ASTVผู้จัดการรายวัน -โจรใต้ป่วนกลางดึก วางระเบิดเพลิงเผา 3 อำเภอในปัตตานี "ห้างบิ๊กซี-มินิมาร์ท-โรงงาน-สำนักงานแขวงการทาง” ตำรวจเชื่อฝีมือแนวร่วมต้งอการสร้างสถานการณ์ ขณะที่คนร้ายในนราธิวาสซิ่งรถ จยย.ปาระเบิดถล่มใส่ร้านอาหารขณะที่ชาวบ้าน-ครูกำลังนั่งดื่มน้ำชาในช่วงเช้าได้รับบาดเจ็บระนาว 9 รายในจำนวนนี้มีหนูน้อยวัย 3 ขวบรวมอยู่ด้วย พร้อมลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารชุดมวลชนสัมพันธ์เจ็บอีก 2 นาย ด้าน ฉก.ยะลาสั่งเจ้าหน้าที่ตรวจเข้มสกัด จยย.บอมบ์
กลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงเหิมเกริมก่อเหตุท้าทายอำนาจรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 01.00 น. ของวานนี้ (1 มี.ค.) พ.ต.อ.สมพร มีสุข ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ห้างซุปเปอร์ดีพาร์ทเม็นสโตร์ เลขที่ 48/1 สี่แยกถนนพิพิธ ต.อาเนาะรู อ.เมืองปัตตานี ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองและเป็นย่านธุรกิจ เขตเทศบาลเมืองปัตตานี หลังรับแจ้งจึงประสานรถดับเพลิงเดินทางเข้าไประงับเหตุพบไฟได้ไหม้บริเวณแผนกขายส่งสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค อยู่ด้านหลังห้าง เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ จากการตรวจสอบพบว่าสินค้าหลายชนิดถูกไฟไหม้เสียหายจำนวนมาก ส่วนค่าเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้ สอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ให้การว่าได้ยินเสียงระเบิดเกิดขึ้นก่อน 1 ครั้ง จากนั้นจึงมีไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว
เวลาไล่เลี่ยกัน เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ภายในห้างบริเวณบิ๊กซี สาขาปัตตานี ตั้งอยู่ริมถนนหนองจิก เลขที่ 301 หมู่ 4 ต.รูสะมิแล อ.เมืองปัตตานี แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในห้างสามารถช่วยกันดับเพลิงไว้ได้ทัน และไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปในภายใน ทั้งนี้ พบว่าจุดเพลิงไหม้อยู่บริเวณแผนกผ้าอ้อมเด็ก และบริเวณผงซักฟอก ซึ่งเสียหายเล็กน้อย สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนหลบอยู่บริเวณหลังกำแพงก่อนจะใช้ระเบิดเพลิงมัดติดกับของหนักโยนกระแทกหลังคาก่อนจะตกลงภายในจนเกิดเสียงระเบิดขึ้นและเกิดเปลวไฟลุกไหม้ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร หรือเป็นการสร้างสถานการณ์ เนื่องจากเหตุเกิดขึ้นพร้อมกันทั้ง 2 แห่ง มีเสียงระเบิดและเพลิงไหม้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบหาหลักฐานอีกครั้ง
ส่วนในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ เวลาประมาณ 00.50 น.พ.ต.อ.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผกก.สภ.โคกโพธิ์ ได้รับแจ้งคนร้ายลอบวางเพลิงโรงรับซื้อไม้ยางพารา บริษัท ธานินทร์พาราวู๊ด เลขที่ 11 หมู่ 4 ต.โคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ ทำให้ไฟไหม้ด้านหลังโรงงานและไม้ยางได้รับความเสียหายบางส่วน
นอกจากนี้ คนร้ายยังลอบวางเพลิง ร้านเคพีมินิมาร์ท หมู่ 7 ตั้งอยู่ริมถนนในเขตเทศบาลตำบลโคกโพธิ์ ต.โคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ ทำให้บริเวณชั้นล่างได้รับความเสียหายทั้งหมด
