ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - พยาบาลยื่นหนังสือ “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” เป็นตัวกลางถึงรัฐบาล ร้องปัญหาวิกฤตไม่ยอมบรรจุต้องลาออกกว่า 100 คน/ปี โดยที่ รพ.มอ.หาดใหญ่รับผู้ป่วยจาก 14 จังหวัดภาคใต้ กระอักหนัก ต้องลดเตียงผู้ป่วยลงทุกปีถึง 15 % ซึ่งจะกระทบหนักกับรับผู้ป่วยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่
นายมนูญ หมวดเอียด ตัวแทนพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือถึงนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถึงรัฐบาลเพื่อขอความอนุเคราะห์ช่วยประสานงานกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ซึ่งกลุ่มพยาบาลโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เคยไปยื่นหนังสือต่ออดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2554 ที่ผ่านมา เกี่ยวกับเรื่องการขอบรรจุเข้ารับราชการ จนถึงขณะเรื่องใกล้จะครบ 1 ปีแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการดำเนินการใดๆ จากรัฐบาลแต่อย่างใด
ทางกลุ่มพยาบาล จึงมีมติให้ยื่นหนังสือสอบถามความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวกับ นายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และรัฐมนตรีว่าการกระทวงศึกษาธิการในวันที่ 13 มีนาคม 2555 นี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล จึงขอความอนุเคราะห์ ให้ช่วยประสานงานกับนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
นายมนูญ ยังกล่าวอีกว่า รพ.มอ.ขณะนี้ได้ประสบกับภาวะการขาดแคลนบุคคลากรทางด้านพยาบาลวิชาชีพเนื่องจากมีการลาออกโดยที่ยังไม่ได้รับการบรรจุเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในปี 2553 ได้ลาออกถึง 152 คน และมีแนวโน้มว่าจะลาออกอีกจำนวนมากทุกปีไม่ต่ำกว่า 100 คน ส่งผลให้โรงพยาบาลเกิดการขาดแคลนพยาบาลวิชาชีพเป็นอย่างหนัก จนมีผลกระทบต่อผู้ป่วย เพราะหอผู้ป่วยหลายหอต้องลดจำนวนเตียงลง เนื่องจากอัตรากำลังดูแลผู้ป่วยไม่เพียงพอใน
“คาดว่าตอนเตียงผู้ป่วยลงลดลงไปประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ และกำลังเกิดภาวะวิกฤต มอ.เป็นโรงพยาบาลตติยภูมิที่รับส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลต่างๆ และทั่ว 14 จังหวัดภาคใต้ และรองรับผู้ป่วยจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งภัยพิบัติต่างๆ นอกจากนี้แล้วจะมีผลกระทบต่อการเปิดศูนย์อุบัติเหตุ ที่รัฐบาลต้องการให้เป็นศูนย์รองรับผู้ป่วยจากเหตุการณ์ความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย”
นายมนูญ ยังกล่าวอีกว่า สาเหตุของการลาออกของพยาบาลวิชาชีพ เนื่องจากยังไม่ได้บรรจุเป็นข้าราชการ ทำให้ไม่มีความมั่นคงในวิชาชีพ ขาดกำลังใจทำงาน ทั้งที่ภาระงานที่ต้องรับผิดชอบหนักและซับซ้อนกว่าโรงพยาบาลอื่นๆ ในภาคใต้ ดังนั้นเพื่อให้โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ สามารถดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงขอให้โปรดพิจารณาเรื่องการบรรจุพยาบาลวิชาชีพ ที่ยังไม่ได้รับการบรรจุ เป็นข้าราชการของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ด้วย
นายมนูญ หมวดเอียด ตัวแทนพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือถึงนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถึงรัฐบาลเพื่อขอความอนุเคราะห์ช่วยประสานงานกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ซึ่งกลุ่มพยาบาลโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เคยไปยื่นหนังสือต่ออดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2554 ที่ผ่านมา เกี่ยวกับเรื่องการขอบรรจุเข้ารับราชการ จนถึงขณะเรื่องใกล้จะครบ 1 ปีแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการดำเนินการใดๆ จากรัฐบาลแต่อย่างใด
ทางกลุ่มพยาบาล จึงมีมติให้ยื่นหนังสือสอบถามความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวกับ นายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และรัฐมนตรีว่าการกระทวงศึกษาธิการในวันที่ 13 มีนาคม 2555 นี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล จึงขอความอนุเคราะห์ ให้ช่วยประสานงานกับนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
นายมนูญ ยังกล่าวอีกว่า รพ.มอ.ขณะนี้ได้ประสบกับภาวะการขาดแคลนบุคคลากรทางด้านพยาบาลวิชาชีพเนื่องจากมีการลาออกโดยที่ยังไม่ได้รับการบรรจุเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในปี 2553 ได้ลาออกถึง 152 คน และมีแนวโน้มว่าจะลาออกอีกจำนวนมากทุกปีไม่ต่ำกว่า 100 คน ส่งผลให้โรงพยาบาลเกิดการขาดแคลนพยาบาลวิชาชีพเป็นอย่างหนัก จนมีผลกระทบต่อผู้ป่วย เพราะหอผู้ป่วยหลายหอต้องลดจำนวนเตียงลง เนื่องจากอัตรากำลังดูแลผู้ป่วยไม่เพียงพอใน
“คาดว่าตอนเตียงผู้ป่วยลงลดลงไปประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ และกำลังเกิดภาวะวิกฤต มอ.เป็นโรงพยาบาลตติยภูมิที่รับส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลต่างๆ และทั่ว 14 จังหวัดภาคใต้ และรองรับผู้ป่วยจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งภัยพิบัติต่างๆ นอกจากนี้แล้วจะมีผลกระทบต่อการเปิดศูนย์อุบัติเหตุ ที่รัฐบาลต้องการให้เป็นศูนย์รองรับผู้ป่วยจากเหตุการณ์ความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย”
นายมนูญ ยังกล่าวอีกว่า สาเหตุของการลาออกของพยาบาลวิชาชีพ เนื่องจากยังไม่ได้บรรจุเป็นข้าราชการ ทำให้ไม่มีความมั่นคงในวิชาชีพ ขาดกำลังใจทำงาน ทั้งที่ภาระงานที่ต้องรับผิดชอบหนักและซับซ้อนกว่าโรงพยาบาลอื่นๆ ในภาคใต้ ดังนั้นเพื่อให้โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ สามารถดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงขอให้โปรดพิจารณาเรื่องการบรรจุพยาบาลวิชาชีพ ที่ยังไม่ได้รับการบรรจุ เป็นข้าราชการของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ด้วย