xs
xsm
sm
md
lg

ไทยพุทธปัตตานีชั่งใจย้ายหนีหลังโจรใต้ยิงสองผัวเมียดับ ทั้งหมู่บ้านเหลือ 17 คน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บ้านของชาวไทยพุทธหนึ่งใน 5 หลังที่บ้านในเนื้อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ปัจจุบันเหลือสมาชิกเพียง 17 คน
ปัตตานี - ชาวไทยพุทธที่บ้านในเนื้อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ที่คงเหลือยังลังเลว่าจะตัดสินใจอพยพจากเหตุเสี่ยงภัยหรือไม่ หลังคนร้ายยิงสมาชิกไทยพุทธสองผัวเมียดับ ทิ้งแม่แก่ชราไว้ ทำให้สมาชิกลดเหลือเพียง 17 คน ซึ่งเป็นเหตุร้ายครั้งที่ 2 ในรอบ 6 ปี และก่อนหน้านี้ได้อพยพหนีไปแล้วครั้งหนึ่ง

จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (14 ก.พ.) เกิดเหตุคนร้ายยิงกันมีผู้เสียชีวิตบริเวณหมู่ที่ 3 ตำบลน้ำบ่อ อำเภอปะนาเระ เสียชีวิต 2 ราย คือ นายอนันต์ แซ่เอี้ยว และนางลักขณา แซ่เอี้ยว สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 201 หมู่ที่ 2 บ้านในเนื้อ ตำบลน้ำบ่อ ขณะขับขี่จักรยานยนต์ออกจากบ้านพักเพื่อหาของป่า ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือแนวร่วมในพื้นที่สร้างสถานการณ์นั้น

ทั้งนี้ หมู่บ้านในเนื้อมีเส้นทางเข้าออกสองทางและค่อนข้างเปลี่ยว มีบ้านรวมกัน 5 หลัง ปลูกเป็นกลุ่มใกล้ๆ กัน โดยมีฐานปฏิบัติการทหารพรานตั้งอยู่ตรงกลาง แต่หลังเกิดเหตุร้ายบรรยากาศของบ้านในเนื้อ ซึ่งเป็นหมู่บ้านของผู้เสียชีวิตมีบรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากชาวบ้านได้เดินทางไปร่วมงานศพของผู้เสียชีวิตทั้งสองที่วัดคอกกระบือ อำเภอปะนาเระ

จ.ส.อ.อุดร คงคืน ผู้บังคับการชุดปฏิบัติการทหารพรานบ้านในเนื้อ เปิดเผยว่า หมู่บ้านในเนื้อมีชาวไทยพุทธอาศัยอยู่ 5 ครอบครัว รวม 19 คน เสียชีวิตไปอีก 2 คน เหลือ 17 คน เมื่อก่อนมีสิบกว่าครอบครัว แต่หลังเกิดเหตุไม่สงบจึงย้ายออกไปอยู่ที่อื่น

“หลังเกิดเหตุครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทหารพรานต้องเพิ่มการดูแลชาวบ้านมากขึ้นไปอีก ส่วนกรณีที่ชาวบ้านประสบเหตุ เนื่องจากออกเดินทางไปไหนมาไหน โดยไม่ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ” จ.ส.อ.อุดรกล่าว

ด้าน นายประกอบ พี่เขยของนายอนันต์ เปิดเผยด้วยภาษามลายูท้องถิ่นว่า ตนปลูกบ้านอยู่ใกล้กับบ้านของนายอนันต์ ซึ่งนายอนันต์เป็นอดีตทหารพราน บ้านนายอนันต์ มีทั้งหมด 3 คน เมื่อนายอนันต์กับภรรยาเสียชีวิต จึงเหลือแม่ของนายอนันต์ อายุ 60 ปี คนเดียว หลังจากนี้ตนคงต้องเป็นคนดูแล

อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านที่นี่เคยประสบเหตุไม่สงบมาแล้วครั้งแรกเมื่อปี 2549 ถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่บ้านท่าสู ส่วนครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง โดยนายอนันต์มักชอบออกเดินทางไปหาของป่าตามลำพังเป็นประจำ

นายประกอบเปิดเผยด้วยว่า ชาวไทยพุทธทั้ง 5 ครอบครัว ประกอบอาชีพทำสวนมะพร้าว และรับจ้างเลี้ยงเป็ดไก่จากนายจ้างที่เป็นชาวมุสลิม และมีการไปมาหาสู่กับชาวมุสลิมที่อยู่รอบๆ ทั้ง 5 ครอบครัว เป็นชาวไทยพุทธที่อาศัยอยู่ดั้งเดิมตั้งแต่รุ่นปูย่าตายาย จึงไม่คิดจะย้ายออกไปไหน ส่วนคนที่ย้ายออกไป ส่วนมากเป็นคนมาจากที่อื่น เมื่อเกิดเหตุไม่สงบจึงไม่กล้าอาศัยอยู่ต่อ

“อยู่ที่นี่ กลัวก็กลัว แต่ต้องอยู่เพราะไม่รู้จะย้ายไปอยู่ที่ไหน ถ้าย้ายไปแล้วก็ต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกับชาวบ้านที่เหลืออยู่ว่าจะตัดสินใจอย่างไรต่อไป” นายประกอบกล่าว

โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้ ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ (DSJ)
กำลังโหลดความคิดเห็น