**เผา สนง.แขวงการทาง-รถพ่วง18ล้อ
ขณะที่ในพื้นที่ อ.สายบุรี เวลา 01.00 น.พ.ต.อ.อาซีส อุมายี ผกก.สภ.สายบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ ที่สำนักงานแขวงการทาง อ.สายบุรี ริมถนนสาย 42 ปัตตานี-นราธิวาส บ้านกะลาพอ ม.5 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จึงพร้อมด้วยรถดับเพลิง อ.สายบุรีจำนวน 3 คันรุดไปดับเพลิง ไฟไหม้ประมาณครึ่งชั่วโมงจึงควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ จาdการตรวจสอบปรากฏว่าอาคารทำงานสำนักงานแขวงการทางเสียหายบางส่วน และบ้านพัก เป็นอาคารครึ่งไม้ครึ่งคอนกรีตเสียหาย 1 หลัง จากนั้นพบว่าบริเวณใกล้อาคารทำงานพบวัตถุระเบิดชนิดดึงสลัก บรรจุในกระป๋องสีน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม มีโทรศัพท์ และเงิน 40 บาท วางไว้เชื่อมกับสลัก แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ไหวทัน ได้แจ้งให้ผู้เชี่ยวชาญวัตถุระเบิดทำการเก็บกู้ได้สำเร็จ
นอกจากนั้น ยังเกิดเหตุไฟไหม้อีกจุดหนึ่ง เป็นรถยนต์บรรทุกแบบพ่วง 18 ล้อ ของบริษัทปัตตานีสหพันธ์ก่อสร้าง ของผู้รับเหมาในอำเภอเมืองปัตตานี ได้จอดไว้ริมถนน ปากทางเข้าอำเภอสายบุรี ม.5 บ้านเจาะกือแย ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี โดยคนร้ายลอบเผาล้อยางรถบรรทุกดังกล่าวเสียหายเล็กน้อย
ต่อมาเวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และกำลังเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุทั้ง 3 อำเภอ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้ยในครั้งนี้ เป็นการลอบวางเพลิงเพื่อสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ เนื่องจากเกิดจำนวนหลายจุดในเวลาไล่เลี่ยกัน
นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า เหตุลอบวางระเบิดและเผาหลายจุดในพื้นที่ จ.ปัตตานี ในภาพรวมได้รับความเสียหายไม่มากนัก โดยผู้ก่อเหตุได้ใช้ระเบิดเพลิงในการก่อเหตุ และมีการตั้งเป็นนาฬิกาจุดฉนวน โดยเหตุเกิดในเวลาที่ใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตาม ขณะที่ทางจังหวัดได้สั่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบหาหลักฐานต่างๆ และได้กำชับให้มีการเพิ่มความระมัดระวังในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยและการตรวจสอบให้มากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของเวรยาม แต่ก็ถือว่าโชคดีที่ครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
**ขว้างบึ้มใส่ร้านค้าในนราฯเจ็บ 9 ราย
ส่วนที่ จ.นราธิวาส เวลา 07.40 น.คนร้ายได้ขว้างระเบิดใส่ร้านค้าเลขที่ 99 ม.2 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ และอยู่ห่างจากจุดตรวจชุดปฏิบัติการณ์พิเศษที่ 333 สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ประมาณ 50 เมตรทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 ราย หลังเกิดเหตุนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วย พ.ต.อ.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส และ พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้นำกำลังชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด รวมทั้งกำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองไปที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บนอนจมกองเลือดอยู่ข้างร้านค้า เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลรือเสาะ
