xs
xsm
sm
md
lg

ตระกูล “แก้วดำรงชัย”ร้องสิทธิมนุษยชนฯ ศอ.บต.หลังถูกค้นบ้านเสียชื่อเสียงตกเป็นจำเลยสังคม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ครอบครัวตระกูล “แก้วดำรงชัย”เข้ายื่นหนังสือเรียกร้องความเป็นธรรมกับประธานคณะยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนา ศอ.บต.หลังตำรวจและทหารนำกำลังเข้าค้นบ้านทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ระบุทั้งตระกูลรับราชการเป็นทั้งตำรวจและเป็นครูทำคุณงามความดีมาตลอดตั้งแต่รุ่นพ่อ แต่ภายในเวลา 2 ชั่วโมงที่ถูกค้นบ้านทำให้ถูกมองในภาพลบและตกเป็นจำเลยสังคม

วันนี้(20 ก.พ.)นางสาวฟาตีม๊ะ แก้วดำรงชัย พร้อมด้วย นายสูไลมาน หรือ จ.ส.ต.กัมปนาท แก้วดำรงชัย และ นางวันดี แก้วดำรงชัย สามคนพี่น้อง ได้เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม กับ นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล ประธานคณะยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนา ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือศอ.บต.เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมหลังจากที่กำลังเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านพักใน จ.ปัตตานี ทำให้เสียชื่อเสียงและถูกมองในแง่ลบว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามและเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งที่คนในตระกูลตั้งแต่รุ่นพ่อและรุ่นลูกซึ่งมีพี่น้องรวม9 คนส่วนใหญ่รับราชการทั้งหมดและประกอบคุณงามความดีและทำประโยชน์เพื่อสังคมมาตลอด โดยเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งออกมารับผิดชอบและชี้แจงข้อเท็จจริงว่าครอบครัวของพวกตนมีความผิดอะไร

นางสาวฟาตีม๊ะ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมาได้มีกำลังตรวจคอมมานโดและทหารกว่า 100 นายพร้อมรถ 9 คันได้จู่โจมเข้าตรวจค้นบ้านพักของพวกตนรวม 5 หลัง คือบ้านเลขที่ 273, 275, 277, 279 และ 281 ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี โดยอ้างว่ามีคนร้ายหลบหนีเข้ามา จึงยอมให้ตรวจค้นแต่โดยซึ่งลักษณะการค้นไม่ใช่เป็นการหาผู้ต้องหาแต่เหมือนกับเป็นการค้นหายาเสพติดเพราะรื้อค้นจุดต้องสงสัยทุกแห่งในบ้าน และไม่ได้มีการลงบันทึกใดๆ ให้เจ้าของบ้านได้รับรู้

ซึ่งผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งต้องสงสัยหรือสิ่งผิดกฎหมายใดๆ และยังได้มีการเข้าค้นเป็นครั้งที่สองแต่ก็ไม่พบอะไรเช่นกัน ซึ่งผลจากการเข้าตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ทำให้ครอบครัวของพวกตนซึ่งส่วนใหญ่เป็นตำรวจและครูได้รับความเสื่อมเสียถูกมองในแง่ลบและทำลายความดีที่สะสมมาตั้งแต่รุ่นพ่อซึ่งเป็นตำรวจถูกลบหายไปในเวลา 2 ชั่วโมงที่ถูกเข้าตรวจค้น และตกเป็นจำเลยของสังคม

นาวสาวฟาตีม๊ะ กล่าวทั้งน้ำตานองหน้าว่า บิดาคือ จ.ส.ต.สมาน แก้วดำรงชัย ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วเป็นชาวกรุงเทพฯ และเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่และเป็นมือปราบ ขจก.เทือกเขาบูโด จนได้รับการจัดสรรที่ดินให้ 50 ไร่ รวมทั้งอาอีก 3 ท่านก็เป็นตำรวจ และปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตว์และมีเมตตา คนในพื้นที่รู้จักดี และมุ่งมั่นที่จะสอนลูกให้เป็นคนดีมีการศึกษาทำให้ลูกหลานจบระดับปริญญาตรี โดยเฉพาะลูกทั้ง 9 คนส่วนใหญ่รับราชการตำรวจและครู

โดยคนที่ 1 รับราชการครูเป็นครูดีเด่นของ จ.ปัตตานี รับราชการจนเกษียณอายุ คนที่ 2 ทำธุรกิจส่วนตัวมีลูกเป็นครูและลูกบางคนยังได้รับสายสะพายจากสุลต่านรัฐสลางอและเรียนได้รองเกียรตินิยมอันดับ 1 คนที่3 ทำงานบริษัทมีลูกสองคนเป็นครู คนที่ 4 ค้าขายมีลูก 3 คน รับราชการครู วิศวเหมืองแร่และปริญญาโทแพทย์แผนตะวันออก คนที่5 นายสูไลมาน หรือ จ.สต.กัมปนาท เป็นอดีตครูตำรวจ ที่เคยได้รับโล่ตำรวจดีเด่นหลายปีซ้อน เคยช่วยงานราชการให้กับแม่ทัพภาค 2 ทั้งสองท่าน

และเป็นนักกีฬาปัญจสิลัตชายยอดเยี่ยมในงานฉลองเอกราชประเทศบรูไนและได้รับของที่ระลึกจาก พลเอกชาติชาย ชุณหวัน และได้เป็นบุคลากรข้าราชการดีเด่น ร.ร.กีฬา จ.ยะลาและได้รับสายสะพายจากนายกรัฐมนตรีนาจีป เบ็นอับดุลราซัค แห่งประเทศมาเลเซียนับเป็นเกียรติแก่ตระกูลเป็นอย่างยิ่ง คนที่ 6 รับข้าราชการตำรวจฝ่ายความมั่นคงและปราบปรามยาเสพติด คนที่ 7 รับราชการพัฒนากรอำเภอ คนที่ 8 คือตน เป็นครู และคนที่ 9 มีอาชีพเป็นครูเช่นกัน

นางสาวฟาตีม๊ะ กล่าวว่า พวกตนยึดมั่นในการทำความดีและรับใช้ชาติมาตลอดซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีใครรับได้โดยเฉพาะ แม่ซึ่งมีอายุ 78 ปี และขณะตำรวจทหารเข้าตรวจค้นก็อยู่ในบ้านแต่พูดอะไรไม่ออกต่างจากปกติที่เป็นคนพูดมาก ได้พูดออกมาจากใจว่าตนนี้กลายเป็นคนที่เกลียดตำรวจและทหาร แม่ว่าจะเคยผูกพันกับคนในเครื่องแบบมาตลอดชีวิตเป็นทั้งแม่และเมียของตำรวจ พวกตนจึงต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตระกูล โดยหลังจากนี้จะยื่นหนังสือไปยังนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้และเลขาธิการ ศอ.บต.ต่อไป

ด้าน นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล ประธานคณะยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนา เปิดเผยว่า จะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดและประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งชี้แจงข้อเท็จจริงของเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับคนในตระกูล แก้วดำรงชัย ทุกคน


กำลังโหลดความคิดเห็น