กระบี่ - ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกระบี่ คุมเข้มลักลอบเจาะบ่อบาดาล หวั่นทำดินทรุดตัว เผยแหล่งท่องเที่ยวมีการเจาะบ่อเพิ่มขึ้นเนื่องจากขาดแคลนน้ำ
นายทศพร โชติช่วง นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มงานสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ปัจจุบันในพื้นที่จังหวัดกระบี่ มีการขุดเจาะน้ำบาดาล เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจของสถานประกอบการ และใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคในครัวเรือนเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากองค์กรภาครัฐไม่สามารถจัดหาและบริการน้ำอุปโภคบริโภคได้เพียงพอในช่วงหน้าแล้ง โดยเฉพาะในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว ทั้งในพื้นที่ ต.อ่าวนาง ต.หนองทะเลและเกาะลันตา ที่พบว่ามีแนวโน้มการเจาะบ่อบาดาลเพิ่มขึ้น เพื่อนำน้ำมาใช้ในสถานประกอบการ
นายทศพรกล่าวอีกว่า หากไม่มีการควบคุมปล่อยให้มีการเจาะบาดาลอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ ก็จะทำให้แหล่งน้ำบาดาลเกิดการขาดแคลนหรือเสียหายได้ การสูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ในปริมาณที่มากกว่าเกินปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่ชั้นบาดาล ก็จะทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ดินเกิดการทรุดตัว การแพร่กระจายของน้ำเค็มเข้าสู่ชั้นน้ำบาดาล ทำให้ระดับน้ำในชั้นบาดาลลดลง ซึ่งการเจาะบ่อบาดาลในต่างจังหวัดจะต้องได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัด หรือ ผอ.สงน.ทสจ.เท่านั้น ถึงแม้ว่าสถานที่เจาะบ่อบาดาลจะอยู่ในที่ดินของตัวเองก็ตามต้องขออนุญาต
“สำหรับเขตน้ำบาดาลและความลึกของน้ำบาดาล ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ กำหนดความลึกจากผิวดินเกินกว่า 30 เมตร เป็นน้ำบาดาล ซึ่งมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2555 และหลังจากนั้นก็จะมีการเปลี่ยนแปลงประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องการกำหนดเขตน้ำบาดาลและความลึกของน้ำบาดาลใหม่ โดยกำหนดจากความลึกจากผิวดิน เกินกว่า 15 เมตร เป็นน้ำบาดาล โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2555 ผู้ที่ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”