จากการตรวจสอบพบหลุมระเบิดที่บริเวณบนฟุตบาทหน้าร้านค้า เป็นหลุมลึก 6 นิ้ว กว้าง 4 นิ้ว และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดขว้างชนิดเอ็ม 26 ตกกระจายเกลื่อนทั่วบริเวณ โดยเฉพาะภายในร้านค้า ตู้ตั้งอาหาร ตู้กระจก รวมทั้งกันสาด มีร่องรอยถูกสะเก็ดระเบิดเป็นรูพรุน แถมบริเวณถนนหน้าร้านค้าพบจักรยานยนต์ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย 2 คัน
สำหรับผู้บาดเจ็บมีทั้งหมด 9 คนประกอบด้วย 1.น.ส.วรรณิษา ไชยสิทธิ์ อายุ 17 ปี 2.นางพิณรัตน์ อ่อนบรรจง อายุ 35 ปี 3.นายปรีชา จันทสาโร อายุ 62 ปี 4. ด.ต.ชยันต์ พันธ์ธนะ เจ้าหน้าที่สื่อสาร สภ.รือเสาะ 5. น.ส.นงนุช วงศ์สำเร็จ อายุ 41 ปี ลูกจ้างร้านค้าจุดเกิดเหตุ 6.นางเล็ก จันทสโร อายุ 56 ปี เจ้าของร้านค้า 7.น.ส.นิยาวานา รัตนรวมมาลา ครูโรงเรียนรือเสาะวิทยา 8. ด.ช.พุทธิสิทธิ์ วุ่นชุม อายุ 3 ขวบ และ 9.นางสุธาสินี วุ่นชุม อายุ 36 ปี ครูโรงเรียนอนุบาลรือเสาะ
โดยเหตุเกิดขณะที่ครู ตำรวจ และชาวบ้านกำลังนั่งดื่มน้ำชาและรับประทานอาหารเช้าอยู่ที่บริเวณร้านค้า ได้มีคนร้าย 2 คนแต่งกายในชุดนักเรียนโรงเรียนสอนศาสนา ขี่และซ้อนท้ายจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าแบบผู้หญิง เมื่อผ่านหน้าร้านค้าคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้ใช้ระเบิดขว้างชนิดเอ็ม 26 ขว้างใส่เข้าไปในร้านค้าจนเกิดระเบิดขึ้นดังกล่าว
**ลอบบึ้มทหารชุด ปจว.ที่นราฯเจ็บอีก 2
ต่อมาเวลา 10.30 น.คนร้ายได้ลอบวางระเบิดดักสังหารทหารชุดควบคุมที่ 957 ฉก.นราธิวาส บนถนนในหมู่บ้านตราแดะ หมู่ 5 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ ร.ต.ระพีพัฒน์ มงคล อายุ 25 ปี และ ส.อ.สมพศ หนูจันทร์ อายุ 32 ปี ถูกนำส่งรักษาตัวยังโรงพยาบาลระแงะ ในเวลาต่อมา
ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบหลุมระเบิดกลางถนนลึก 50 ซม.กว้าง 1 เมตร พร้อมเศษซากชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังดับเพลิงหนัก 20 กิโลกรัมที่จุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ และห่างไปประมาณ 20 เมตร พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน อยู่ในสภาพถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณตัวถังได้รับความเสียหาย
ก่อนเกิดเหตุ ร.ต.ระพีพัฒน์ มงคล หัวหน้าชุด พร้อมลูกน้องรวม 6 นายใช้รถยนต์กระบะและจักรยานยนต์เป็นพาหนะ เพื่อเดินทางไปสร้างจิตวิทยามวลชนที่บ้านกูจิงรือปะ หมู่ 4 ต.เฉลิม อ.ระแงะ ถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายลอบจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ถังดับเพลิงที่ลอบนำไปฝังไว้จนเกิดระเบิดดังกล่าวขึ้น
**ฉก.ยะลาสั่งตรวจเข้มสกัด จยย.บอมบ์
ทางด้านหน่วยเฉพาะกิจยะลา (ฉก.ยะลา) ได้แจ้งเตือนให้หน่วยกำลังตำรวจ ทหาร และเครือข่ายภาคประชาชน เฝ้าระวังและตรวจสอบการเข้ามาในเขตเมืองอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการตรวจค้นรถจักรยานยนต์ เนื่องจากฝ่ายการข่าวแจ้งมาว่ามีกลุ่มอาร์เคเคที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ได้ทยอยนำจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ ไม่ทราบรุ่นและทะเบียน ซึ่งประกอบเป็นระเบิดจักรยานยนต์บอมบ์สำเร็จแล้วเข้ามาในตัวเมืองยะลา
