ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คณะกรรมการยุติธรรมสิทธิมนุษยชน ประจำสภาที่ปรึกษา ศอ.บต.แนะ ศอ.บต.เร่งชี้แจงให้ทุกภาคส่วนเข้าใจเกี่ยวกับเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ 7.5 ล้านบาท ซึ่งบางกรณีอาจได้ไม่เท่ากัน ป้องกันปัญหาใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้น รวมทั้งต้องนำเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิดมาดำเนินคดีทางอาญาควบคู่กันเพื่อให้เกิดความยุติธรรมขึ้นจริงๆ
วันนี้ (13 ก.พ.) ที่โรงแรมหาดใหญ่พาราไดซ์แอนด์รีสอร์ท อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คณะกรรมการยุติธรรมสิทธิมนุษยชน ประจำสภาที่ปรึกษาศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้ประชุมเพื่อติดตามกรณีเงินเยียวยา 7.5 ล้านบาท ที่จะจ่ายให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งสี่กลุ่มเทียบเท่ากับกรณีทางการเมือง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล ในฐานะประธานคณะกรรมการยุติธรรมสิทธิมนุษยชนฯ ประจำสภาที่ปรึกษาศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวว่า การจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งสี่กลุ่ม คือประกอบด้วยกลุ่มแรกเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ และสะบ้าย้อย เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2547 กลุ่มเหตุการณ์ตากใบและไอร์ปาแย กลุ่มผู้ที่ถูกระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐกรณีการหายสาบสูญโดยถูกบังคับหรือการทรมาน หรือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทั่วไป
เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาความไม่สงบโดยเฉพาะการสร้างความเป็นธรรม แต่ต้องมองให้รอบด้านทุกมิติ เนื่องจากมีการตั้งวงเงินไว้สูงถึง 7.5 ล้านบาท หากการบริหารจัดการไม่ดีจะทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมขึ้น
ทั้งนี้ เนื่องจากการจ่ายเงินเยียวยาในแต่ละกลุ่มนั้นอาจจะได้ไม่เท่ากัน สิ่งที่ ศอ.บต.จะต้องทำหลังจากนี้คือต้องเร่งชี้แจงสร้างความเข้าใจให้กับผู้ที่ได้รับกระทบและมีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยารวมถึงทุกภาคส่วนให้เข้าใจตรงกันว่าทำไมแต่ละเหตุการณ์ถึงได้ไม่เท่ากัน เพราะหากไม่มีการสื่อสารให้เข้าใจเงินเยียวยา 7.5 ล้านบาท จะเป็นประเด็นใหม่ที่จะสร้างปัญหาขึ้นในพื้นที่ และหากจะสร้างความเป็นธรรมขึ้นในพื้นที่จริงๆ ก็จะต้องดำเนินการสอบสวนเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐควบคู่กันไปด้วย
นอกจากนี้ ในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐ หรือผู้ที่ทำงานให้กับรัฐและเสียชีวิตจากเหตุความไม่สงบก็จะต้องดำเนินการช่วยเหลือด้วยเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันด้วยซึ่งจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ศอ.บต.เพื่อพิจารณาต่อไป
วันนี้ (13 ก.พ.) ที่โรงแรมหาดใหญ่พาราไดซ์แอนด์รีสอร์ท อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คณะกรรมการยุติธรรมสิทธิมนุษยชน ประจำสภาที่ปรึกษาศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้ประชุมเพื่อติดตามกรณีเงินเยียวยา 7.5 ล้านบาท ที่จะจ่ายให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งสี่กลุ่มเทียบเท่ากับกรณีทางการเมือง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล ในฐานะประธานคณะกรรมการยุติธรรมสิทธิมนุษยชนฯ ประจำสภาที่ปรึกษาศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวว่า การจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งสี่กลุ่ม คือประกอบด้วยกลุ่มแรกเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ และสะบ้าย้อย เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2547 กลุ่มเหตุการณ์ตากใบและไอร์ปาแย กลุ่มผู้ที่ถูกระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐกรณีการหายสาบสูญโดยถูกบังคับหรือการทรมาน หรือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทั่วไป
เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาความไม่สงบโดยเฉพาะการสร้างความเป็นธรรม แต่ต้องมองให้รอบด้านทุกมิติ เนื่องจากมีการตั้งวงเงินไว้สูงถึง 7.5 ล้านบาท หากการบริหารจัดการไม่ดีจะทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมขึ้น
ทั้งนี้ เนื่องจากการจ่ายเงินเยียวยาในแต่ละกลุ่มนั้นอาจจะได้ไม่เท่ากัน สิ่งที่ ศอ.บต.จะต้องทำหลังจากนี้คือต้องเร่งชี้แจงสร้างความเข้าใจให้กับผู้ที่ได้รับกระทบและมีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยารวมถึงทุกภาคส่วนให้เข้าใจตรงกันว่าทำไมแต่ละเหตุการณ์ถึงได้ไม่เท่ากัน เพราะหากไม่มีการสื่อสารให้เข้าใจเงินเยียวยา 7.5 ล้านบาท จะเป็นประเด็นใหม่ที่จะสร้างปัญหาขึ้นในพื้นที่ และหากจะสร้างความเป็นธรรมขึ้นในพื้นที่จริงๆ ก็จะต้องดำเนินการสอบสวนเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐควบคู่กันไปด้วย
นอกจากนี้ ในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐ หรือผู้ที่ทำงานให้กับรัฐและเสียชีวิตจากเหตุความไม่สงบก็จะต้องดำเนินการช่วยเหลือด้วยเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันด้วยซึ่งจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ศอ.บต.เพื่อพิจารณาต่อไป
