xs
xsm
sm
md
lg

พ่อโร่แจ้งความลูกชาย ม.5 ถูกหนุ่มวัยกลางคนทุบกองกับพื้นคาสี่แยกกลางเมืองหาดใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - หนุ่มใหญ่ใช้ไม้ระแนงทุบตีเด็กหนุ่ม ม.5 กองกับพื้นคาสี่แยกไฟแดงกลางเมืองหาดใหญ่ เหตุฉุนขับ จยย.ฝ่าไฟแดงชนกับรถของภรรยาตน

วันนี้ (24 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น.นายสมจิตร์ จันทร์ปาน อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101/20 ซ.กัลยาเทพ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมด้วย นายสิริชัย จันทร์ปาน อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนแสงทองวิทยา อ.หาดใหญ่ ซึ่งเป็นบุตรชาย ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ประดิษฐ์ ชูเชิด สารวัตรเวร สภ.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายพิทยา อริยะปราโมช อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 489/29 ซ.19 ถ.เพชรเกษม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในข้อหาทำร้ายร่างกาย

เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาได้ใช้ไม้ระแนงทุบตีบุตรชายจนได้รับบาดเจ็บตามร่างกายหลายแห่ง หลังจากที่บุตรชายและภรรยาของนายพิทยา ได้ประสบอุบัติเหตุขับรถจักรยานยนต์ชนกัน และนายพิทยา ทราบข่าว จึงได้เข้ามาต่อว่าก่อนที่จะทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

โดย นายสิริชัย ผู้บาดเจ็บ ให้การว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนได้ขับรถจักรยานยนต์เพื่อไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนแสงทองวิทยา ตามปกติ เมื่อขับมาถึงจุดเกิดเหตุบริเวณ 4 แยกไฟแดงถนนศุภสารรังสรรค์ ตัดกับถนนราษฎร์ยินดี รถของตนได้เกิดติดสัญญาณไฟแดง และตนกลัวว่าจะไปเรียนหนังสือไม่ทันเนื่องจากสายมากแล้ว จึงตัดสินใจขับรถเลี้ยวซ้ายลัดเลาะไปตามไหล่ถนนเพื่อลักไก่ยูเทิร์นที่ถนนอีกฝั่งหนึ่ง

ซึ่งขณะที่ตนกำลังเลี้ยวรถกลับนั้นเป็นจังหวะเดียวกับที่ฝั่งถนนศุภสารรังสสรรค์เป็นไฟเขียวพอดี จึงเป็นเหตุให้ นางซูซาน อริยะปราโมช ซึ่งขับรถจักรยานยนต์มาด้วยความเร็ว ชนท้ายรถของตนเข้าอย่างจัง จนล้มลงไปกองกับพื้นที่ทั้งคู่
นายสิริชัย จันทร์ปาน และผู้ปกครอง
นายพิทยา อริยะปราโมช ผู้ก่อเหตุ และนางซูซาน ภรรยา
นายสิริชัย เล่าต่อว่า หลังจากนั้น นางซูซาน ได้โทร.ตามนายพิทยา ซึ่งเป็นสามีให้เข้ามาที่เกิดเหตุ และทันทีที่ นายพิทยา มาถึงก็ได้เข้าไปต่อว่าตนว่าทำไมขับรถอย่างนี้ และถามว่า ตนเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ให้ตามผู้ปกครองมาเคลียร์ แต่ตนยังอยู่ในอาการตื่นตระหนก และอึ้งอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงไม่ได้พูดตอบโต้อะไรออกไป เนื่องจากรู้ว่าตนเองเป็นฝ่ายผิด

หลังจากนั้น นายพิทยา ซึ่งอยู่ในอารมณ์โกรธสุดขีดก็ได้คว้าเอาไม้ระแนงขนาดประมาณ 1 นิ้ว และมีความกว่า 1 เมตร ซึ่งพกติดตัวมาด้วย วิ่งปรี่เข้ามาทุบตีตนจนนับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งขณะนั้นตนมีอาการบาดเจ็บจากการล้มรถจักรยานยนต์ จึงไม่มีแรงต่อสู้ขัดขืน ตนได้แต่ใช้แขนกันเอาไว้ แต่ นายพิทยา ก็ไม่ได้ยั้งมือ และใช้ไม้ระแนงทุบตีตนเข้าที่แขนซ้าย แผ่นหลัง และขาซ้าย จนตนล้มลงไปกองอยู่กับพื้น ท่ามกลางสายตาของผู้ที่สัญจรไปมาบนท้องถนนเป็นจำนวนมาก

ก่อนที่ตนจะล้มลงและตะเกียกตะกายมุดหัวคลานเข้าไปในกระถางต้นไม้ข้างทาง เพื่อเอาชีวิตรอด เนื่องจากหมดแรงสู้ ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานก็มีพลเมืองดีคนหนึ่งได้เข้ามาห้าม นายพิทยา เอาไว้ และโทร.แจ้งตำรวจ จึงทำให้ตนรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด
บาดแผลตามร่างกายที่เกิดจากเหตุถูกทุบตี

ขณะที่ นายสมจิตร์ ซึ่งเป็นพ่อของผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ตนยอมรับว่าบุตรชายได้ขับรถผิดกฎจราจรจริง ซึ่งน่าจะตกลงหรือชดใช้ค่าเสียหายกันได้ แต่การกระทำดังกล่าวของนายพิทยาเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ และไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่อุกอาจกลางสี่แยกไฟแดงต่อหน้าต่อตาสาธารณชนโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ซึ่งตนจะขอต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับบุตรชายจนถึงที่สุด

ด้าน พ.ต.ท.ประดิษฐ์ หลังจากรับเรื่องแล้วก็ได้ให้ นายสมจิตร์ นำบุตรชายไปตรวจร่างกายและขอใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ขณะที่ นายพิทยา ผู้ก่อเหตุ และ นางซูซาน ภรรยา ก็ได้มานั่งรับฟังข้อกล่าวหาด้วย และยอมรับว่าได้กระทำเกินกว่าเหตุจริง เนื่องจากโมโห ซึ่งหลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นัดคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย มาไกล่เกลี่ยกันอีกครั้งหนึ่ง และหากยอมความหรือตกลงกันไม่ได้ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น