ทั้งนี้ ทราบว่าได้นำเข้ามาแล้วจำนวน 2 คัน เพื่อเตรียมการก่อเหตุในย่านชุมชน บริเวณถนนรวมมิตร ใกล้โรงแรมโคล่า ร้านอาหารกอไผ่ และชุมชนที่เป็นย่านการค้าที่มีชาวไทยพุทธหนาแน่น หากพบรถต้องสงสัยในลักษณะดังกล่าวให้รีบแจ้งหน่วยกำลังทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองโดยด่วน
กลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงเหิมเกริมก่อเหตุท้าทายอำนาจรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 01.00 น. ของวานนี้ (1 มี.ค.) พ.ต.อ.สมพร มีสุข ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ห้างซุปเปอร์ดีพาร์ทเม็นสโตร์ เลขที่ 48/1 สี่แยกถนนพิพิธ ต.อาเนาะรู อ.เมืองปัตตานี ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองและเป็นย่านธุรกิจ เขตเทศบาลเมืองปัตตานี หลังรับแจ้งจึงประสานรถดับเพลิงเดินทางเข้าไประงับเหตุพบไฟได้ไหม้บริเวณแผนกขายส่งสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค อยู่ด้านหลังห้าง เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ จากการตรวจสอบพบว่าสินค้าหลายชนิดถูกไฟไหม้เสียหายจำนวนมาก ส่วนค่าเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้ สอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ให้การว่าได้ยินเสียงระเบิดเกิดขึ้นก่อน 1 ครั้ง จากนั้นจึงมีไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว
เวลาไล่เลี่ยกัน เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ภายในห้างบริเวณบิ๊กซี สาขาปัตตานี ตั้งอยู่ริมถนนหนองจิก เลขที่ 301 หมู่ 4 ต.รูสะมิแล อ.เมืองปัตตานี แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในห้างสามารถช่วยกันดับเพลิงไว้ได้ทัน และไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปในภายใน ทั้งนี้ พบว่าจุดเพลิงไหม้อยู่บริเวณแผนกผ้าอ้อมเด็ก และบริเวณผงซักฟอก ซึ่งเสียหายเล็กน้อย สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนหลบอยู่บริเวณหลังกำแพงก่อนจะใช้ระเบิดเพลิงมัดติดกับของหนักโยนกระแทกหลังคาก่อนจะตกลงภายในจนเกิดเสียงระเบิดขึ้นและเกิดเปลวไฟลุกไหม้ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร หรือเป็นการสร้างสถานการณ์ เนื่องจากเหตุเกิดขึ้นพร้อมกันทั้ง 2 แห่ง มีเสียงระเบิดและเพลิงไหม้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบหาหลักฐานอีกครั้ง
ส่วนในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ เวลาประมาณ 00.50 น.พ.ต.อ.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผกก.สภ.โคกโพธิ์ ได้รับแจ้งคนร้ายลอบวางเพลิงโรงรับซื้อไม้ยางพารา บริษัท ธานินทร์พาราวู๊ด เลขที่ 11 หมู่ 4 ต.โคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ ทำให้ไฟไหม้ด้านหลังโรงงานและไม้ยางได้รับความเสียหายบางส่วน
นอกจากนี้ คนร้ายยังลอบวางเพลิง ร้านเคพีมินิมาร์ท หมู่ 7 ตั้งอยู่ริมถนนในเขตเทศบาลตำบลโคกโพธิ์ ต.โคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ ทำให้บริเวณชั้นล่างได้รับความเสียหายทั้งหมด
