิด
สายข่าวได้ระบุว่า ขณะนี้รถทั้ง 2 คันได้ขับออกจากพื้นที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี โดยไม่ทราบเป้าหมายการก่อเหตุ ขณะที่ นายอับดุลรอเซ๊ะ กูเตะ อายุ 37 ปี ได้นำแนวร่วมชุดใหม่เข้ามาเคลื่อนไหวใน อ.ยะรัง โดยเป้าหมายการก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ด้านหน่วยกำลัง 3 ฝ่ายในพื้นที่ จ.ปัตตานี ยังคงเพิ่มความเข้มในการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด หลังจากเกิดเหตุลอบวางระเบิดหลายครั้งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินภาครัฐและเอกชน โดยมีการตรวจค้นรถทุกชนิด เพิ่มกำลังชุดสายสืบออกหาข่าว
โดยเฉพาะการตรวจค้นบุคคลต้องสงสัยทั้งหญิง และชาย โดยการเพิ่มตำรวจหญิง ทหารพรานหญิง และ อส.หญิง ในการปฏิบัติหน้าที่การตรวจค้น เนื่องจากพบว่ากลุ่มแนวร่วมมีการแต่งกายในชุดเครื่องสตรีมุสลิมตบตาเจ้าหน้าที่เข้ามาก่อเหตุลอบวางระเบิด