ปัตตานี - เกษตรเลี้ยงปลากระชัง อ.หนองจิก กว่า 1,000 กระชัง เดือดร้อนหนัก ปลาช็อคตายกว่า 3 แสนตัว หลังชลประทานงดจ่ายน้ำนาน 2 วัน ทำให้ปลาขาดออกซิเจน ร้องทางจังหวัดเข้าดูแลด่วน
ชาวบ้านในพื้นที่ ม.5 และ ม.6 บ.ปะกาลือสง ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ที่ประกอบอาชีพเลี้ยงปลาทับทิมได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักเมื่อทางเขื่อนชลประทานปัตตานี ได้งดจ่ายน้ำลงสู่แม่น้ำปัตตานีมาหลายวัน ทำให้ระดับน้ำในคลองตุยงลดลงอย่างต่อเนื่องกว่า 2 เมตร ส่งผลให้ปลาในกระชังเกือบ 1 พันกระชังขาดออกซิเจน ทำให้ปลาตายกว่า 3 แสนตัว
โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบ พบว่า ตลอดแนวคลองตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ระยะทางเกือบ 5 กิโลเมตร กินพื้นที่ 3 ตำบล คือ ต.ตุยง ต.เกาะเปาะ และ ต.ดอนรัก ปลาในกะชัง กว่า 1 พันกระชัง ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากว่า ปลาทับทิมในกระชัง ได้ช็อกตายกว่า 3 แสนตัว เพียงแค่คืนเดียวเท่านั้น ซึ่งปลาที่ตายส่วนใหญ่อายุกว่า 2 -3 เดือนแล้ว ชาวบ้านจึงช่วยกันนำปลาที่ตายเกลื่อนออกจากกระชัง เพื่อจำหน่ายให้กับโรงงานนำไปทำอาหารสัตว์ ในราคาเพียง กิโลกรัมละ 2-3 บาทเท่านั้น จากราคาเดิม กิโลกรัมละ 55-60 บาท ส่วนปลาที่ตายอยู่ในกระชังที่ยัง ไม่สามารถเก็บมาได้ เนื่องจากมีจำนวนมากนั้น ก็ได้ส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวนอย่างมาก เช่นเดียวกับปลาที่ยังไม่ตาย ชาวบ้านต่างรีบจับขึ้นมาเพื่อแช่แข็งทันที ก่อนที่จะนำไปจำหน่ายต่อไป
นายรุสลี มามะ อายุ 27 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้ปลาตายจำนวนมากในครั้งนี้ ก็เกิดจากการที่ คลองชลประทานจังหวัดปัตตานี งดจ่ายน้ำเป็นเวลากว่า 2 วันแล้ว จากระดับน้ำที่เคยสูงกว่าระดับปกติ กว่า 2 เมตร เมื่อมีการงดจ่ายน้ำ ทำให้ระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็วอย่างกะทันหัน ส่งผลให้ปลาในกระชังขาดออกซิเจน ปลาช็อกตายไปกว่าพันกระชัง เกิดความเสียหายอย่างมาก ซึ่งประชาชนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ส่วนปลาที่ตายไปก็จะนำไปจำหน่ายยังโรงงานเพื่อทำเป็นปลาไก่ (อาหารสัตว์) ในราคาเพียงแค่ 2 บาท จากราคาเดิมกิโลกรมละ 55 บาท ทำให้ขาดทุนอย่างมาก ซึ่งเหตุการณ์อย่างนี้ ก็เคยเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง 3 ครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้ถือว่าหนักที่สุด จึงอยากวอนให้ทางจังหวัดเข้ามาช่วยดูแลเยียวยาด้วย เนื่องจากชาวบ้านขาดทุนจำนวนมาก ประกอบกับยังติดค้างค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารปลาอีกด้วย