**เผา สนง.แขวงการทาง-รถพ่วง18ล้อ
ขณะที่ในพื้นที่ อ.สายบุรี เวลา 01.00 น.พ.ต.อ.อาซีส อุมายี ผกก.สภ.สายบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ ที่สำนักงานแขวงการทาง อ.สายบุรี ริมถนนสาย 42 ปัตตานี-นราธิวาส บ้านกะลาพอ ม.5 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จึงพร้อมด้วยรถดับเพลิง อ.สายบุรีจำนวน 3 คันรุดไปดับเพลิง ไฟไหม้ประมาณครึ่งชั่วโมงจึงควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ จาdการตรวจสอบปรากฏว่าอาคารทำงานสำนักงานแขวงการทางเสียหายบางส่วน และบ้านพัก เป็นอาคารครึ่งไม้ครึ่งคอนกรีตเสียหาย 1 หลัง จากนั้นพบว่าบริเวณใกล้อาคารทำงานพบวัตถุระเบิดชนิดดึงสลัก บรรจุในกระป๋องสีน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม มีโทรศัพท์ และเงิน 40 บาท วางไว้เชื่อมกับสลัก แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ไหวทัน ได้แจ้งให้ผู้เชี่ยวชาญวัตถุระเบิดทำการเก็บกู้ได้สำเร็จ
นอกจากนั้น ยังเกิดเหตุไฟไหม้อีกจุดหนึ่ง เป็นรถยนต์บรรทุกแบบพ่วง 18 ล้อ ของบริษัทปัตตานีสหพันธ์ก่อสร้าง ของผู้รับเหมาในอำเภอเมืองปัตตานี ได้จอดไว้ริมถนน ปากทางเข้าอำเภอสายบุรี ม.5 บ้านเจาะกือแย ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี โดยคนร้ายลอบเผาล้อยางรถบรรทุกดังกล่าวเสียหายเล็กน้อย
ต่อมาเวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และกำลังเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุทั้ง 3 อำเภอ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้ยในครั้งนี้ เป็นการลอบวางเพลิงเพื่อสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ เนื่องจากเกิดจำนวนหลายจุดในเวลาไล่เลี่ยกัน
นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า เหตุลอบวางระเบิดและเผาหลายจุดในพื้นที่ จ.ปัตตานี ในภาพรวมได้รับความเสียหายไม่มากนัก โดยผู้ก่อเหตุได้ใช้ระเบิดเพลิงในการก่อเหตุ และมีการตั้งเป็นนาฬิกาจุดฉนวน โดยเหตุเกิดในเวลาที่ใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตาม ขณะที่ทางจังหวัดได้สั่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบหาหลักฐานต่างๆ และได้กำชับให้มีการเพิ่มความระมัดระวังในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยและการตรวจสอบให้มากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของเวรยาม แต่ก็ถือว่าโชคดีที่ครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
**ขว้างบึ้มใส่ร้านค้าในนราฯเจ็บ 9 ราย
ส่วนที่ จ.นราธิวาส เวลา 07.40 น.คนร้ายได้ขว้างระเบิดใส่ร้านค้าเลขที่ 99 ม.2 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ และอยู่ห่างจากจุดตรวจชุดปฏิบัติการณ์พิเศษที่ 333 สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ประมาณ 50 เมตรทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 ราย หลังเกิดเหตุนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วย พ.ต.อ.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส และ พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้นำกำลังชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด รวมทั้งกำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองไปที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บนอนจมกองเลือดอยู่ข้างร้านค้า เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลรือเสาะ
จากการตรวจสอบพบหลุมระเบิดที่บริเวณบนฟุตบาทหน้าร้านค้า เป็นหลุมลึก 6 นิ้ว กว้าง 4 นิ้ว และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดขว้างชนิดเอ็ม 26 ตกกระจายเกลื่อนทั่วบริเวณ โดยเฉพาะภายในร้านค้า ตู้ตั้งอาหาร ตู้กระจก รวมทั้งกันสาด มีร่องรอยถูกสะเก็ดระเบิดเป็นรูพรุน แถมบริเวณถนนหน้าร้านค้าพบจักรยานยนต์ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย 2 คัน
สำหรับผู้บาดเจ็บมีทั้งหมด 9 คนประกอบด้วย 1.น.ส.วรรณิษา ไชยสิทธิ์ อายุ 17 ปี 2.นางพิณรัตน์ อ่อนบรรจง อายุ 35 ปี 3.นายปรีชา จันทสาโร อายุ 62 ปี 4. ด.ต.ชยันต์ พันธ์ธนะ เจ้าหน้าที่สื่อสาร สภ.รือเสาะ 5. น.ส.นงนุช วงศ์สำเร็จ อายุ 41 ปี ลูกจ้างร้านค้าจุดเกิดเหตุ 6.นางเล็ก จันทสโร อายุ 56 ปี เจ้าของร้านค้า 7.น.ส.นิยาวานา รัตนรวมมาลา ครูโรงเรียนรือเสาะวิทยา 8. ด.ช.พุทธิสิทธิ์ วุ่นชุม อายุ 3 ขวบ และ 9.นางสุธาสินี วุ่นชุม อายุ 36 ปี ครูโรงเรียนอนุบาลรือเสาะ
โดยเหตุเกิดขณะที่ครู ตำรวจ และชาวบ้านกำลังนั่งดื่มน้ำชาและรับประทานอาหารเช้าอยู่ที่บริเวณร้านค้า ได้มีคนร้าย 2 คนแต่งกายในชุดนักเรียนโรงเรียนสอนศาสนา ขี่และซ้อนท้ายจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าแบบผู้หญิง เมื่อผ่านหน้าร้านค้าคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้ใช้ระเบิดขว้างชนิดเอ็ม 26 ขว้างใส่เข้าไปในร้านค้าจนเกิดระเบิดขึ้นดังกล่าว
**ลอบบึ้มทหารชุด ปจว.ที่นราฯเจ็บอีก 2
ต่อมาเวลา 10.30 น.คนร้ายได้ลอบวางระเบิดดักสังหารทหารชุดควบคุมที่ 957 ฉก.นราธิวาส บนถนนในหมู่บ้านตราแดะ หมู่ 5 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ ร.ต.ระพีพัฒน์ มงคล อายุ 25 ปี และ ส.อ.สมพศ หนูจันทร์ อายุ 32 ปี ถูกนำส่งรักษาตัวยังโรงพยาบาลระแงะ ในเวลาต่อมา
ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบหลุมระเบิดกลางถนนลึก 50 ซม.กว้าง 1 เมตร พร้อมเศษซากชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังดับเพลิงหนัก 20 กิโลกรัมที่จุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ และห่างไปประมาณ 20 เมตร พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน อยู่ในสภาพถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณตัวถังได้รับความเสียหาย
ก่อนเกิดเหตุ ร.ต.ระพีพัฒน์ มงคล หัวหน้าชุด พร้อมลูกน้องรวม 6 นายใช้รถยนต์กระบะและจักรยานยนต์เป็นพาหนะ เพื่อเดินทางไปสร้างจิตวิทยามวลชนที่บ้านกูจิงรือปะ หมู่ 4 ต.เฉลิม อ.ระแงะ ถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายลอบจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ถังดับเพลิงที่ลอบนำไปฝังไว้จนเกิดระเบิดดังกล่าวขึ้น
**ฉก.ยะลาสั่งตรวจเข้มสกัด จยย.บอมบ์
ทางด้านหน่วยเฉพาะกิจยะลา (ฉก.ยะลา) ได้แจ้งเตือนให้หน่วยกำลังตำรวจ ทหาร และเครือข่ายภาคประชาชน เฝ้าระวังและตรวจสอบการเข้ามาในเขตเมืองอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการตรวจค้นรถจักรยานยนต์ เนื่องจากฝ่ายการข่าวแจ้งมาว่ามีกลุ่มอาร์เคเคที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ได้ทยอยนำจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ ไม่ทราบรุ่นและทะเบียน ซึ่งประกอบเป็นระเบิดจักรยานยนต์บอมบ์สำเร็จแล้วเข้ามาในตัวเมืองยะลา
ทั้งนี้ ทราบว่าได้นำเข้ามาแล้วจำนวน 2 คัน เพื่อเตรียมการก่อเหตุในย่านชุมชน บริเวณถนนรวมมิตร ใกล้โรงแรมโคล่า ร้านอาหารกอไผ่ และชุมชนที่เป็นย่านการค้าที่มีชาวไทยพุทธหนาแน่น หากพบรถต้องสงสัยในลักษณะดังกล่าวให้รีบแจ้งหน่วยกำลังทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองโดยด่วน